ควรปรึกษาคุณหมออย่างไร
ในสัปดาห์นี้อาจไม่ต้องพาลูกน้อยไปตรวจร่างกายตามปกติ ลูกน้อยจึงไม่โดนฉีดยา แต่แนะนำให้จดข้อสงสัยไว้ถามหมอในการไปพบครั้งต่อไป
ถ้าสังเกตเห็นความผิดปกติเกี่ยวกับการนอน หรือการกินอาหารของลูกน้อย ก็ควรพูดคุยกับหมอทันที ปัญหาเหล่านี้มักไม่มีความร้ายแรง และสามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเอง แต่ปัญหายังไม่ยอมหายไป ก็บ่งบอกว่ามีความรุนแรงแล้ว จึงควรทำการตรวจสอบกับหมอไว้ก่อนจะเป็นการดีที่สุด จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลัง
สิ่งที่ควรรู้
ลูกอาจเป็นไข้หวัดในช่วงปีแรก มีเชื้อไวรัสนับไม่ถ้วนที่อาจทำให้เกิดอาการไข้หวัดขึ้นมาได้ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่พอจะประมาณการได้ว่าเด็กจะเป็นไข้หวัดปีละ 8 ครั้ง
ไวรัสสามารถแพร่กระจายไปในอากาศ และติดอยู่บนวัตถุอย่างเช่น ลูกบิดประตูหรือของเล่น เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของเด็กยังไม่สมบูรณ์ จึงทำให้เด็กเป็นหวัดได้ง่าย ยิ่งไปกว่านั้น เด็กในวัยนี้มักจะชอบยื่นมือเข้าไปใกล้ดวงตาหรือปาก ซึ่งจะทำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น ถ้าลูกน้อยคลุกคลีกับเด็กหรือพี่น้องคนอื่น ๆ ก็ยิ่งมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อหวัดได้มากขึ้น อาการที่พบบ่อยก็ได้แก่ น้ำมูกไหล น้ำตาไหล จมูกบวม ไอ ร้องไห้ มีไข้อ่อน ๆ ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นประมาณ 1 สัปดาห์
สามารถเครื่องดูดน้ำมูก เวลาที่ลูกน้อยคัดจมูก และใช้ยาพ่นเพื่อขยายหลอดลม หรือใช้เครื่องเพื่อความชื้นในอาการในห้องนอนของลูก ซึ่งจะช่วยให้น้ำมูกลดลง ลูกน้อยจึงหายใจได้สะดวกขึ้น จงจำเอาไว้ว่าเด็กชอบหายใจด้วยจมูกมากกว่าปาก ฉะนั้นอาการคัดจมูกจึงอาจทำให้ลูกรู้สึกอึดอัด
ถ้าเป็นไปได้ ก็ใช้เบาะหนุนศีรษะให้สูงขึ้นซัก 2-3 เซนติเมตร เพื่อลดการอุดตันในลำคอ ไม่ควรใช้หมอนในการยกศีรษะเด็กขึ้น ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้น ก็ให้ลูกน้อยนอนหลับในท่านั่งเหมือนตอนนั่งรถ โดยปรับให้หลังเอนประมาณ 45 องศา
อย่าให้ลูกน้อยใช้ยาใด ๆ โดยไม่ปรึกษาหมอก่อน โดยทั่วไปแล้ว เด็กอายุที่ต่ำกว่า 6 ขวบไม่ควรใช้ยาเหล่านี้ เนื่องจากอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงได้ ยาปฏิชีวนะจะใช้ไม่ได้ผลกับไข้หวัดที่เกิดจากเชื้อไวรัส ถ้าลูกน้อยมีไข้คุณหมอก็อาจแนะนำให้ใช้ยาลดไข้อย่างยาพาราเซตามอล
ควรพาลูกน้อยไปพบหมอทันที ถ้ามีอาการต่อไปนี้
- มีไข้สูงกว่า 38 องศาเซลเซียส
- หายใจแรงและเร็วกว่า 60 ครั้งต่อนาที มีอาการไอรุนแรง หายใจมีเสียง หรือหายใจไม่ออก
- ตามีอาการผิดปกติ อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของโรคตาแดง หรือการติดเชื้อในหู
- มีอาการกระตุกอย่างต่อเนื่อง ร้องไห้เมื่อป้อนอาหารหรือจับตัวให้เด็กนอน นี่อาจเป็นสัญญาณว่าเด็กอาจติดเชื้อในหู
- หากลูกของป่วยหนักเป็นเวลา 5-7 วัน หรือมีอาการอย่างต่อเนื่องมามากกว่าสองสัปดาห์
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย