คลินดามัยซิน (Clindamycin) ใช้เพื่อรักษาสิว ยานี้ช่วยลดจำนวนสิว เป็นยาปฏิชีวนะที่ออกฤทธิ์โดยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
[embed-health-tool-bmi]
ข้อบ่งใช้
ยาคลินดามัยซินใช้สำหรับ
คลินดามัยซิน (Clindamycin) ใช้เพื่อรักษาสิว ยานี้ช่วยลดจำนวนสิว เป็นยาปฏิชีวนะที่ออกฤทธิ์โดยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ยาคลินดามันซินอยู่ในกลุ่มของยาที่เรียกว่ายาลินโคซาไมด์ (Lincosamide)
วิธีการใช้ยา คลินดามัยซิน
- รับประทานยาคลินดามัยซินตามที่แพทย์กำหนด และทำตามคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัด ห้ามใช้ยานี้ในปริมาณมาก หรือน้อยเกินไป เป็นเวลานานกว่าที่แพทย์แนะนำ
- รับประทานยาพร้อมกับน้ำ 1 แก้ว เพื่อป้องกันอาการระคายเคืองคอ
- วัดปริมาณยาในรูปแบบน้ำโดยใช้ไซริงค์ ช้อนตวงยา หรือถ้วยตวงยาโดยเฉพาะ หากไม่มีอุปกรณ์เพื่อตวงยา สามารถหาซื้อได้จากร้านขายยาเพื่อซื้ออุปกรณ์เหล่านี้
- ยาคลินดามัยซินบางครั้งสามารถให้โดยการฉีดเข้าที่กล้ามเนื้อ หรือหลอดเลือดดำ ห้ามฉีดยานี้ด้วยตนเอง หากไม่เข้าใจวิธีฉีด ควรทิ้งเข็มฉีดยา หลอดฉีด หรืออุปกรณ์อื่นสำหรับฉีดยาที่ใช้แล้วอย่างเหมาะสม
วิธีการเก็บรักษายา คลินดามัยซิน
- ยาคลินดามัยซิน ควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง ให้พ้นแสงและความชื้น เพื่อป้องกันตัวยาเสื่อมสภาพ
- ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง
- เก็บยาให้พ้นจากมือเด็ก และสัตว์เลี้ยงเพื่อความปลอดภัย
- ไม่ควรทิ้งยาคลินดามัยซินลงในชักโครก หรือในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ยาคลินดามัยซินบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน หากมีข้อกังวล หรือข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้จากเภสัชกร และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอีกครั้งทันที
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้ยา คลินดามัยซิน
ก่อนตัดสินใจใช้ยานี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินประโยชน์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยต้องทำตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
- แจ้งให้แพทย์ทราบ หากเคยมีอาการผิดปกติ หรืออาการแพ้ยานี้ รวมถึงยาชนิดอื่น ๆ รวมถึงอาการแพ้ต่าง ๆ เช่น อาหาร สารย้อมสี วัตถุกันเสีย และสัตว์ เป็นต้น
- โปรดระบุสมุนไพร ยา และอาหารเสริมที่กำลังใช้อยู่ รวมถึงสภาวะโรคประจำตัวให้แพทย์ทราบ
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์ เพื่อวิเคราะห์ถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ก่อนใช้ยาคลินดามัยซิน จากอ้างอิงจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ยานี้จัดเป็นยากลุ่มเสี่ยงสำหรับสตรีมีครรภ์ประเภท B
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
- A = ไม่มีความเสี่ยง
- B = ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
- C = อาจจะมีความเสี่ยง
- D = มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
- X = ห้ามใช้
- N = ไม่ทราบแน่ชัด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงของการใช้ยา คลินดามัยซิน
เข้ารับการรักษาพยาบาลทันทีหากมีสัญญาณของอาการแพ้ ดังนี้
- ลมพิษ
- หายใจลำบาก
- หน้า ริมฝีปาก ลิ้นหรือคอบวม
หยุดใช้ ยาคลินดามัยซิน และปรึกษาแพทย์ทันที หากเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง ดังนี้
- ถ่ายเหลวเป็นน้ำหรือถ่ายเป็นเลือด
- ดีซ่าน ตาเหลือง หรือผิวเหลือง
- ปัสสาวะน้อยกว่าปกติหรือไม่ปัสสาวะเลย
- เป็นไข้ ตัวสั่น ปวดตามร่างกาย มีอาการของไข้หวัดใหญ่ เจ็บปากหรือคอ
- เลือดออกผิดปกติบริเวณจมูก ปาก ช่องคลอดหรือทวารหนัก
- มีรอยช้ำม่วง หรือจุดแดงเล็ก ๆ ใต้ผิวหนัง
- อาการแพ้ที่ผิวหนังอย่างรุนแรง เป็นไข้ เจ็บคอ ใบหน้า หรือลิ้นบวม
- เจ็บผิวหนัง ตามด้วยการมีผื่นแดงหรือม่วงตามผิวที่ลุกลามโดยเฉพาะที่หน้าหรือร่างกายส่วนบน และทำให้เกิดแผลพุพอง
ผลข้างเคียงที่รุนแรงอื่น ๆ อาจรวมถึง
- การเปลี่ยนแปลงของระบบขับถ่ายอุจจาระ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ
- คลื่นไส้เล็กน้อย อาเจียนหรือปวดท้อง
- ปวดข้อต่อ
- คันบริเวณช่องคลอด และมีตกขาว
- แสบหน้าอก ระคายเคืองคอ
ไม่ใช่ทุกคนที่จะแสดงอาการอันเนื่องมาจากผลข้างเคียงเหล่านี้ อาจมีผลข้างเคียงอื่นที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น หากมีความกังวลเรื่องผลข้างเคียง โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรใกล้บ้าน
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยากับยาอื่น
ยาคลินดามัยซิน อาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่กำลังใช้อยู่ และอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรด้วยว่า กำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง สมุนไพร เป็นต้น และเพื่อความปลอดภัย ไม่ควรเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาเองโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
การใช้ยาคลินดามัยซินพร้อมกับยาอะทราคูเรียม (Atracurium) ยาเมโทคูรีน (Metocurine) ยาทูโบคูรารีน (Tubocurarine) อาจเพิ่มความเสี่ยงของผลข้างเคียงบางอย่าง แต่หากการใช้ยาทั้งสองชนิดอาจเป็นวิธีการรักษาที่ดีที่สุดสำหรับคุณ แพทย์จำต้องจ่ายยาทั้งสองชนิดโดยอาจเปลี่ยนขนาดยาหรือความถี่ในการใช้ยาใดยาหนึ่ง หรือยาทั้งสองชนิด
ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์
ยาคลินดามัยซินอาจอาจทำปฏิกิริยากับอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยจะปรับเปลี่ยนประสิทธิภาพการทำงานของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียงรุนแรงอื่น ๆ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น
ยาคลินดามัยซิน อาจส่งผลให้อาการโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระเพาะอาหารหรือลำไส้ เหล่านี้แย่ลง เช่น โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ ลำไส้เล็กอักเสบ เป็นต้น
ขนาดยา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาด ยาคลินดามัยซิน สำหรับผู้ใหญ่
ขนาดยาสำหรับภาวะติดเชื้อระดับรุนแรง
- รับประทานยา : 150-300 มิลลิกรัมทุก 6 ชั่วโมง
- ฉีดเข้าหลอดเลือดดำหรือกล้ามเนื้อ : 600-1200 มิลลิกรัม โดยแบ่งฉีดเป็น 2-4 ครั้ง ต่อวัน ในขนาดที่เท่ากัน
ขนาดยาสำหรับภาวะติดเชื้อระดับรุนแรงกว่า
- ฉีดเข้าหลอดเลือดดำหรือกล้ามเนื้อ : 1,200-2,700 มิลลิกรัม โดยแบ่งฉีดเป็น 2-4 ครั้ง ต่อวัน ในขนาดที่เท่ากัน
ขนาดยาสำหรับภาวะติดเชื้อระดับรุนแรงกว่านั้น
- รับประทานยา : 300-450 มิลลิกรัม ทุก 6 ชั่วโมง
- ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ : ให้สารละลายของยา ไม่เกิน 4800 มิลลิกรัมต่อวัน
ขนาด ยาคลินดามัยซิน สำหรับเด็ก
น้ำหนัก 10 กิโลกรัม หรือต่ำกว่า
- รับประทานยา 37.5 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง
น้ำหนัก 11 กิโลกรัมหรือมากกว่า
- การติดเชื้อระดับรุนแรง : รับประทานยา 8-12 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมต่อวัน โดยแบ่งให้เป็น 3-4 ครั้งเท่า ๆ กัน
- การติดเชื้อระดับรุนแรงกว่า : รับประทานยา 13-16 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมต่อวัน โดยแบ่งให้เป็น 3-4 ครั้งเท่า ๆ กัน
- การติดเชื้อระดับรุนแรงกว่านั้น : รับประทานยา 17-25 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมต่อวัน โดยแบ่งให้เป็น 3-4 ครั้งเท่า ๆ กัน
ทางเลือกของการให้ยาแบบอื่น ๆ
- การติดเชื้อระดับรุนแรง : รับประทานยา 8-16 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมต่อวัน โดยแบ่งให้เป็น 3-4 ครั้งเท่า ๆ กัน
- การติดเชื้อระดับรุนแรงกว่า : รับประทานยา 16-20 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมต่อวัน โดยแบ่งให้เป็น 3-4 ครั้งเท่า ๆ กัน
การให้ยาทางหลอดเลือด
- อายุไม่เกิน 1 เดือน ให้สารละลายของยา 15-20 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ทางหลอดเลือดดำ (Intravenous Infusion) ขนาดยาที่ต่ำกว่าอาจเพียงพอสำหรับทารกแรกเกิดที่คลอดก่อนกำหนด
- อายุ 1 เดือนถึง 16 ปี ฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำหรือกล้ามเนื้อ 20-40 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม โดยแบ่งให้เป็น วันละ 3-4 ครั้งเท่า ๆ กัน หากระดับความการติดเชื้อรุนแรงมากขึ้น อาจต้องใช้ขนาดยาในการรักษาที่มากขึ้น
- อายุ 17 ปีขึ้นไป ใช้ขนาดยาปกติสำหรับผู้ใหญ่ ระยะเวลาอย่างน้อย 10 วันสำหรับการติดเชื้อสเตร็ปโตค็อกคัสชนิดเบต้าฮีโมลัยติค (Beta-hemolytic streptococcal infection)
รูปแบบของยา
ยาคลินดามัยซิน มีรูปแบบดังต่อไปนี้
- แคปซูล 75 มิลลิกรัม 150 มิลลิกรัม และ 300 มิลลิกรัม
- เจล
- แผ่นแปะ
- ยาน้ำ
- โลชั่น
กรณีฉุกเฉินหรือการใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งโรงพยาบาลใกล้บ้านโดยทันที
กรณีลืมใช้ยา
หากลืมรับประทานยาควรรีบรับประทานทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลารับประทานยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปรับประทานยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา