ข้อบ่งใช้
ยา ฟลูออโรยูราซิล ใช้สำหรับ
ยา ฟลูออโรยูราซิล (Fluorouracil) มักใช้เพื่อรักษาติ่งเนื้อ (skin growth) ก่อนและระหว่างที่เป็นโรคมะเร็ง ยาฟลูออโรยูราซิลจัดอยู่ในกลุ่มยาที่เรียกว่า anti-metabolities ยานี้ออกฤทธิ์โดยยับยั้งการเติบโตของเซลล์ผิดปกติ ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคผิวหนัง
วิธีการใช้ยา ฟลูออโรยูราซิล
ใช้ยานี้ตามที่แพทย์สั่ง ก่อนจะทายานี้บนผิว ทำความสะอาดผิวหนังบริเวณที่ต้องการและเช็ดให้แห้ง รอ 10 นาที จากนั้น ให้ทายาบางๆ เพียงเล็กน้อยให้ครอบคลุมบริเวณที่ต้องการ ล้างมือทันทีหลังจากใช้ยานี้ แม้ว่าคุณจะใช้ถุงมือ
ระหว่างที่รักษา บริเวณที่ทายาจะไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่ และในบางกรณีอาจจะส่งผล ไปถึงหลังเสร็จสิ้นการรักษาไปแล้วหลายสัปดาห์ อย่าปิดบริเวณที่ทายา ด้วยการใช้ผ้ามัดแน่น หรือผ้าพันแผลพลาสติกรัด ปรึกษาแพทย์ก่อนว่า คุณจะปิดบริเวณดังกล่าวอย่างหลวมๆ ด้วยผ้าก๊อซได้หรือไม่
หลีกเลี่ยงการทายารอบดวงตาหรือหนังตา อย่าทายานี้ในจมูกหรือปาก หากบังเอิญทายาในบริเวณเหล่านี้ ให้ล้างออกด้วยน้ำในปริมาณที่มาก
ใช้ยานี้ตามที่แพทย์สั่ง อย่าหยุดยา เพิ่มขนาดยาหรือใช้บ่อยเกินกว่าที่แพทย์สั่ง โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ อาการของคุณอาจไม่ได้หายไวขึ้น แต่ผลข้างเคียงอาจจะเพิ่มขึ้น หากอาการของคุณแย่ลงหรือไม่ได้ดีขึ้น ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทันที
การเก็บรักษายา ฟลูออโรยูราซิล
คุณควรเก็บยาฟลูออโรยูราซิลไว้ในอุณหภูมิห้อง รวมถึงเก็บให้พ้นจากแสงและความชื้น เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับยา คุณไม่ควรเก็บยาฟลูออโรยูราซิลไว้ให้ห้องน้ำหรือตู้เย็น ยาฟลูออโรยูราซิลแต่ละยี่ห้ออาจมีวิธีเก็บแตกต่างกันไป สิ่งสำคัญคือการอ่านคำแนะนำการเก็บรักษายาบนหีบห่อของผลิตภัณฑ์หรือถามเภสัชกร เพื่อความปลอดภัย และคุณควรเก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
คุณไม่ควรทิ้งยาฟลูออโรยูราซิลลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่คุณได้รับคำแนะนำให้ทำอย่างนั้น ดังนั้น สิ่งสำคัญคือทิ้งยาเมื่อยาหมดอายุหรือไม่จำเป็นต้องใช้ยาอีกต่อไป ปรึกษาเภสัชกร เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีทิ้งยาอย่างปลอดภัย
คำเตือนและข้อควรระวัง
ข้อควรรู้ก่อนใช้ยาฟลูออโรยูราซิล
ก่อนใช้ยาฟลูออโรยูราซิล แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากคุณแพ้ยาชนิดนี้ หรือยาฟลูไซโทซีน (flucytosine) ยาคาเพกไซตาบีน (capecitabine) รวมถึงหากคุณมีอาการแพ้อื่นๆ ยาอาจมีส่วนผสมที่ไม่ได้ออกฤทธิ์ในการรักษา เช่น น้ำมันถั่วในยาบางยี่ห้อ แต่อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้หรือปัญหาอื่นๆ ปรึกษาเภสัชกรเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ไม่ควรใช้ยานี้ หากคุณมีโรคประจำตัว ก่อนใช้ยานี้ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร หากคุณมีภาวะพร่องเอนไซม์บางชนิด เช่น เอนไซม์ไดไฮโดรไพริมิดีนไฮโดรจีเนส (dihydropyrimidine dehydrogenase – DPD)
ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับประวัติการเจ็บป่วยของคุณ โดยเฉพาะผิวหนังมีรอยแดง ระคายเคือง ติดเชื้อ หรือ มีแผลเปิด
ยานี้อาจทำให้คุณตอบสนองต่อแสงไวมากขึ้น ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงเวลาที่คุณจะต้องอยู่กลางแดดและหลอดไฟอัลตราไวโอเลต ทาครีมกันแดด และสวมเสื้อผ้าที่ปกป้องผิว เมื่ออยู่กลางแจ้ง หลังจากทาครีมฟลูออโรยูราซิล รอ 2 ชั่วโมงก่อนทาครีมอาบแดดหรือมอยส์เจอไรเซอร์ บริเวณที่ทายา อย่าใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวชนิดอื่น ได้แก่ ครีม โลชั่น ยาหรือเครื่องสำอาง เว้นแต่แพทย์จะแนะนำให้ทำอย่างนั้น แจ้งให้แพทย์ทราบทันทีหากผิวไหม้ พุพองหรือมีรอยแดง
อย่าใช้ยานี้ระหว่างตั้งครรภ์ เพราะอาจมีอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ หากคุณตั้งครรภ์หรือคิดว่าอาจจะตั้งครรภ์ แจ้งให้แพทย์ทราบทันที ปรึกษาแพทย์เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และหารูปแบบการคุมกำเนิดที่เชื่อถือได้
ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่ายานี้ซึมเข้าสู่น้ำนม เนื่องจากความเสี่ยงที่เป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นกับทารก ไม่แนะนำให้มารดาให้นมบุตรระหว่างใช้ยานี้ ปรึกษาแพทย์ก่อนให้นมบุตร
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ไม่มีการศึกษาในผู้หญิงที่เพียงพอที่จะระบุความเสี่ยงขณะที่ใช้ยาฟลูออโรยูราซิลระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เป็นประจำเพื่อชั่งน้ำหนักระหว่างข้อดีและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นก่อนใช้ยา ฟลูออโรยูราซิล อ้างอิงจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ยาฟลูออโรยูราซิลจัดเป็นยากลุ่มที่มีความเสี่ยงสำหรับสตรีมีครรภ์ประเภท X
ต่อไปนี้คือประเภทความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา
- A = ไม่เสี่ยง
- B = ไม่เสี่ยง (อ้างอิงจากงานวิจัยบางงาน)
- C = อาจมีความเสี่ยงบางอย่าง
- D = พบหลักฐานเกี่ยวกับความเสี่ยงโดยตรง
- X = ห้ามใช้
- N = ไม่ทราบแน่ชัด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงจากการใช้ยา ฟลูออโรยูราซิล
คุณอาจระคายเคือง เจ็บหรือแสบผิว ผิวเกิดรอยแดง ผิวแห้ง บวม รวมถึงสีผิวที่เปลี่ยนไปบริเวณที่ทายา การระคายเคืองตา เช่น ปวดหรือน้ำตาไหล ปัญหาในการนอนหลับ หงุดหงิดง่าย ผมร่วงชั่วคราว หรือลิ้นรับรสอาหารเปลี่ยนไป หากอาการเหล่านี้ยังคงเกิดขึ้นหรือแย่ลง แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบทันที
การที่แพทย์ได้จ่ายยานี้ เนื่องจากได้ตัดสินใจแล้วว่านี่จะมีประโยชน์ต่อคุณ มากกว่าความเสี่ยงที่เกิดจากผลข้างเคียง หลายคนใช้ยานี้แล้วไม่มีผลข้างเคียงรุนแรงใดๆ
แจ้งให้แพทย์ทราบทันทีหากเกิดผลข้างเคียงที่ไม่น่าเกิดขึ้นแต่รุนแรงเหล่านี้ ได้แก่ ปวดท้องหรือกระเพาะอาหาร ท้องเสียเป็นเลือด อาเจียน อาการของการติดเชื้อ เช่น เป็นไข้ หนาวสั่น เจ็บคอเป็นระยะเวลานาน ช้ำหรือเลือดออกได้ง่าย หรือเจ็บปาก
ไม่ค่อยมีอาการแพ้ยาที่รุนแรงเท่าไหร่นัก อย่างไรก็ตาม เข้ารับการรักษาทันที หากคุณสังเกตเห็นอาการแพ้ ได้แก่ ผื่น คันผิวหรือผิวบวม โดยเฉพาะที่ใบหน้า ลิ้นหรือลำคอ วิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรง มีปัญหาเรื่องการหายใจ
ไม่ใช่ทุกคนที่จะแสดงอาการอันเนื่องมาจากผลข้างเคียงเหล่านี้ อาจมีผลข้างเคียงอื่นที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น หากคุณมีความกังวลเรื่องผลข้างเคียง โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยาต่อยาชนิดอื่น
ยาฟลูออโรยูราซิลอาจมีปฏิกิริยาต่อยาตัวอื่นที่คุณกำลังรับประทานอยู่ และอาจส่งผลให้ยาที่คุณรับประทานออกฤทธิ์ต่างไปจากเดิม หรือเพิ่มความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่รุนแรง เพื่อหลีกเลี่ยงการทำปฏิกิริยาต่อกันระหว่างยาที่อาจเป็นไปได้ คุณควรเก็บรายชื่อยาทั้งหมดที่คุณใช้ ทั้งยาที่ต้องใช้ใบสั่งยา ยาที่ซื้อใช้เอง และสมุนไพร ควรแจ้งให้แพทย์และเภสัชกรทราบ เพื่อความปลอดภัย อย่าเริ่มหรือหยุดใช้ยา รวมถึงเปลี่ยนขนาดยาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากแพทย์
ปฏิกิริยาต่ออาหารหรือแอลกอฮอล์
ยาฟลูออโรยูราซิลอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์ โดยเปลี่ยนฤทธิ์ยา หรือเพิ่มความเสี่ยงให้ที่จะเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อถามถึงอาหารหรือแอลกอฮอล์ที่อาจทำปฏิกิริยากับยานี้ก่อนใช้ยา
ปฏิกิริยาต่ออาการโรคอื่น
ยาฟลูออโรยูราซิลอาจส่งผลต่อสุขภาพของคุณ ปฏิกิริยาของยาที่มีต่อร่างกายอาจทำให้สุขภาพของคุณย่ำแย่ลง หรือเปลี่ยนฤทธิ์ของยา สิ่งสำคัญ คือโปรดแจ้งให้แพทย์และเภสัชกร ทราบเกี่ยวกับสุขภาพและโรคประจำตัวของคุณ
ขนาดยา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งหรือเภสัชกรก่อนใช้ยาฟลูออโรยูราซิล
ขนาดยา ฟลูออโรยูราซิล ที่ผู้ใหญ่ควรใช้
ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาอาการผิวหนังหนาและแข็ง (Keratosis)
ครีม 0.5% (สูตรยาแบบไมโครสเฟียร์หรือ Microsphere Formulation) ทายาบริเวณที่เป็น 1 ครั้งต่อวัน
ครีม 1% 2% หรือ 5% หรือสารละลาย 2% หรือ 5% ทา 2 ครั้งต่อวันในปริมาณที่เพียงพอที่จะครอบคลุมบริเวณแผล ใช้ยานี้จนกว่าเกิดการผลัดเปลี่ยนเซลล์ของชั้นผิวหนัง จากนั้น จึงหยุดใช้
-ระยะเวลาในการรักษา 2 ถึง 4 สัปดาห์ แผลอาจจะไม่หายดีอย่างเห็นได้ชัดแม้ว่าเวลาจะผ่านไปแล้ว 1 ถึง 2 เดือนหลังจากทายา
คำแนะนำ
-การตอบสนองจะเริ่มด้วยผิวหนังแดง ตามด้วยตุ่มพอง แผลตกสะเก็ด ลอกและเกิดเซลล์ผิวใหม่
-ควรตรวจชิ้นเนื้อผิวที่ถูกทำลายจากรังสีอัลตราไวโอเลต (Solar Keratoses) ซึ่งไม่ตอบสนองต่อการรักษา เพื่อการวินิจฉัย
การใช้ ใช้รักษาผิวที่ถูกทำลายจากรังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสี
ขนาดยาทั่วไปสำหรับผู้ป่วย เบซัลเซลล์ คาซิโนมา (Basal Cell Carcinoma)
ครีม 5% หรือสารละลาย
–ทา 2 ครั้งต่อวันในปริมาณที่เพียงพอที่จะครอบคลุมบริเวณแผล ใช้ยานี้จนกว่าอาการอักเสบจะถึงขั้นลอกออก จากนั้นจึงหยุดใช้
-ระยะเวลาในการรักษา 3 ถึง 6 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม อาจจำเป็นต้องรักษานานถึง 10 ถึง 12 สัปดาห์ก่อนที่รอยแผลจะหายดี
คำแนะนำ
-แนะนำให้ใช้ครีม 5% หรือสารละลาย เพื่อรักษา Superficial Basal Cell Carcinoma
-การตอบสนองจะเริ่มด้วยผิวหนังแดง ตามด้วยตุ่มพอง แผลตกสะเก็ด ลอกและเกิดเซลล์ผิวใหม่
การใช้ ใช้เพื่อรักษาโรคมะเร็งผิวหนังชนิดเบซัลเซลล์ที่ไม่รุนแรง เมื่อการรักษาแผนปัจจุบันไม่ได้ผลเช่นมีหลายแผลหรือเป็นแผลที่บริเวณที่ยากที่จะรักษา
คำแนะนำอื่นๆ
คำแนะนำในการใช้
-ใช้อุปกรณ์ที่ไม่ใช่โลหะหรือถุงมือ หากทายาด้วยนิ้ว ควรล้างมือทันทีหลังทายา
-หลีกเลี่ยงการสัมผัสเยื่อบุผิว หนังตา ตา รูจมูกหรือปาก
-หลีกเลี่ยงการโดนแสงอัลตราไวโอเลหรือแสงแดดมากเกินไป
-หลีกเลี่ยงการปิดแผล เว้นแต่แพทย์แนะนำ
คำแนะนำทั่วไป
-เซลล์มะเร็งชนิดเบซัลและสความัส (Squamous) เป็นเซลล์มะเร็งที่อยู่ลึก มักจะไม่ตอบสนองต่อยานี้ ควรใช้ยาแก้ปวดในกรณีที่ไม่สามารถรักษาได้ด้วยวิธีอื่นแล้ว
-ไม่ควรใช้ยาที่มีความเข้มข้น 0.5% 1% และ 2% เพื่อรักษาเซลล์มะเร็งชนิดเบซัล
ขนาดยาฟลูออโรยูราซิลสำหรับเด็ก
ไม่ได้มีการกำหนดขยาดยาสำหรับผู้ป่วยที่เป็นเด็ก ยานี้อาจไม่ปลอดภัยสำหรับเด็ก สิ่งที่สำคัญคือต้องศึกษาการใช้ยาอย่างปลอดภัยก่อนใช้ยา โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
รูปแบบของยาฟลูออโรยูราซิล
ยาฟลูออโรยูราซิลโดนมีรูปแบบดังต่อไปนี้
- ครีม
- สารละลาย
- ชุดอุปกรณ์
กรณีฉุกเฉินหรือการใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
กรณีลืมใช้ยา
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติ ไม่ควรเพิ่มขนาดยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัย หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]