backup og meta

สัญญาณโรคระบบประสาทในเด็ก สังเกตอย่างไร

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย Duangkamon Junnet


เขียนโดย ทัตพร อิสสรโชติ · แก้ไขล่าสุด 18/12/2022

    สัญญาณโรคระบบประสาทในเด็ก สังเกตอย่างไร

    ผู้ปกครองควรหมั่นสังเกตบุตรหลานว่ามี สัญญาณโรคระบบประสาทในเด็ก หรือไม่? เพราะโรคระบบประสาทอาจสร้างความลำบากในการใช้ชีวิตของลูกน้อย หากตรวจพบตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้รับมือและรักษาอาการของโรคได้อย่างทันท่วงที ทำให้ลูกน้อยสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

    ประเภทของโรคระบบประสาทในเด็ก

    โรคระบบประสาทนั้นมีอยู่มากกว่า 100 ชนิด แบ่งตามประเภทของเส้นประสาทที่ได้รับผลกระทบ และลักษณะความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ โรคระบบประสาทที่พบได้มากในเด็กคือ โรคปลายประสาทอักเสบ (Polyneuropathy หรือ Peripheral Neuropathy) ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้

    • โรคปลายประสาทอักเสบเรื้อรัง (Chronic symmetrical peripheral neuropathy) หมายถึง โรคปลายประสาทอักเสบที่มีอาการนานหลายเดือนขึ้นไป
    • โรคปลายประสาทอักเสบหลายเส้น (Multiple mononeuropathy) หมายถึง โรคปลายประสาทอักเสบที่เกิดความเสียหายกับเส้นประสาทอย่างน้อย 2 เส้นขึ้นไป
    • โรคปลายประสาทอักเสบเฉียบพลัน (Acute symmetrical peripheral neuropathy) เป็นโรคที่พบได้น้อย แต่อาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิต โดยปกติมักจะมีสาเหตุมาจาก กลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร (Guillain Barre Syndrome) ซึ่งเป็นความผิดปกติของกลุ่มระบบประสาทจนเป็นสาเหตุให้เกิดโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง

    สัญญาณโรคระบบประสาทในเด็ก มีอะไรบ้าง?

    สัญญาณของโรคระบบประสาทในเด็ก อาจแตกต่างกันไปตามประเภทของเส้นประสาทที่ได้รับผลกระทบ โดยสัญญาณโรคระบบประสาทในเด็ก ที่พบได้บ่อย มีดังนี้

  • มีอาการชา เหน็บ รู้สึกเสียวซ่าที่เท้าหรือมือ ซึ่งสามารถลุกลามไปบริเวณขาและแขนได้
  • มีอาการตัวสั่น ปวดแสบปวดร้อน
  • ไวต่อการสัมผัส
  • มีอาการปวดตามร่างกายระหว่างทำกิจกรรม
  • ขาดสมดุลของร่างกาย อาจทำให้หกล้ม ทรงตัวไม่อยู่
  • กล้ามเนื้ออ่อนแรง
  • เป็นอัมพาตหากเส้นประสาทสั่งการได้รับผลกระทบ
  • สัญญาณบอกว่าเส้นประสาทอัตโนมัติได้รับผลกระทบ

    • ไม่สามารถทนต่อความร้อน
    • เหงื่อออกมากเกินไปหรือไม่สามารถขับเหงื่อได้
    • ปัญหาลำไส้ กระเพาะปัสสาวะ หรือระบบย่อยอาหาร
    • ความดันโลหิตเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดอาการวินเวียนศีรษะหรือหน้ามืด

    หากสังเกตว่าลูกน้อยมีอาการข้างต้นควรรีบพาไปพบคุณหมอทันที เพื่อจะได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ และทันท่วงที ช่วยลดความเสี่ยงต่อความเสียหายของเส้นประสาทที่อาจลุกลามได้

    ปัจจัยเสี่ยงของ โรคระบบประสาทในเด็ก

    ปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดเส้นประสาทส่วนปลายอักเสบ มีดังนี้

    • โรคเบาหวาน โดยเฉพาะผู้ที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้
    • ขาดวิตามิน โดยเฉพาะวิตามินบี
    • การติดเชื้อโรค เช่น โรคงูสวัด HIV ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี
    • โรคแพ้ภูมิตัวเอง
    • ความผิดปกติของตับ ไต หรือไทรอยด์
    • การสัมผัสกับสารพิษ
    • การเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ
    • กรรมพันธุ์ที่เกี่ยวกับโรคประสาท

    ภาวะแทรกซ้อน

    ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นหากลูกน้อยมีอาการเส้นประสาทส่วนปลายอักเสบ

    • เกิดแผลไหม้หรืออาการบาดเจ็บที่ผิวหนัง เมื่อเส้นประสาทส่วนปลายอักเสบ อาจทำให้สูญเสียการรับรู้ทางความรู้สึก และทำให้ไม่รู้สึกเจ็บปวดหรือเกิดอาการชา เมื่อถูกน้ำร้อนลวก หรือโดนมีดบาด
    • การติดเชื้อ เมื่อร่างกายได้รับบาดเจ็บแต่ลูกน้อยไม่รู้สึกถึงอาการบาดเจ็บนั้น อาจทำให้บาดแผลเกิดการติดเชื้อได้ จึงควรตรวจสอบร่างกายอยู่เสมอเพื่อป้องกันการเกิดบาดแผลเรื้อรังและลุกลาม
    • ขาดสมดุลในการทรงตัว การขาดความรู้สึกทางร่างกายอาจทำให้ลูกน้อยขาดสมดุลในการทรงตัว ที่ส่งผลต่อการเดินและการทรงตัว อาจสังเกตได้จากท่าทางการเดินที่อาจเดินไม่ตรง

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    Duangkamon Junnet


    เขียนโดย ทัตพร อิสสรโชติ · แก้ไขล่าสุด 18/12/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา