backup og meta

ทารก เริ่ม มี หู ใน ช่วง อายุ กี่ สัปดาห์

ทารก เริ่ม มี หู ใน ช่วง อายุ กี่ สัปดาห์

พัฒนาการของทารกในครรภ์จะเริ่มต้นเมื่อไข่ผสมกับอสุจิจนเกิดการปฏิสนธิกลายเป็นตัวอ่อนฝังตัวที่ผนังมดลูก และเมื่อค่อย ๆ เจริญเติบโต ทารกจะเริ่มมีอวัยวะต่าง ๆ พัฒนาขึ้นมาตามลำดับ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่อาจเกิดความสงสัยว่า ทารก เริ่ม มี หู ใน ช่วง อายุ กี่ สัปดาห์ จึงจะสามารถได้ยินเสียงพูดของคุณพ่อคุณแม่ หรือเสียงเพลงที่คุณพ่อคุณแม่เปิดให้ฟัง โดยปกติแล้ว ทารกในครรภ์จะเริ่มมีหูในช่วงสัปดาห์ที่ 5 ของการตั้งครรภ์ และจะสมบูรณ์เต็มที่จนสามารถได้ยินเสียงประมาณสัปดาห์ที่ 16-35 ของการตั้งครรภ์ ดังนั้น การทราบถึงพัฒนาการในช่วงต่าง ๆ ของการตั้งครรภ์ จะช่วยให้คุณแม่ดูแลสุขภาพของตัวเองและทารกในครรภ์ได้อย่างเหมาะสม

ทารก เริ่ม มี หู ใน ช่วง อายุ กี่ สัปดาห์

ทารกจะเริ่มมีหูตั้งแต่สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ และจะค่อย ๆ พัฒนาจนสมบูรณ์เมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 หรือประมาณเดือนที่ 7-9 ของการตั้งครรภ์ โดยหูอาจประกอบด้วย 3 โครงสร้างที่จะพัฒนาไปตามลำดับ ดังนี้

  • การพัฒนาหูชั้นใน หูชั้นในของทารกจะเริ่มพัฒนาภายใน 5 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์ โดยจะเริ่มต้นจากการพัฒนาของเนื้อเยื่อเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นทั้ง 2 ข้างของศีรษะ จากนั้น เนื้อเยื่อจะค่อย ๆ พับเข้าด้านใน มีลักษณะคล้ายหลอดยาวเป็นอวัยวะรูปหอยโข่ง หรือเรียกว่า คอเคลีย (Cochlea) ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญของการได้ยิน
  • การพัฒนาหูชั้นกลาง เริ่มพัฒนาในช่วงประมาณ 8 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์ โดยเริ่มต้นจากเนื้อเยื่อเล็ก ๆ ที่เกาะกลุ่มกันจนกลายเป็นก้อนแข็ง หรือเรียกว่า กระดูกหู ซึ่งเป็นโครงสร้างที่สามารถสั่นสะเทือนและช่วยประมวลเสียงต่าง ๆ
  • การเชื่อมต่อหูและสมอง ในช่วงประมาณ 12 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์ จะเกิดเซลล์ขน (Hair Cells) ภายในคอเคลีย ซึ่งเป็นเซลล์รับความรู้สึก จากนั้นประมาณ 16 สัปดาห์ เซลล์ขนจะเชื่อมต่อกับเส้นประสาทเพื่อส่งเสียงกระตุ้นไปยังสมอง ในช่วงนี้ทารกจะเริ่มได้ยินเสียงเบา ๆ
  • การพัฒนาของหูสมบูรณ์เต็มที่ ช่องหูชั้นกลาง ช่องหูชั้นนอก และส่วนใบหูของทารกจะพัฒนาเต็มที่ภายใน 32-35 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์ จึงทำให้ทารกได้ยินและตอบสนองต่อเสียงได้ทันที

พัฒนาการการได้ยินของทารกในครรภ์

เมื่อโครงสร้างหูทุกส่วนของทารกในครรภ์พัฒนาอย่างเต็มที่ ทารกจะเริ่มได้ยินเสียงและสามารถตอบสนองต่อเสียงได้ ดังนี้

  • ประมาณสัปดาห์ที่ 16-22 ของการตั้งครรภ์ ทารกจะเริ่มได้ยินเสียงเบา ๆ จากภายในร่างกาย เช่น เสียงการเต้นของหัวใจ เสียงหายใจ เสียงการย่อยอาหาร
  • ประมาณสัปดาห์ที่ 23 ของการตั้งครรภ์ ทารกจะเริ่มได้ยินเสียงภายนอกร่างกายมากขึ้น โดยในช่วงนี้ทารกอาจได้ยินแค่โทนเสียงต่ำ แต่ทารกจะสามารถได้ยินเสียงของแม่อย่างชัดเจน เนื่องจากเป็นเสียงที่สามารถสะท้อนได้ทั้งภายในและภายนอกร่างกาย ซึ่งทารกจะเริ่มเรียนรู้และจดจำเสียงของแม่ตั้งแต่อยู่ในครรภ์
  • ประมาณสัปดาห์ที่ 26 ของการตั้งครรภ์ เมื่อหูและสมองเชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์ ทารกจะได้ยินเสียงทั้งภายนอกและภายในร่างกายได้ชัดเจนมากขึ้น และเริ่มตอบสนองต่อเสียงที่ได้ยิน เช่น เตะ สะดุ้งตกใจ หัวใจเต้นแรง นอกจากนี้ การอัลตราซาวด์สามารถเห็นได้ว่าทารกอาจแสดงสีหน้าเมื่อได้ยินเสียง

วิธีป้องกันปัญหาการได้ยินของทารก

วิธีป้องกันปัญหาการได้ยินของทารกอาจทำได้ ดังนี้

  • ระมัดระวังการใช้ยาบางชนิดในระหว่างตั้งครรภ์ เช่น ยาปฏิชีวนะ เนื่องจากยาอาจขัดขวางพัฒนาการของอวัยวะของทารกในครรภ์ ซึ่งอาจทำให้ทารกสูญเสียการได้ยินได้
  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีเสียงดังเป็นเวลานาน ขณะตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงเสียงที่ดังเกิน 115 เดซิเบล เนื่องจากเสียงที่ดังเกินไปอาจทำลายประสาทหูและการรับเสียงของทารกในครรภ์ ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีเสียงดัง เช่น คอนเสิร์ต สนามยิงปืน สถานที่ทำงานที่มีเสียงดัง
  • หลีกเลี่ยงการกินปลาที่มีสารปรอทสูง เช่น ปลาแมคเคอเรล ปลาทูน่า ปลาอินทรีย์ เนื่องจากสารปรอทในระดับสูงอาจทำให้ทารกในครรภ์มีภาวะพิการแต่กำเนิด อย่างไรก็ตาม ปลาอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ช่วยในการพัฒนาสมองและการเจริญเติบโตของทารก จึงควรเลือกกินปลาที่มีสารปรอทต่ำกว่า 8-12 ออนซ์/สัปดาห์ ซึ่งเป็นปริมาณที่ปลอดภัย เช่น ปลาแซลมอน ปลาคอด ปลานิล
  • งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในขณะตั้งครรภ์อาจเสี่ยงที่จะทำให้ทารกมีภาวะพิการแต่กำเนิด โดยทารกอาจสูญเสียการได้ยินและมีปัญหาในการพูดได้
  • การเปิดเพลง การฟังเพลง การพูดคุย เสียงจากสิ่งแวดล้อม หรือเปิดสื่อต่าง ๆ อาจช่วยพัฒนาการได้ยิน ความจำ และอารมณ์ของทารกได้ แต่ไม่ควรวางหูฟังไว้บนท้องโดยตรง เพราะเสียงอาจดังเกินไปจนเป็นอันตรายต่อทารก

[embed-health-tool-due-date]

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

When can your baby hear you?. https://www.babycenter.com/pregnancy/your-baby/fetal-development-your-babys-hearing_20004866. Accessed August 26, 2022

Hearing in the Womb. https://lozierinstitute.org/dive-deeper/hearing-in-the-womb/. Accessed August 26, 2022

Baby Development Month By Month. https://americanpregnancy.org/healthy-pregnancy/week-by-week/baby-development-month-by-month/. Accessed August 26, 2022

Your Baby’s Growth and Development In the Third Trimester of Pregnancy. https://www.webmd.com/baby/pregnancy-your-babys-growth-development-months-7-to-9. Accessed August 26, 2022

Slideshow: Fetal Development Month by Month. https://www.webmd.com/baby/ss/slideshow-fetal-development. Accessed August 26, 2022

เวอร์ชันปัจจุบัน

17/09/2022

เขียนโดย ทัตพร อิสสรโชติ

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงรัชตภา นาเวศภูติกร

อัปเดตโดย: สิฏฐิณิศา รัชตวโรทัย


บทความที่เกี่ยวข้อง

อาการตั้งครรภ์ และการดูแลตัวเอง

การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ความเสี่ยงสุขภาพที่อาจพบได้ และวิธีรับมือ


ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

แพทย์หญิงรัชตภา นาเวศภูติกร

สูตินรีเวชวิทยา · โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์


เขียนโดย ทัตพร อิสสรโชติ · แก้ไขล่าสุด 17/09/2022

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา