โยคะ คือศาสตร์การฝึกฝนร่างกายและจิตใจ โดยมีลักษณเด่นคือการเคลื่อนไหวและแสดงท่วงท่าต่าง ๆ อย่างช้า ๆ ซึ่งอาจมีประโยชน์ทั้งต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต รวมไปถึง โยคะสำหรับคนท้อง ที่อาจดีต่อสุขภาพของคุณแม่ตั้งครรภ์และทารกในครรรภ์ อย่างไรก็ตาม ก่อนเริ่มฝึกโยคะสำหรับคนท้อง ควรปรึกษาคุณหมอก่อนเพื่อความปลอดภัย
[embed-health-tool-pregnancy-weight-gain]
ประโยชน 7 ประการ ของการฝึก โยคะสำหรับคนท้อง
การฝึกโยคะ ทำให้คุณแม่ร่างกายสมบูรณ์และแข็งแรงขึ้น
ระหว่างการตั้งครรภ์ ร่างกายจะต้องพบกับการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและอารมณ์อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนต่าง ๆ เช่น
- ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen)
- ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone)
- ฮอร์โมนโพรแลคติน (Prolactin)
- ฮอร์โมนออกซิโทซิน (Oxytocin)
การฝึกโยคะ สำหรับผู้ตั้งครรภ์นั้น จะช่วยให้ร่างกายปรับตัวได้อย่างเหมาะสม เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในระหว่างการตั้งครรภ์ มีประโยชน์ในการช่วยสร้างความแข็งแรงให้ร่างกายโดยเฉพาะบริเวณช่วงล่าง ทำให้สามารถลดปัญหาการรับน้ำหนักของท้องที่โตขึ้น และยังทำให้คุณแม่รู้สึกสบายและผ่อนคลายอีกด้วย
โยคะเป็นวิธีเรียนรู้เทคนิคการหายใจได้ดีเยี่ยม
อยากรู้ไหมว่าทำไมการเรียนรู้เทคนิคการหายใจจึงสำคัญมากสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์ เทคนิคการฝึกหายใจนั้นให้ผลดีไม่เพียงแต่เฉพาะทางร่ายกายเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อสภาพจิตใจด้วย
คำตอบคือ..การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่เกิดขึ้นระหว่างการตั้งครรภ์นั้นมีผลต่อสภาพทางอารมณ์ของคุณแม่ อารมณ์นั้นสามารถเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วโดยไม่มีเหตุผล ซึ่งอาจสร้างความสับสน งวยงงให้แก่คู่ครองหรือคนรอบข้าง หากต้องอยู่ตกอยู่ภาวะวิตกกังวลแบบไร้เหตุผล เพื่อการควบคุมอารมณ์ที่ดีขึ้นของคุณแม่ตั้งครรภ์ การหายใจอย่างมีสตินั้นจึงเป็นวิธีที่แนะนำให้ใช้
ครูผู้ฝึกโยคะสำหรับผู้ตั้งครรภ์นั้น จะสอนให้คุณแม่ตั้งครรภ์เรียนรู้ถึงเทคนิคการหายใจที่ดีขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อการลดหรือจัดการกับปัญหาการหายใจที่ไม่เต็มอิ่มที่มักเกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ ทั้งยังช่วยเพิ่มระดับออกซิเจนให้ลูกน้อยอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น การเรียนรู้เทคนิคการหายใจยังช่วยให้ลดความเจ็บปวดระหว่างการคลอดอีกด้วย การหายใจสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์นั้นสำคัญมากจนมีคำกล่าวที่ว่า “การหายใจคือเพื่อนที่ดีที่สุดระหว่างการคลอดลูก”
การฝึกโยคะ มีส่วนช่วยลดอาการปวดหลัง
ปัญหาที่พบบ่อยในหญิงตั้งครรภ์ก็คือ การทรมานจากการสูญเสียสมดุลของร่างกาย รวมไปถึงอาการปวดหลังส่วนล่างด้วย โยคะเพื่อการตั้งครรภ์นั้น จะเข้ามามีบทบาทในการช่วยให้เลือดนั้นไหลเวียนผ่านทั่วร่างกายได้ดีขึ้น ซึ่งจะไปช่วยพัฒนาความแข็งแกร่งและปรับสมดุลของร่างกาย รวมทั้งช่วยยืดกล้ามเนื้อ และกระชับกล้ามเนื้อบริเวณหลังส่วนล่างด้วย
สร้างความทนทานของกล้ามเนื้อเพื่อเตรียมให้กำเนิดลูกน้อย
การฝึกโยคะสำหรับผู้ตั้งครรภ์นั้นออกแบบมาเพื่อเพิ่มความทนทานของกล้ามเนื้อที่จำเป็นต่อการคลอดลูก ซึ่งจำเป็นจะต้องฝึกให้กล้ามเนื้อสะโพกยืดหยุ่นเป็นพิเศษ ท่าสควอทคือหนึ่งในท่าสำคัญที่ช่วยยืดกล้ามเนื้อส่วนสะโพกและอุ้งเชิงกราน
นอกจากเป็นการออกกำลังกายแล้ว การฝึกโยคะ นั้นยังผสมผสานเทคนิคการหายใจ ร่วมไปกับการเคลื่อนไหวร่างกาย และยังช่วยควบคุมความเจ็บปวดระหว่างการหดเกร็งของกล้ามเนื้อระหว่างการคลอด และยังบรรเทาจากความรู้สึกวิตกกังวล และความกระวนกระวายที่เกิดจากการคลอดตามธรรมชาติได้อีกด้วย
การเล่นโยคะช่วยให้ผ่อนคลายและรู้สึกสงบ
ส่วนใหญ่หญิงตั้งครรภ์นั้นจะรู้สึกกังวลกับท้องที่ขยายตัวใหญ่ขึ้น หรือวุ่นวายกับการเตรียมตัวก่อนคลอดและการเลือกรับประทานเมนูอาหารสุขภาพ ซึ่งความกังวลเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าและการนอนไม่หลับ การฝึกโยคะ สำหรับผู้ตั้งครรภ์อย่างสม่ำเสมอนั้นจะช่วยให้หายใจเข้าและออกอย่างช้า ๆ และเต็มอิ่มผ่านทางจมูก และช่วยให้ผ่อนคลายเมื่อต้องเผชิญกับความวิตกกังวลที่ไม่คาดคิด
ท่าโยคะเพื่อการผ่อนคลายหรือท่าศวาสนะหรือท่าศพที่ใช้เป็นท่าจบใน การฝึกโยคะ สำหรับผู้ตั้งครรภ์นั้นสามารถช่วยรักษาอาการนอนไม่หลับอย่างได้ผล
การสร้างสายสัมพันธ์กับลูกน้อย
เมื่อคุณแม่ฝึกโยคะสำหรับผู้ตั้งครรภ์ ท่าทางการเคลื่อนไหวหลายท่าและท่าโยคะต่าง ๆ ที่ได้ฝึกไปนั้นจะช่วยให้ลูกน้อยผ่อนคลาย และบางครั้งผู้สอนโยคะอาจจะสอนวิธีสื่อสารกับลูกน้อยที่อยู่ครรภ์ เช่น การลูบท้องเบา ๆ ก่อนเริ่มต้นการฝึกโยคะ และการพูดคุยกับลูกน้อยว่าจะมาฝึกเคลื่อนไหวไปพร้อม ๆ กัน การทำเช่นนี้ทำให้รู้สึกสบายขึ้นระหว่าง การฝึกโยคะ และทำให้คุณแม่สื่อสารกับลูกน้อยได้มากขึ้น
ช่วยให้มีสังคมใหม่กับคุณแม่คนอื่น ๆ
การไปเรียนโยคะที่สตูดิโอและ การฝึกโยคะ เพื่อการตั้งครรภ์นั้น สามารถเป็นช่วงเวลาที่ดีเยี่ยมที่จะได้ร่วมเข้าสังคมกับหญิงตั้งครรภ์คนอื่น ๆ โดยสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับรูปร่างที่เปลี่ยนแปลงไป ข้อมูลโรงพยาบาลและข้อมูลสูตินรีแพทย์ หรือแม้แต่ประเภทของผ้าอ้อมที่ดีและมีราคาเหมาะกับลูก
คุณแม่อาจตั้งกลุ่มสนทนาออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชั่นสนทนา และสามารถพบปะพูดคุยนอกเหนือจากชั้นเรียนโยคะ ทำให้สุขภาพที่ดีและมีกิจกรรมร่วมกัน และยังมีเพื่อนใหม่เพิ่มขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตาม การฝึกโยคะ สำหรับคนท้องนั้น จำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัยและการป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการฝึก