ข้อบ่งใช้ นิโมดิปีน
นิโมดิปีน ใช้สำหรับ
นิโมดิปีน (Nimodipine) ใช้สำหรับรักษาเพื่อลดปัญหาเนื่องจากอาการเลือดออกในสมองบางชนิด เช่น เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นกลาง ยานิโมดิปีนเป็นยาในกลุ่มแคลเซียมชาแนลบล็อกเกอร์ (Calcium Channel Blocker) นิโมดิปีนถูกให้ทำงานโดยการผ่อนคลายหลอดเลือดในสมองใกล้กับบริเวณที่มีเลือดออกเพื่อให้เลือดสามารถไหลได้ง่ายขึ้น ช่วยลดความเสียหายของสมองอื่นๆ ที่จะได้รับผลกระทบ
โดยธรรมชาติของร่างกายมักจะตอบสนองต่ออาการเลือดออกตามธรรมชาติ ด้วยการหดของหลอดเลือดให้ตีบแคบลงเพื่อชะลอการไหลเวียนของเลือด แต่สำหรับอาการเลือดออกในสมองนั้น การหยุดเลือดที่ไหล จะสร้างความเสียหายต่อสมองได้มากกว่าจึงมีการนำนิโมดิปีนเข้ามาช่วยบรรเทาอาการนี้
วิธีการใช้ นิโมดิปีน
- ใช้ยานิโมดิปีนทันทีที่เริ่มมีอาการเลือดออกในสมอง ตามปกติคือภายใน 4 วัน รับประทานทุกๆ 4 ชั่วโมง หรือตามที่แพทย์กำหนด
- หากคุณใช้ยาเม็ดควรรับประทานพร้อมกับน้ำเปล่าอย่างเพียงพอ (8 ออนซ์หรือ 240 มล.)
- อย่าล้มตัวลงนอนภายใน 10 นาที หลังจากรับประทานยา
- กลืนยาลงไปทั้งเม็ด ไม่ควรบด แบ่ง หรือเคี้ยวยา
- หากคุณใช้ยาแคปซูล ควรรับประทานนิโมดิปีนอย่างน้อยก่อนหรือหลังมื้ออาหาร 1-2 ชั่วโมง หรือตามที่แพทย์กำหนด กลืนยาแคปซูลลงไปทั้งเม็ด ถ้าไม่สามารถกลืนได้ อาจเจาะรูที่แคปซูล แล้วใช้เข็มฉีดยาดูดยาน้ำภายในแคปซูลออกมาแล้วรับประทานหรือให้ยาผ่านทางสายให้อาหาร (nasogastric tube) โดยใช้กระบอกฉีดยา อย่าผสมสารในแคปซูลนี้กับยาอื่นๆ เพราะอาจทำให้ยามีประสิทธิภาพเปลี่ยนแปลง
- หากใช้ยาชนิดน้ำ (สารละลายสำหรับรับประทาน) ควรตวงยาอย่างระมัดระวัง ด้วยเครื่องมือหรือช้อนสำหรับตวงยา ไม่ควรใช้ช้อนธรรมดาเพราะอาจได้ขนาดยาไม่ถูกต้อง รับประทานนิโมดิปีนอย่างน้อยก่อนหรือหลังมื้ออาหาร 1-2 ชั่วโมงอาจใช้ยาผ่านสายให้อาหาร หากคุณให้ยาผ่านทางสายให้อาหาร โปรดสอบถามแพทย์สำหรับข้อมูลวิธีการใช้ยา
- อย่ารับประทานยาลดกรดเป็นเวลา 2 ชั่วโมง ก่อนหรือหลังรับประทานยานิโมดิปีน เพราะอาจทำให้ยาไม่ทำงาน
- ปริมาณยาขึ้นอยู่กับสภาวะทางการแพทย์ และการตอบสนองต่อการรักษา
ใช้นิโมดิปีนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด เพื่อช่วยเตือนความจำ ควรรับประทานในระยะเวลาเดียวกันของทุกวัน อย่าหยุดรับประทานนิโมดิปีนเเม้ว่าคุณจะมีอาการที่ดีขึ้นเเล้วก็ตาม
อย่าหยุดใช้ยานี้อย่างกะทันหันโดยไม่ปรึกษาแพทย์ ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด อาการของคุณอาจจะแย่ลง หากหยุดใช้ยาเร็วเกินไป
แจ้งให้แพทย์ทราบหากอาการรุนแรงขึ้น หรือมีอาการแย่ลง
การเก็บรักษา นิโมดิปีน
- ควรเก็บในอุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย
- เก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
- ไม่ควรทิ้งนิโมดิปีนลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน
นิโมดิปีนบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน ตรวจสอบฉลากข้างบรรจุภัณฑ์หรือสอบถามแพทย์และเภสัชกรเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้ นิโมดิปีน
- ก่อนใช้ยานิโมดิปีน แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากคุณแพ้ยาที่มีส่วนประกอบของนิโมดิปีน และแพ้ต่อยาในกลุ่มแคลเซียมชาแนลบล็อกเกอร์ ที่มีโครงสร้างไดไฮโดรไพริดีน (dihydropyridine) เช่น แอมโลดิปีน (amlodipine) หรือไนเฟดิปีน (nifedipine) หรือหากคุณเป็นโรคภูมิแพ้อื่นๆ ยาตัวนี้อาจมีส่วนผสมที่ไม่ได้ออกฤทธิ์ แต่อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้หรือปัญหาอื่นๆ ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
- แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ เกี่ยวกับประวัติโรคประจำตัวทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะอาการเจ็บหน้าอก หรือเริ่มมีอาการหัวใจขาดเลือดฉับพลัน ความดันโลหิตต่ำ รวมถึงอาการบาดเจ็บที่หัว และโรคตับ
ยานี้อาจทำให้คุณวิงเวียนศีรษะหรือง่วงซึม งดใช้ยานพาหนะ หรือใช้เครื่องจักร รวมถึงการทำกิจกรรมใดๆ ที่จำเป็นต้องอาศัยความตื่นตัว และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์ จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากแพทย์
ก่อนเข้ารับการผ่าตัด เเจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยาทั้งหมดที่คุณใช้ (รวมถึงยาที่จำหน่ายโดยแพทย์หรือเภสัชกร และสมุนไพรอื่นๆ )
ผู้สูงอายุอาจจะมีปฏิกิริยาไวต่อผลข้างเคียงของยานี้ได้มากกว่า โดยเฉพาะอาการวิงเวียน หรืออาการบวมที่ข้อเท้าหรือเท้า อาการวิงเวียนนั้นสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการหกล้มได้
ระหว่างตั้งครรภ์ ควรใช้ยานี้เท่าที่จำเป็น ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ของยาชนิดนี้
ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่า นิโมดิปีนอาจซึมเข้าไปในน้ำนมมารดาได้หรือไม่ ปรึกษาแพทย์ก่อนให้นมบุตร
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรี ที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
นิโมดิปีนจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
- A= ไม่มีความเสี่ยง
- B= ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
- C= อาจจะมีความเสี่ยง
- D= มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
- X= ห้ามใช้
- N= ไม่ทราบแน่ชัด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงของการใช้ นิโมดิปีน
อาการที่สามารถพบได้ทั่วไป มีดังนี้
- อาจเกิดอาการวิงเวียน หน้ามืด หน้าแดง
- อาการบวมที่ข้อเท้าหรือเท้า
แจ้งให้แพทย์ทราบในทันที หากเกิดผลข้างเคียงที่ไม่ค่อยจะเกิดขึ้นแต่รุนแรงดัง ต่อไปนี้
- หมดสติ วิงเวียนขั้นรุนแรง
- หัวใจเต้นช้าหรือเร็ว
- ปวดท้องอย่างรุนแรง ท้องอืด
- ไม่สามารถอุจจาระได้นานกว่า 3 วัน
- คลื่นไส้อาเจียนอย่างรุนแรง
- การมองเห็นเปลี่ยนแปลง
- ผดผื่น คันหรือบวม (โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ลิ้น และลำคอ)
- หายใจติดขัด
เพื่อลดอาการวิงเวียนศีรษะ ค่อยๆ ลุกขึ้นเมื่อเปลี่ยนจากท่านั่งหรือนอน เป็นท่ายืน
หากอาการเหล่านี้เกิดขึ้นเป็นระยะเวลานานหรือเเย่ลง เเจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบทันที
คุณอาจเห็นเปลือกยาเม็ดเมื่อถ่ายอุจจาระ ผลดังกล่าวไม่เป็นอันตรายเพราะร่างกายของคุณได้ดูดซึมยาเเล้ว
โปรดจำไว้ว่า การที่แพทย์ให้คุณใช้ยาตัวนี้ เนื่องจากคำนวณแล้วว่า ยามีสรรพคุณในการรักษามากกว่าเป็นโทษ และคนที่ใช้ยานี้ส่วนใหญ่ไม่พบผลข้างเคียงที่ร้ายแรงใดๆ
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียงเพิ่มเติม โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยากับยาอื่น
ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับนิโมดิปีน ได้แก่
- ยาสำหรับรักษาภาวะความดันโลหิตสูง เช่น ยาในกลุ่มเบต้าบล็อกเกอร์ (beta blockers) โพรพราโนลอล (propranolol) และเมโทโพรลอล (metoprolol)
- ยาในกลุ่ม ACE inhibitors เช่น เบนาซีพริล (benazepril) และอีนาลาพริล (enalapril)
- ยาในกลุ่มแคลเซียมชาแนลล็อกเกอร์อื่นๆ เช่น ดิลไทอะเซม (diltiazem) หรือเวราพามิล (verapamil)
ยาอื่นอาจส่งผลกระทบต่อการกำจัดยานิโมดิปีนออกจากร่างกายและส่งผลต่อการทำงานของยานี้ คือ
- ไซเมทิดีน (cimetidine)
- ยาต้านเชื้อรากลุ่มเอโซล (azole antifungals) เช่น ไอทราโคนาโซล (itraconazole) ยาปฏิชีวนะแมคโครไลด์ (macrolide antibiotics) เช่น อิริโทรมัยซิน (erythromycin)
- ยาไรฟามัยซิน (rifamycins) เช่น ไรฟาบูติน (rifabutin)
- สมุนไพรเซนต์จอห์นเวิร์ท
- ยารักษาอาการชัก เช่น คาร์บาเมเซพีน (carbamazepine) หรือเฟนีโทอิน (phenytoin) และอื่นๆ
ผลิตภัณฑ์บางชนิดอาจจะมีส่วนผสม ที่สามารถเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ หรือระดับความดันโลหิตได้ แจ้งให้เภสัชกรทราบ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่คุณใช้ และสอบถามวิธีใช้อย่างปลอดภัย โดยเฉพาะยาแก้ไอแก้หวัด ยาลดความอ้วน หรือยาแก้อักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน (ibuprofen) หรือนาพรอกเซน (naproxen)
นิโมดิปีนอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้น คุณควรบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์
นิโมดิปีนอาจทำปฎิกิริยากับอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยจะปรับเปลี่ยนประสิทธิภาพการทำงานของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียงรุนแรงอื่นๆ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานหรือดื่มน้ำเกรปฟรุต ขณะที่กำลังใช้ยานี้ เพราะเกรปฟรุตสามารถเพิ่มโอกาสในการเกิดผลข้างเคียงของยานี้ได้ โปรดสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น
นิโมดิปีนอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
ขนาดยา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาด นิโมดิปีน สำหรับผู้ใหญ่
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาอาการเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นกลาง (Subarachnoid Hemorrhage)
- 60 มก. รับประทาน หรือให้ยาทางสายให้อาหาร ทุกๆ 4 ชั่วโมง
- ระยะเวลาของการรักษา : 21 วัน
คำแนะนำ
- ควรเริ่มต้นการรักษาภายใน 96 ชั่วโมง เมื่อเริ่มมีอาการเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นกลาง
- ควรหลีกเลี่ยงการฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำและวิธีการฉีดยาอื่นๆ
การใช้งาน
- เพื่อเพิ่มผลการทำงานของสมอง (neurological outcome) โดยการลดอาการและความรุนแรงของการขาดเลือด ในผู้ป่วยที่มีอาการเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นกลาง จากหลอดเลือดโป่งพองภายในสมองแตก (ruptured intracranial berry aneurysms) โดยไม่คำนึงถึงระยะหลังชักของสภาวะทางระบบประสาท เช่น แบบประเมินความรุนแรงของฮันท์และเฮส (Hunt and Hess Grades) ระดับ I ถึง V
การปรับขนาดยาสำหรับตับ
- ผู้ป่วยที่เป็นโรคตับแข็ง (cirrhosis) : 30 มก. รับประทานทุกๆ 4 ชั่วโมง
คำแนะนำ
- ควรเฝ้าระวังความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจอย่างใกล้ชิดระหว่างการรักษา
- หากจำเป็นควรพิจารณาการหยุดใช้ยา
การปรับขนาดยา
- ใช้ร่วมกับยาเหนี่ยวนำหรือยายับยั้งเอนไซม์ไซโตรโครมพี 450 3 เอ 4 แบบแรง (strong CYP450 3A4 inducers/inhibitors) : หลีกเลี่ยงการใช้
- ใช้ร่วมกับยาเหนี่ยวนำเอนไซม์ไซโตรโครมพี 450 3 เอ 4 แบบปานปลางหรือเบา ให้เฝ้าสังเกตประสิทธิภาพ และอาจพิจารณาเพิ่มปริมาณยานี้
- ใช้ร่วมกับยายับยั้งเอนไซม์ไซโตรโครมพี 450 3 เอ 4 แบบปานปลางหรือเบา : ควรพิจารณาการลดปริมาณหากเกิดภาวะความดันโลหิตต่ำ
คำแนะนำอื่นๆ
คำแนะนำการใช้
- สำหรับการรับประทานยา ควรรับประทาน 1-2 ชั่วโมง ก่อนหรือหลังมื้ออาหาร
- ควรหลีกเลี่ยงยาที่ผสมอัลคาไลน์ (Alkaline mixtures) ก่อนและหลังจากรับประทานยานิโมดิปีน
- ยาแบบรับประทานนั้นควรจำกัดไว้ใช้กับการใช้ภายในเท่านั้น (เช่น รับประทาน หรือให้ทางสายให้อาหาร)
- หลังจากให้ยาทางสายให้อาหาร ควรล้างกระบอกฉีดยาด้วยน้ำเกลือ 0.9% 20 ถึง 30 มล. เพื่อล้างเอายาที่เหลืออยู่ให้เข้าสู่กระเพาะอาหาร
- ยานิโมดิปีนแบบฉีดเข้าหลอดเลือดดำนั้น สามารถให้ในช่วงระหว่างการระงับความรู้สึกหรือการผ่าตัด
การเก็บรักษา
- ยาแคปซูล : เก็บให้พ้นจากแสงและช่องแช่แข็ง
- ยาสารละลายสำหรับรับประทาน : เก็บให้พ้นจากแสง ห้ามแช่ตู้เย็น
- ยาเม็ดสำหรับรับประทาน : เก็บให้พ้นจากความชื้นและแสง
- ยาสำหรับฉีด : เก็บให้พ้นจากแสงและช่องแช่แข็ง
เทคนิคการคืนรูปหรือการเตรียมการ
- สำหรับผู้ที่ไม่สามารถกลืนยาแคปซูล อาจให้ยาสำหรับรับประทานได้ด้วยการใช้กระบอกฉีดยาดูดเอาเจลภายในแคปซูลออกมา และให้ผ่านทางสายให้อาหาร
ความเข้ากันของการฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำ (IV compatibility)
- ควรมีการศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิต
ทั่วไป
- ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของเกรปฟรุต ระหว่างการรักษา
- ไม่แนะนำการรักษาสำหรับอาการเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นกลางแบบมีแผล (traumatic subarachnoid hemorrhage) เนื่องจากยังไม่มีการพิสูจน์ประโยชน์
การเฝ้าระวัง
- หัวใจและหลอดเลือด
- ความดันโลหิต
- อัตราการเต้นของหัวใจ
คำแนะนำสำหรับผู้ป่วย
- ผู้ป่วยควรทราบว่ายานี้อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนและควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานพาหนะหรือใช้เครื่องจักรหากเกิดผลข้างเคียงเหล่านี้
- ผู้ป่วยควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากตั้งครรภ์ ตั้งใจที่จะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
- ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของเกรปฟรุตระหว่างการรักษา
ขนาด นิโมดิปีน สำหรับเด็ก
ไม่ได้มีการกำหนดขยาดยาสำหรับผู้ป่วยเด็ก ยานี้อาจไม่ปลอดภัยสำหรับสิ่งที่สำคัญคือต้องศึกษาการใช้ยาอย่างปลอดภัยก่อนรับประทาน โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
รูปแบบของยา
รูปแบบของยามี ดังนี้
- ยาแคปซูลสำหรับรับประทาน
- ยาน้ำสำหรับรับประทาน
กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
กรณีลืมใช้ยา
หากคุณลืมรับประทานนิโมดิปีน ควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยาก่อนได้รับอนุญาตจากแพทย์
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]