backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

นิโซลดิปีน (Nisoldipine)

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย จิดาภา ติยะสิริทานนท์ · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

นิโซลดิปีน (Nisoldipine)

ข้อบ่งใช้ นิโซลดิปีน

นิโซลดิปีน ใช้สำหรับ

นิโซลดิปีน (Nisoldipine) ใช้สำหรับรักษาอาการความดันโลหิตสูง (hypertension) การลดความดันโลหิตจะช่วยป้องกันเส้นเลือดในสมองเเตก หัวใจวายเเละปัญหาเกี่ยวกับไต ยานิโซลดิปีนเป็นยาในกลุ่มยาต้านแคลเซียม (Calcium channel blocker) สามารถใช้ร่วมกับยาชนิดอื่นหรือใช้เดี่ยวๆ ก็ได้ นิโซลดิปีนออกฤทธิ์โดยทำให้หลอดเลือดขยายตัว เลือดจึงไหลเวียนอย่างสะดวกยิ่งขึ้น

วิธีการใช้ นิโซลดิปีน

  • รับประทานยาวันละครั้งหรือตามที่เเพทย์สั่ง รับประทานยานี้เมื่อท้องว่างหรือรับประทานอาหารไขมันต่ำก่อน อย่ารับประทานภายใน 1 หรือ 2 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหารไขมันสูง การรับประทานอาหารไขมันสูงอาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง
  • อย่าทำให้ยานิโซลดิปีนเเตกหรือเคี้ยวยาและอย่าเเบ่งยาออกเป็นส่วนๆ เว้นเเต่ยานั้นมีรอยขีดเเบ่ง เพราะการกระทำดังกล่าวจะทำให้ยาเข้าสู่ร่างกายพร้อมกันในครั้งเดียว และเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง ควรกลืนยาทั้งหมด หรือยาที่เเบ่งไว้เเล้วโดยไม่ทำให้ยาเเตกหรือเคี้ยวยา
  • ยานี้อาจใช้ทานในระยะยาวได้หลายรูปเเบบ เเละมีข้อดีเเตกต่างกัน สอบถามกับเเพทย์หรือเภสัชกรว่า คุณได้รับปริมาณยาเเละรูปเเบบของยาที่ถูกต้อง อย่ารับประทานยาเเต่ละรูปเเบบ โดยไม่ได้ปรึกษากับเเพทย์หรือเภสัชกรก่อน
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานองุ่น หรือดื่มน้ำองุ่นระหว่างที่รับประทานยานี้ องุ่นอาจเพิ่มปริมาณของยาในกระเเสเลือด ตรวจสอบกับเเพทย์หรือเภสัชกรเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
  • ขนาดยาขึ้นอยู่กับโรคเเละการตอบสนองต่อการรักษา เเพทย์อาจค่อยๆ เพิ่มปริมาณยา ควรทำตามคำเเนะนำของเเพทย์ก่อนเสมอ
  • ใช้นิโซลดิปีนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด เพื่อช่วยเตือนความจำ ควรรับประทานในระยะเวลาเดียวกันของทุกวัน อย่าหยุดรับประทานนิโซลดิปีนเเม้ว่าคุณจะมีอาการที่ดีขึ้นเเล้วก็ตาม

เเจ้งให้เเพทย์ทราบหากอาการของคุณไม่ดีขึ้นหรือเเย่ลง (เช่น ผลความดันโลหิตในเเต่ละวันยังคงสูงหรือเพิ่มขึ้น)

การเก็บรักษา นิโซลดิปีน

  • ควรเก็บในอุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย
  • เก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
  • ไม่ควรทิ้งนิโซลดิลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน

นาลเทรกโซนบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน ตรวจสอบฉลากข้างบรรจุภัณฑ์หรือสอบถามแพทย์และเภสัชกรเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย

ข้อควรระวังเเละคำเตือน

ข้อควรรู้ก่อนใช้ นิโซลดิปีน

  • ก่อนรับประทานยานิโซลดิปีน แจ้งเเพทย์หรือเภสัชกรหากคุณเเพ้ยาที่มีส่วนประกอบของนิโซลดิปีนนี้หรือยาในกลุ่ม CCB ชนิดไดไฮโดรไพริดีน (dihydropyridine calcium channel blockers) ประเภทอื่น เช่น ยาเเอมโลดิปีน (amlodipine) หรือยาไนเฟดิปีน (nifedipine) ยาตัวนี้อาจมีส่วนผสมที่ไม่ได้ออกฤทธิ์ แต่อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้หรือปัญหาอื่นๆ ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
  • แจ้งให้เเพทย์หรือหรือเภสัชกรทราบถึงประวัติโรคประจำตัวทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะปัญหาโครงสร้างหัวใจบางประเภท เช่น โรคลิ้นหัวใจตีบ (aortic stenosis) และโรคตับ

ยานี้อาจทำให้คุณวิงเวียนศีรษะหรือง่วงซึม งดใช้ยานพาหนะ หรือใช้เครื่องจักร รวมถึงการทำกิจกรรมใดๆ ที่จำเป็นต้องอาศัยความตื่นตัว และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์ จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากแพทย์ 

ก่อนเข้ารับการผ่าตัด เเจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยาทั้งหมดที่คุณใช้ (รวมถึงยาที่จำหน่ายโดยแพทย์หรือเภสัชกร และสมุนไพรอื่นๆ )

ระหว่างตั้งครรภ์ ควรใช้ยานี้เท่าที่จำเป็น ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ของยาชนิดนี้

ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่า นิโซลดิปีนอาจซึมเข้าไปในน้ำนมมารดาได้หรือไม่ ปรึกษาแพทย์ก่อนให้นมบุตร

ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรี ที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้

นิโซลดิปีนจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท N โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)

การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้

  • A= ไม่มีความเสี่ยง
  • B= ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
  • C= อาจจะมีความเสี่ยง
  • D= มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
  • X= ห้ามใช้
  • N= ไม่ทราบแน่ชัด

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงของ นิโซลดิปีน

ผลข้างเคียงยานิโซลดิปีนที่พบได้ทั่วไป

  • วิงเวียนศีรษะ
  • ข้อเท้าหรือเท้าบวม
  • หน้าเเดงหรือปวดศีรษะ

เเจ้งให้แพทย์ทราบทันทีหากคุณมีผลข้างเคียงที่รุนเเรงเหล่านี้

  • หัวใจเต้นเร็ว ผิดปกติหรือเต้นอย่างหนัก
  • หมดสติหรือมองเห็นภาพเปลี่ยนไป
  • อาจมีอาการเจ็บหน้าอกมากขึ้น หรือหัวใจวายหลังจากรับประทานยานี้ หรือเมื่อเพิ่มขนาดยา
  • มีปัญหาเรื่องการหายใจ (หายใจถี่)
  • เหงื่อออกผิดปกติ
  • คันผิว หรือผิวบวม (โดยเฉพาะที่ใบหน้า ลิ้นหรือลำคอ)
  • วิงเวียนศีรษะอย่างรุนเเรง

เพื่อลดอาการวิงเวียนศีรษะ ค่อยๆ ลุกขึ้นเมื่อเปลี่ยนจากท่านั่งหรือนอนเป็นท่ายืน

หากอาการเหล่านี้เกิดขึ้นเป็นระยะเวลานานหรือเเย่ลง เเจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบทันที

คุณอาจเห็นเปลือกยาเม็ดเมื่อถ่ายอุจจาระ ผลดังกล่าวไม่เป็นอันตรายเพราะร่างกายของคุณได้ดูดซึมยาเเล้ว

โปรดจำไว้ว่า การที่แพทย์ให้คุณใช้ยาตัวนี้ เนื่องจากคำนวณแล้วว่า ยามีสรรพคุณในการรักษามากกว่าเป็นโทษ และคนที่ใช้ยานี้ส่วนใหญ่ไม่พบผลข้างเคียงที่ร้ายแรงใดๆ

ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียงเพิ่มเติม โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร

ปฏิกิริยาของยา

ปฏิกิริยากับยาชนิดอื่น

ยาที่ทำให้ร่างกายขับยานิโซลดิปีนออกและอาจส่งผลต่อฤทธิ์ของยานิโซลดิปีน ได้แก่

  • ยาไซเมทิดีน (cimetidine)
  • ยาต้านเชื้อรากลุ่มเอโซล (azole antifungals) เช่น ยาไอทราโคนาโซล (itraconazole) ยาคีโตโคนาโซล (ketoconazole)
  • ยาปฏิกิริยากลุ่มเเมคโครไลด์ (macrolide antibiotics) เช่น ยาอิริโทรไมซิน (erythromycin)
  • ยาไรฟามัยซิน (rifamycin) เช่น ยาไรฟาบูติน (rifabutin)
  • สมุนไพรเซนต์จอห์นเวิร์ต (St. John’s wort) ยาที่ใช้แก้อาการชัก เช่น ยาคาร์บามาเซปีน (
  • carbamazepine) เเละยาเฟนิโทอิน (phenytoin) เป็นต้น

ยาบางชนิดอาจมีส่วนผสมที่อาจเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจเเละความดันโลหิต แจ้งให้เภสัชกรทราบว่าคุณใช้ยาอะไรอยู่บ้าง เเละถามเรื่องการใช้ยาเหล่านั้นอย่างปลอดภัย โดยเฉพาะยาแก้ไอเเละหวัด อาหารเสริมหรือยาต้านอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ยาไอบูโพรเฟน (ibuprofen) และยานาพรอกเซน (naproxen)

นิโซลดิปีนอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์

ปฏิกิริยากับอาหารเเละแอลกอฮอล์

นิโซลดิปีนอาจทำปฎิกิริยากับอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยจะปรับเปลี่ยนประสิทธิภาพการทำงานของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียงรุนแรงอื่นๆ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น

นิโซลดิปีนอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ

ขนาดยา

ข้อมูลนี้ไม่เจตนาและไม่สามารถใช้เเทนคำเเนะนำทางการเเพทย์ได้ โปรดปรึกษาเเพทย์หรือเภสัชกร ทุกครั้ง ก่อนรับประทานยานิโซลดิปีน

ขนาด นิโซลดิปีน สำหรับผู้ใหญ่

ขนาดยาปกติสำหรับผู้ใหญ่ที่เป็นความดันโลหิตสูง

ค่อยๆ ให้ยา (สูตรเดิม)

  • ขนาดยาในระยะเเรก : รับประทานยา 20 มิลลิกรัม 1 ครั้งต่อวัน
  • ขนาดยาที่ใช้ควบคุมอาการ : รับประทานยา 10 ถึง 60 มิลลิกรัม 1 ครั้งต่อวัน
  • ขนาดยาสูงสุด : 60 มิลลิกรัม ต่อวัน

ให้ยาในอัตราคงที่ (สูตรใหม่)

  • ขนาดยาในระยะเเรก : รับประทานยา 17 มิลลิกรัม 1 ครั้งต่อวัน
  • ขนาดยาที่ใช้ควบคุมอาการ: รับประทานยา 8.5 ถึง 34 มิลลิกรัม 1 ครั้งต่อวัน
  • ขนาดยาสูงสุด : 34 มิลลิกรัม ต่อวัน

คำเเนะนำ

  • มักใช้ยานี้ร่วมกับยาขับปัสสาวะ ACE inhibitors เเละเบต้าบล็อกเกอร์ (beta blockers)
  • การใช้

    • ใช้ยานี้ชนิดเดียวหรือร่วมกับสารต้านความดันโลหิตสูงประเภทอื่นเพื่อรักษาความดันโลหิตสูง

    ขนาดยาปกติสำหรับผู้สูงอายุที่เป็นความดันโลหิตสูง

    ค่อยๆ ให้ยา (สูตรเดิม)

    • ขนาดยาในระยะเเรก : รับประทานยา 10 มิลลิกรัม 1 ครั้งต่อวัน
    • ขนาดยาที่ใช้ควบคุมอาการ : รับประทานยา 10 ถึง 60 มิลลิกรัม 1 ครั้งต่อวัน
    • ขนาดยาสูงสุด : 60 มิลลิกรัม ต่อวัน

    ให้ยาในอัตราคงที่ (สูตรใหม่)

    • ขนาดยาในระยะเเรก : รับประทานยา 8.5 มิลลิกรัม 1 ครั้ง ต่อวัน
    • ขนาดยาที่ใช้ควบคุมอาการ : รับประทานยา 8.5 ถึง 34 มิลลิกรัม 1 ครั้ง ต่อวัน
    • ขนาดยาสูงสุด : 34 มิลลิกรัม ต่อวัน

    คำเเนะนำ

    • ควรกำหนดขนาดยาด้วยความระมัดระวัง
    • สามารถใช้ยานี้กับยาขับปัสสาวะ สารยับยั้งเอซีอี เเละเบต้าบล็อกเกอร์
    • เฝ้าสังเกตความดันโลหิตอย่างใกล้ชิดระหว่างปรับปริมาณยา

    การใช้

    • ใช้ยานี้ชนิดเดียวหรือร่วมกับสารต้านความดันโลหิตสูงประเภทอื่นเพื่อรักษาความดันโลหิตสูงได้

    การปรับขนาดยาสำหรับผู้ป่วยโรคไต

    ความผิดปกติของไตขั้นไม่รุนเเรงถึงปานกลาง : ไม่ควรปรับปริมาณของยา

    ความผิดปกติของไตขั้นรุนเเรง : ไม่มีข้อมูลที่แน่ชัด

    การปรับขนาดยาสำหรับผู้ป่วยโรคตับ

    ผู้ป่วยที่ตับทำงานผิดปกติ

    ค่อยๆ ให้ยา (สูตรเดิม)

    • ขนาดยาในระยะเเรก: รับประทานยา 10 มิลลิกรัม 1 ครั้งต่อวัน
    • ขนาดยาที่ใช้ควบคุมอาการ: รับประทานยา 10 ถึง 60 มิลลิกรัม 1 ครั้งต่อวัน
    • ขนาดยาสูงสุด: 60 มิลลิกรัม ต่อวัน

    ให้ยาในอัตราคงที่ (สูตรใหม่)

    • ขนาดยาในระยะเเรก: รับประทานยา 8.5 มิลลิกรัม 1 ครั้งต่อวัน
    • ขนาดยาที่ใช้ควบคุมอาการ: รับประทานยา 8.5 ถึง 34 มิลลิกรัม 1 ครั้งต่อวัน
    • ขนาดยาสูงสุด: 34 มิลลิกรัม ต่อวัน

    คำแนะนำ

    • สามารถใช้ยานี้กับยาขับปัสสาวะ สารยับยั้งเอซีอี เเละเบต้าบล็อกเกอร์
    • เฝ้าสังเกตความดันโลหิตอย่างใกล้ชิดระหว่างปรับปริมาณของยา

    การใช้

    • ใช้ยานี้ชนิดเดียวหรือร่วมกับสารต้านความดันโลหิตสูงประเภทอื่นเพื่อรักษาความดันโลหิตสูงได้
    • ผู้ป่วยที่ตับทำงานผิดปกติอย่างหนักใช้ด้วยความระมัดระวัง
    • ผู้ป่วยที่เป็นโรคตับเเข็งควรใช้ปริมาณยาต่ำในระยะเเรกและรักษาปริมาณยาให้คงที่

    คำแนะนำอื่น

    คำแนะนำในการใช้ยา

    • ผู้ป่วยควรกลืนยาทั้งเม็ดให้หมด รับประทาน 1 ครั้งต่อวัน
    • หลีกเลี่ยงการทำให้ยาแตก แบ่งยาหรือเคี้ยวยา
    • ควรรับประทานยา 1 หรือ 2 ชั่วโมงหลังอาหาร
    • หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์จากองุ่นและเครื่องดื่มหรืออาหารที่มีส่วนประกอบขององุ่นก่อนและหลังการใช้ยา

    วิธีเก็บรักษา

    • เก็บให้พ้นจากเเสงเเดดเเละความชื้น

    โดยทั่วไป

    • การค่อยๆ ให้ยา (สูตรเดิม) จะทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 ถึง 60 มิลลิกรัมต่อวัน
    • การให้ยาในอัตราคงที่ (สูตรใหม่) จะทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นมากกว่า 8.5 ถึง 34 มิลลิกรัมต่อวัน 

    การเฝ้าสังเกต

    • ระบบหัวใจเเละหลอดเลือด : ความดันโลหิต อัตราการเต้นของหัวใจ สัญญาณหรืออาการของหลอดเลือดหัวใจตีบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างการเริ่มต้นเเละการไทเทรต (titration)

    คำแนะนำสำหรับผู้ป่วย

    • เเจ้งให้ผู้ป่วยกลืนยาทั้งหมด หลีกเลี่ยงการเคี้ยว ทำให้ยาเเตกหรือเเบ่งยาเป็นส่วนๆ
    • แนะนำให้ผู้ป่วยรับประทานยานี้ก่อนอาหาร 1 ชั่วโมง
    • แจ้งผู้ให้บริการด้านการแพทย์ทราบ หากผู้ป่วยตั้งครรภ์ ตั้งใจที่จะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

    ขนาด นิโซลดิปีน สำหรับเด็ก

    ไม่ได้มีการกำหนดขยาดยาสำหรับผู้ป่วยเด็ก ยานี้อาจไม่ปลอดภัยสำหรับสิ่งที่สำคัญคือต้องศึกษาการใช้ยาอย่างปลอดภัยก่อนรับประทาน โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

    รูปแบบของยา

    นิโซดิปีนมีรูปเเบบดังต่อไปนี้

    • แคปซูลสำหรับรับประทาน เป็นยาที่ออกฤทธิ์เเต่เนิ่นๆ

    กรณีฉุกเฉินหรือการใช้ยาเกินขนาด

    หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที

    กรณีลืมใช้ยา

    หากคุณลืมรับประทานนิโซลดิปีนดีน ควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยาก่อนได้รับอนุญาตจากแพทย์

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์

    ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


    เขียนโดย จิดาภา ติยะสิริทานนท์ · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา