backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

ฟลูโอซิโนไนด์ (Fluocinonide)

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย จิดาภา ติยะสิริทานนท์ · แก้ไขล่าสุด 09/11/2022

ฟลูโอซิโนไนด์ (Fluocinonide) ใช้เพื่อรักษาโรคทางผิวหนัง เช่น ผื่นแดง ผิวหนังอักเสบ โรคภูมิแพ้และผื่นคัน ยาฟลูโอซิโนไนด์ลดอาการบวม คันและรอยแดงที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากโรคผิวหนัง ยานี้เป็นยาคอร์ติโคสเตอรอยด์ (Corticosteroid) ชนิดรุนแรง

ข้อบ่งใช้

ยา ฟลูโอซิโนไนด์ ใช้สำหรับ

ยา ฟลูโอซิโนไนด์ (Fluocinonide) ใช้เพื่อรักษาโรคทางผิวหนัง เช่น ผื่นแดง ผิวหนังอักเสบ โรคภูมิแพ้และผื่นคัน ยาฟลูโอซิโนไนด์ลดอาการบวม คันและรอยแดงที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากโรคผิวหนัง ยานี้เป็นยาคอร์ติโคสเตอรอยด์ (Corticosteroid) ชนิดรุนแรง

วิธีการใช้ยา ฟลูโอซิโนไนด์

ทายานี้บนผิวเท่านั้น อย่างไรก็ตาม อย่าทายานี้บนใบหน้า ขาหนีบหรือรักแร้ เว้นแต่แพทย์จะแนะนำให้ทำอย่างนั้น ล้างมือและเช็ดมือให้แห้ง ก่อนจะทายานี้ ทำความสะอาดบริเวณที่เป็นโรคและเช็ดให้แห้ง จากนั้น จึงทายา 2 – 4 ครั้ง ต่อวัน หรือตามที่แพทย์สั่ง ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยา ขึ้นอยู่กับประเภทของการติดเชื้อ อย่าใช้อะไรปิด หรือมัดรอบๆ บริเวณที่ผิวหนังอักเสบ เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำตามที่แพทย์สั่ง หากต้องทายาบริเวณที่ทารกใส่ผ้าอ้อม ก็อย่าใส่ผ้าอ้อมหรือกางเกงพลาสติกให้แน่น

หลังจากทายาให้ล้างมือ หากทายานี้ใกล้ตา หลีกเลี่ยงการสัมผัสตา เพราะอาจทำให้อาการแย่ลง หรือทำให้เป็นโรคต้อหิน หลีกเลี่ยงการสัมผัสเยื่อบุผิว หนังตา ตา รูจมูก หรือ ปาก เมื่อทายานี้ หากคุณสัมผัสบริเวณดังกล่าว ให้ใช้น้ำปริมาณมากๆ ล้างออก ใช้ยานี้เพื่อรักษาโรคตามที่แพทย์จ่ายยา อย่าใช้ยานานเกินกว่าที่แพทย์สั่ง ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ หากยังคงเป็นโรคหรืออาการแย่ลง หลังจากรักษาไปแล้ว 2 อาทิตย์

การเก็บรักษายาฟลูโอซิโนไนด์

คุณควรเก็บยาฟลูโอซิโนไนด์ไว้ในอุณหภูมิห้อง รวมถึงเก็บให้พ้นจากแสงและความชื้น เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับยา คุณไม่ควรเก็บยาฟลูโอซิโนไนด์ไว้ให้ห้องน้ำหรือตู้เย็น ยาฟลูโอซิโนไนด์แต่ละยี่ห้ออาจมีวิธีเก็บแตกต่างกันไป สิ่งสำคัญคือควรอ่านคำแนะนำการเก็บรักษายาบนหีบห่อของผลิตภัณฑ์หรือถามเภสัชกร เพื่อความปลอดภัย คุณควรเก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

ไม่ควรทิ้งยาฟลูโอซิโนไนด์ลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่คุณได้รับคำแนะนำให้ทำอย่างนั้น ดังนั้น สิ่งสำคัญคือทิ้งยาเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่จำเป็นต้องรับประทานอีกต่อไป ปรึกษาเภสัชกร เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีทิ้งยาอย่างปลอดภัย

ข้อควรระวังและคำเตือน

ข้อควรรู้ก่อนใช้ยาฟลูโอซิโนไนด์

ก่อนใช้ยาฟลูโอซิโนไนด์ แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากคุณแพ้ยาชนิดนี้ หรือยาคอร์ติสเตอรอยด์ชนิดอื่น เช่น ยาไฮโดรคอร์ติโซน (Hydrocortisone) ยาเพรดนิโซน (Prednisone) รวมถึง หากคุณมีอาการแพ้อื่นๆ ยาตัวนี้อาจมีส่วนผสมที่ไม่ได้ออกฤทธิ์ในการรักษา แต่อาจทำให้เกิดการแพ้หรือปัญหาอื่นๆ ปรึกษาเภสัชกรเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ก่อนใช้ยานี้ แจ้งแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับประวัติการเจ็บป่วย โดยเฉพาะการไหลเวียนเลือดที่ไม่ดี ปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน อย่าใช้ยานี้กับบริเวณที่อาการติดเชื้อหรือมีแผล

น้อยครั้งที่การใช้ยาคอร์ติโคสเตอรอยด์เป็นเวลานาน หรือเป็นบริเวณกว้างบนผิวหนัง จะทำให้ร่างกายยากที่จะตอบสนองต่อความตึงเครียดทางกาย ดังนั้น ก่อนจะเข้ารับการผ่าตัดหรือรักษาในแผนกฉุกเฉิน หรือหากคุณมีโรคหรือเจ็บป่วยอย่างรุนแรง แจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบว่า คุณกำลังใช้ยานี้ หรือใช้ยานี้ภายในไม่กี่เดือนที่แล้ว

แม้ว่าไม่ค่อยจะเกิดขึ้น แต่ยานี้อาจทำให้พัฒนาการของเด็กช้าลง หากใช้เป็นระยะเวลานาน ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดเกี่ยวกับฤทธิ์ของยาต่อความสูงของผู้ใหญ่ ดังนั้นควรไปโรงพยาบาลเป็นประจำเพื่อตรวจดูพัฒนาการและความสูงของเด็ก ในระหว่างตั้งครรภ์ ควรใช้ยานี้เท่าที่จำเป็น ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงและข้อดี

ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ไม่มีการศึกษาในผู้หญิงที่เพียงพอที่จะระบุความเสี่ยง ขณะที่ใช้ยา ฟลูโอซิโนไนด์ ระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เป็นประจำ เพื่อชั่งน้ำหนักระหว่างข้อดีและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ก่อนรับประทานยาฟลูโอซิโนไนด์ อ้างอิงจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ยาฟลูโอซิโนไนด์จัดเป็นยาที่มีความกลุ่มเสี่ยงสำหรับสตรีมีครรภ์ประเภท C

ต่อไปนี้คือประเภทความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา

  • A = ไม่เสี่ยง
  • B = ไม่เสี่ยง (อ้างอิงจากงานวิจัยบางงาน)
  • C = อาจมีความเสี่ยงบางอย่าง
  • D = พบหลักฐานเกี่ยวกับความเสี่ยงโดยตรง
  • X = ห้ามใช้
  • N = ไม่ทราบแน่ชัด

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงจากการใช้ยาฟลูโอซิโนไนด์

คุณอาจรู้สึกแสบ คัน ระคายเคืองผิว หรือผิวแห้ง เมื่อใช้ยานี้ครั้งแรก อาการเหล่านี้ ควรหายไปภายในเวลาไม่กี่วัน เนื่องจากร่างกายกำลังปรับตัวเข้ากับยา หากอาการเหล่านี้ยังคงอยู่หรือแย่ลง แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบทันที

การที่แพทย์ได้จ่ายยานี้ เนื่องจากได้ตัดสินใจแล้วว่านี่จะมีประโยชน์ มากกว่าความเสี่ยงที่เกิดจากผลข้างเคียง หลายคนใช้ยานี้แล้วไม่มีผลข้างเคียงรุนแรงใดๆ หากมีอาการรุนแรงเกิดขึ้น ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที อาการที่ไม่น่าเกิดขึ้นแต่รุนแรงเหล่านี้ ได้แก่ รอยแผลที่รุนแรง ผิวบางลงหรือสีซีด สิว ขนขึ้น รวมถึงรากขนอักเสบ (Folliculitis) การติดเชื้อที่ผิวหนังอาจแย่ลงเมื่อใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์ทราบ หากรอยแดง อาการบวมหรือการระคายเคืองผิวไม่ดีขึ้น

ยานี้อาจซึมจากผ่านผิวหนังเข้าสู่กระแสเลือด อาจนำไปสู่ผลข้างเคียงของการใช้ยาคอร์ติโคสเตอรอยด์มากเกินไป ผลข้างเคียงเหล่านี้มักจะเกิดในเด็กและผู้ป่วยที่ใช้ยานี้เป็นเวลานาน หรือทายานี้บนผิวหนังเป็นบริเวณกว้าง แจ้งให้แพทย์ทราบทันที หากเกิดผลข้างเคียงเหล่านี้ ได้แก่ เหนื่อยล้าผิดปกติ น้ำหนักลด ปวดศีรษะ ข้อเท้าหรือเท้าบวม อยากอาหารหรือปัสสาวะมากขึ้น มีปัญหาด้านการมองเห็น

โดยปกติแล้วไม่ค่อยมีอาการแพ้ยาที่รุนแรงเท่าไหร่นัก อย่างไรก็ตาม เข้ารับการรักษาทันที หากคุณสังเกตเห็นอาการแพ้ ได้แก่ ผื่น คันผิว หรือผิวบวม โดยเฉพาะที่ใบหน้า ลิ้น หรือลำคอ วิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรง มีปัญหาเรื่องการหายใจ ไม่ใช่ทุกคนที่จะแสดงอาการอันเนื่องมาจากผลข้างเคียงเหล่านี้ อาจมีผลข้างเคียงอื่นที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น หากคุณมีความกังวลเรื่องผลข้างเคียง โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร

ปฏิกิริยาของยา

ปฏิกิริยากับยาอื่น

ก่อนรับประทานยานี้ แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับยาที่ต้องใช้ ทั้งยาที่แพทย์สั่งยาที่ซื้อรับประทานเอง และสมุนไพรที่คุณเคยใช้และใช้อยู่ โดยเฉพาะ ยาคอร์ติโคสเตอรอยด์ สำหรับรับประทาน เช่น ยาเพรดนิโซน (Prednisone) ยาที่ลดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน เช่น ยาไซโคลสปอรีน (Cyclosporine)

ยาฟลูโอซิโนไนด์อาจมีปฏิกิริยากับยาตัวอื่นที่คุณกำลังรับประทานอยู่ และอาจส่งผลให้ยาที่คุณรับประทานออกฤทธิ์ต่างไปจากเดิม หรือเพื่อความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่รุนแรง หลีกเลี่ยงการเกิดปฏิกิริยาระหว่างยาที่อาจเป็นไปได้ คุณควรเก็บรายชื่อยาทั้งหมดที่คุณใช้ รวมถึงยาที่แพทย์สั่ง ยาซื้อรับประทานเอง และสมุนไพร ควรแจ้งให้แพทย์รวมถึงเภสัชกรทราบ เพื่อความปลอดภัย อย่าเริ่มหรือหยุดรับประทาน รวมถึงเปลี่ยนปริมาณยาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากแพทย์

ปฏิกิริยาต่ออาหารหรือแอลกอฮอล์

ยา ฟลูโอซิโนไนด์ อาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์ โดยเปลี่ยนฤทธิ์ยา หรือเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อถามถึงอาหารหรือแอลกอฮอล์ที่อาจทำปฏิกิริยากับยานี้ก่อนรับประทานยา

ปฏิกิริยาต่อภาวะสุขภาพ

ยาฟลูโอซิโนไนด์อาจส่งผลต่อสุขภาพของคุณ ปฏิกิริยาของยาที่มีต่อร่างกายอาจทำให้สุขภาพของคุณย่ำแย่ลงหรือเปลี่ยนฤทธิ์ของยา สิ่งสำคัญคือโปรดแจ้งให้แพทย์และเภสัชกรทราบ เกี่ยวกับสุขภาพและโรคประจำตัวของคุณ

ขนาดยา

ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้งหรือเภสัชกรก่อนใช้ยาฟลูโอซิโนไนด์

ขนาดยาฟลูโอซิโนไนด์สำหรับผู้ใหญ่

ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาผิวหนังอักเสบ (Dermatitis)

ครีม เจลหรือขี้ผึ้ง 0.05%  ทายาบางๆ บริเวณที่เป็น 2 ถึง 4 ครั้งต่อวัน

ครีม 0.1% : ทายาบาง ๆ บริเวณที่เป็น 2 ครั้งต่อวัน

คำแนะนำ

  • สวมใส่เสื้อผ้าเพื่อปกปิดรอยแผลได้ อย่างไรก็ตาม หากติดเชื้อ ควรหยุดสมใส่เสื้อผ้าดังกล่าว และเริ่มการรักษาเพื่อต้านเชื้อจุลชีวนะที่เหมาะสม
  • ควรจำกัดการใช้ยาเพียง 2 สัปดาห์ติดต่อกัน และไม่ควรใช้ยาเกินกว่า 60 กรัมต่อสัปดาห์

การใช้ ใช้เพื่อบรรเทาการอักเสบและอาการคันที่เป็นผลต่อการตอบสนองต่อยาคอร์ติสเตียรอยด์ของโรคผิวหนัง

ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาโรคเรื้อนกวาง (Eczema)

ครีม เจลหรือขี้ผึ้ง 0.05%  ทายาบาง ๆ บริเวณที่เป็น 2 ถึง 4 ครั้งต่อวัน

ครีม 0.1%  ทายาบางๆ บริเวณที่เป็น 2 ครั้งต่อวัน

คำแนะนำ

  • สวมใส่เสื้อผ้าเพื่อปกปิดรอยแผลได้ อย่างไรก็ตาม หากติดเชื้อ ควรหยุดสมใส่เสื้อผ้าดังกล่าวและเริ่มการรักษาเพื่อต้านเชื้อจุลชีวนะที่เหมาะสม
  • ควรจำกัดการใช้ยาเพียง 2 สัปดาห์ติดต่อกัน และไม่ควรใช้ยาเกินกว่า 60 กรัมต่อสัปดาห์

การใช้  ใช้เพื่อบรรเทาการอักเสบและอาการคันที่เป็นผลต่อการตอบสนองต่อยาคอร์ติสเตียรอยด์ของโรคผิวหนัง

ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาโรคผิวหนังอักเสบเนื่องจากภูมิแพ้

ครีม 0.1%  ทายาเนื้อบางๆ บริเวณที่เป็น 1 ครั้งต่อวัน

คำแนะนำ

  • สวมใส่เสื้อผ้าเพื่อปกปิดรอยแผลได้ อย่างไรก็ตาม หากติดเชื้อ ควรหยุดสมใส่เสื้อผ้าดังกล่าวและเริ่มการรักษาเพื่อต้านเชื้อจุลชีวนะที่เหมาะสม
  • ควรจำกัดการใช้ยาเพียง 2 สัปดาห์ติดต่อกันและไม่ควรใช้ยาเกินกว่า 60 กรัมต่อสัปดาห์

การใช้  ใช้เพื่อบรรเทาการอักเสบและอาการคันจากโรคผิวหนังอักเสบเนื่องจากภูมิแพ้

ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาโรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)

ครีม 0.1%  ทายาเนื้อบางๆ บริเวณที่เป็น 1 ครั้งต่อวัน

คำแนะนำ

  • สวมใส่เสื้อผ้าเพื่อปกปิดรอยแผลได้ อย่างไรก็ตาม หากติดเชื้อ ควรหยุดสมใส่เสื้อผ้าดังกล่าวและเริ่มการรักษาเพื่อต้านเชื้อจุลชีวนะที่เหมาะสม
  • ควรจำกัดการใช้ยาเพียง 2 สัปดาห์ ติดต่อกันและไม่ควรใช้ยาเกินกว่า 60 กรัมต่อสัปดาห์

การใช้  ใช้เพื่อบรรเทาการอักเสบและอาการคันที่เป็นผลจากโรคสะเก็ดเงิน

คำแนะนำอื่น

คำแนะนำในการใช้

  • ไม่ควรใช้ยานี้บนใบหน้า ขาหนีบหรือรักแร้
  • อย่าใช้อะไรปิด พันหรือมัดรอบ ๆ บริเวณที่ทายา เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำตามที่ผู้ให้บริการด้านการแพทย์แนะนำ
  • ผู้ปกครองของเด็กไม่ควรใช้ผ้าอ้อม หรือกางเกงพลาสติก รัดแน่นในบริเวณที่ทายา

ข้อกำหนดในการเก็บรักษา

  • หลีกเลี่ยงความร้อนที่มากเกินไป

โดยทั่วไป

  • ไม่ควรใช้ยานี้เพื่อรักษาโรคผิวหนังอักเสบบนใบหน้า (rosacea) หรือโรคผิวหนังอักเสบ รอบ ๆ ปาก (perioral dermatitis)

การเฝ้าระวัง

  • ต่อมไร้ท่อ Urinary free-cortisol test และ ACTH-stimulation test

คำแนะนำสำหรับผู้ป่วย

  • ผู้ป่วยควรรายงานสัญญาณใด ๆ ที่เกิดขึ้นของผลข้างเคียงในร่างกาย โดยเฉพาะในร่มผ้า

ขนาดยาฟลูโอซิโนไนด์สำหรับเด็ก 

ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาผิวหนังอักเสบ (Dermatitis)

อายุ 12 ปีหรือมากกว่า

ครีม เจลหรือขี้ผึ้ง 0.05%  ทายาเนื้อบางๆ บริเวณที่เป็น 2 ถึง 4 ครั้งต่อวัน

ครีม 0.1%  ทายาเนื้อบางๆ บริเวณที่เป็น 2 ครั้งต่อวัน

คำแนะนำ

  • สวมใส่เสื้อผ้าเพื่อปกปิดรอยแผลได้ อย่างไรก็ตาม หากติดเชื้อ ควรหยุดสมใส่เสื้อผ้าดังกล่าวและเริ่มการรักษาเพื่อต้านเชื้อจุลชีวนะที่เหมาะสม
  • ควรจำกัดการใช้ยาเพียง 2 สัปดาห์ติดต่อกันและไม่ควรใช้ยาเกินกว่า 60 กรัมต่อสัปดาห์

การใช้ ใช้เพื่อบรรเทาการอักเสบและอาการคันที่เป็นผลต่อการตอบสนองต่อยาคอร์ติสเตียรอยด์ของโรคผิวหนัง

ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาโรคเรื้อนกวาง (Eczema)

ครีม เจลหรือขี้ผึ้ง 0.05%  ทายาเนื้อบางๆ บริเวณที่เป็น 2 ถึง 4 ครั้งต่อวัน

ครีม 0.1%  ทายาเนื้อบางๆ บริเวณที่เป็น 2 ครั้งต่อวัน

คำแนะนำ

  • สวมใส่เสื้อผ้าเพื่อปกปิดรอยแผลได้ อย่างไรก็ตาม หากติดเชื้อ ควรหยุดสมใส่เสื้อผ้าดังกล่าวและเริ่มการรักษาเพื่อต้านเชื้อจุลชีวนะที่เหมาะสม
  • ควรจำกัดการใช้ยาเพียง 2 สัปดาห์ติดต่อกันและไม่ควรใช้ยาเกินกว่า 60 กรัมต่อสัปดาห์

การใช้ ใช้เพื่อบรรเทาการอักเสบและอาการคันที่เป็นผลต่อการตอบสนองต่อยาคอร์ติสเตียรอยด์ของโรคผิวหนัง

ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาโรคผิวหนังอักเสบเนื่องจากภูมิแพ้

ครีม 0.1%  ทายาเนื้อบางๆ บริเวณที่เป็น 1 ครั้งต่อวัน

คำแนะนำ

  • สวมใส่เสื้อผ้าเพื่อปกปิดรอยแผลได้ อย่างไรก็ตาม หากติดเชื้อ ควรหยุดสมใส่เสื้อผ้าดังกล่าวและเริ่มการรักษาเพื่อต้านเชื้อจุลชีวนะที่เหมาะสม
  • ควรจำกัดการใช้ยาเพียง 2 สัปดาห์ ติดต่อกันและไม่ควรใช้ยาเกินกว่า 60 กรัมต่อสัปดาห์

การใช้ ใช้เพื่อบรรเทาการอักเสบและอาการคันจากโรคผิวหนังอักเสบเนื่องจากภูมิแพ้

ขนาดยาทั่วไปสำหรับรักษาโรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis)

ครีม 0.1%  ทายาเนื้อบางๆ บริเวณที่เป็น 1 ครั้งต่อวัน

คำแนะนำ

  • สวมใส่เสื้อผ้าเพื่อปกปิดรอยแผลได้ อย่างไรก็ตาม หากติดเชื้อ ควรหยุดสมใส่เสื้อผ้าดังกล่าวและเริ่มการรักษาเพื่อต้านเชื้อจุลชีวนะที่เหมาะสม
  • ควรจำกัดการใช้ยาเพียง 2 สัปดาห์ติดต่อกันและไม่ควรใช้ยาเกินกว่า 60 กรัมต่อสัปดาห์

การใช้ ใช้เพื่อบรรเทาการอักเสบและอาการคันที่เป็นผลจากโรคสะเก็ดเงิน

คำเตือน

ไม่ได้มีการระบุประสิทธิภาพและความปลอดภัยสำหรับผู้ป่วย ที่มีอายุน้อยกว่า 12 ปี

รูปแบบของยาฟลูโอซิโนไนด์

ยาฟลูโอซิโนไนด์โดนมีรูปแบบดังต่อไปนี้

  • เจล
  • ครีม
  • ขี้ผึ้ง
  • สารละลาย
  • ยาผง

กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด

หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที

กรณีลืมใช้ยา

หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติ ไม่ควรเพิ่มขนาดยา

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัย หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์

ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย จิดาภา ติยะสิริทานนท์ · แก้ไขล่าสุด 09/11/2022

advertisement iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

advertisement iconโฆษณา
advertisement iconโฆษณา