ข้อบ่งใช้
ยา อะซีบูโทลอล ใช้สำหรับ
ยาอะซีบูโทลอล (Acebutolol) มักใช้เพื่อรักษาภาวะความดันโลหิตสูง ยานี้ยังสามารถใช้เพื่อรักษาความผิดปกติของอัตราการเต้นของหัวใจบางชนิดได้อีกด้วย การรักษาอาการหัวใจเต้นผิดปกติสามารถช่วยให้หัวใจทำงานได้ดีขึ้น อาการหัวใจเต้นผิดปกตินั้นสามารถนำไปสู่โรคร้ายแรงอื่นๆ ได้ เช่น หัวใจวาย
อาจมีการใช้ยานี้เพื่อจุดประสงค์อื่น โปรดปรึกษากับแพทย์
วิธีการใช้ยา อะซีบูโทลอล
- ใช้ยาอะซีบูโทลอลตามที่แพทย์กำหนด ควรอ่านข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับมาและทำตามคำแนะนำการใช้ให้ถูกต้อง
- ยานี้สามารถรับประทานพร้อมกับอาหาร หรือรับประทานแยกต่างหากได้
- รับประทานยานี้อย่างต่อเนื่องตามที่แพทย์สั่ง แม้ว่าคุณจะรู้สึกเป็นปกติดี
- ควรรับประทานยาอะซีบูโทลอลในเวลาเดียวกันทุกวัน
- ไม่ควรข้ามมื้อยาเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากยาสูงสุด
การเก็บรักษายา อะซีบูโทลอล
ยาอะซีบูโทลอลควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาอะซีบูโทลอลบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัยโปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งยาอะซีบูโทลอลลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้ยาอะซีบูโทลอล
ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์ทราบถ้าหาก
- คุณกำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร เนื่องจากในช่วงที่คุณตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำเท่านั้น
- หากคุณกำลังใช้ยาอื่นอยู่ รวมทั้งยาที่หาซื้อได้เอง เช่น สมุนไพรหรือยาทางเลือกอื่นๆ
- หากคุณแพ้สารออกฤทธิ์หรือไม่ออกฤทธิ์ในการรักษา ของยาอะซีบูโทลอลหรือยาอื่นๆ
- หากคุณมีอาการป่วย มีความผิดปกติ หรือมีสภาวะทางการแพทย์อื่นๆ
- หากคุณมีปัญหาสุขภาพเหล่านี้ คือ หัวใจล้มเหลว อัตราหัวใจเต้นผิดปกติหรือหัวใจเต้นช้า
อย่าหยุดใช้ยาอะซีบูโทลอลอย่างกะทันหัน หากคุณหยุดใช้ยากะทันหัน อาจทำให้มีอาการปวดหน้าอกอย่างรุนแรง และในบางกรณี อาจมีอาการหัวใจขาดเลือดฉับพลัน ความเสี่ยงที่จะเกิดอาการเหล่านี้อาจเพิ่มขึ้น หากคุณเป็นโรคหัวใจบางประเภท เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงเหล่านี้ คุณควรค่อยๆ หยุดยานี้ตามที่แพทย์กำหนด ติดต่อแพทย์ในทันที หากคุณมีอาการปวดหน้าอก หรือปัญหาอื่นเกี่ยวกับหัวใจ
หลีกเลี่ยงการขับรถ และทำกิจกรรมที่ต้องการความตื่นตัว จนกว่าคุณจะทราบว่า ยาอะซีบูโทลอลมีผลกระทบต่อคุณอย่างไร
เพื่อลดโอกาสในการเกิดอาการวิงเวียนหรือหมดสติ ควรค่อยๆ ใช้เวลาในการนั่งหรือนอนลง ควรระมัดระวังขณะเดินขึ้นบันได
ควรทำการตรวจสอบการทำงานของเลือดหากแพทย์สั่ง โปรดปรึกษากับแพทย์
ควรตรวจวัดระดับความดันโลหิต และอัตราการเต้นของหัวใจตามที่แพทย์สั่ง โปรดปรึกษากับแพทย์
โปรดปรึกษากับแพทย์ ก่อนจะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ยานี้อาจจะปิดบังสัญญาณของระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ โปรดปรึกษากับแพทย์
หากคุณมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงหรือเป็นโรคเบาหวาน ควรเฝ้าสังเกตระดับน้ำตาลในเลือดอย่างใกล้ชิด
หากคุณกำลังใช้ยานี้ และมีภาวะความดันโลหิตสูง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาที่หาซื้อได้เอง ที่อาจจะเพิ่มระดับความดันโลหิตได้ ได้แก่ ยาแก้ไข้หรือยาแก้หวัด ยาลดความอ้วน ยากระตุ้น ไอบูโพรเฟน (ibuprofen) หรือยาที่คล้ายกัน และผลิตภัณฑ์หรือยาจากธรรมชาติ
หากคุณมีอายุ 65 ปีขึ้นไป ควรใช้ยาอะซีบูโทลอลด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากอาจจะมีผลข้างเคียงได้มากกว่า
แจ้งให้แพทย์ทราบ หากคุณตั้งครรภ์หรือมีแผนที่จะตั้งครรภ์ ควรปรึกษากับแพทย์เกี่ยวกับประโยชน์และความเสี่ยงของการใช้ยานี้ขณะตั้งครรภ์
แจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณกำลังให้นมบุตร คุณจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ถึงความเสี่ยงต่อตัวบุตร
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ เกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์ เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
ยาอะซีบูโทลอลจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท B โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
- A= ไม่มีความเสี่ยง
- B= ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
- C= อาจจะมีความเสี่ยง
- D= มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
- X= ห้ามใช้
- N= ไม่ทราบแน่ชัด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงของการใช้ยาอะซีบูโทลอล
แจ้งให้แพทย์ทราบหรือรับการรักษาในทันทีหากคุณมีสัญญาณหรืออาการที่อาจมีความเกี่ยวข้องกับผลข้างเคียงที่รุนแรงมากดังต่อไปนี้
- สัญญาณของอาการแพ้ เช่น ผดผื่น ลมพิษ รอยแดง บวม แผลพุพอง หรือผิวลอกโดยมีหรือไม่มีไข้ หายใจมีเสียงหวีด แน่นหน้าอกหรือลำคอ หายใจติดขัดหรือมีปัญหากับการพูด เสียงแหบผิดปกติ หรือมีอาการบวมที่ปาก ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ
- สัญญาณของอาการตับมีปัญหา เช่น ปัสสาวะสีเข้ม รู้สึกเหนื่อย ไม่หิว ท้องไส้ปั่นป่วนหรือปวดกระเพาะ อุจจาระสีอ่อน อาเจียน ผิวหนังหรือดวงตาเป็นสีเหลือง
- วิงเวียนอย่างรุนแรงหรือหมดสติ
- หายใจไม่อิ่ม น้ำหนักขึ้นอย่างมาก หรือมีอาการบวมที่แขนหรือขา
- หัวใจเต้นช้า
- หัวใจเต้นผิดปกติ
- วิงเวียน
- ปวดหัว
- รู้สึกเหนื่อยหรืออ่อนแรง
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยากับยาอื่น
ยาอะซีบูโทลอลอาจเกิดอันตรกิริยากับยาอื่น ที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยา โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์
ยาอะซีบูโทลอลอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น
ยาอะซีบูโทลอลอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
ขนาดยา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาอะซีบูโทลอลสำหรับผู้ใหญ่
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาภาวะความดันโลหิตสูง (Hypertension)
ขนาดยาเริ่มต้น: 400 มก. แบ่งรับประทานวันละ 1 ถึง 2 ครั้ง
ขนาดยาปกติ: รับประทานวันละ 400 ถึง 800 มก. ต่อวัน
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาภาวะหัวใจห้องล่างเต้นผิดจังหวะ (Ventricular Arrhythmia)
ขนาดยาเริ่มต้น: 200 มก. รับประทานวันละสองครั้ง
ขนาดยาปกติ: รับประทานวันละ 600 ถึง 1200 มก. ต่อวัน
ขนาดยาอะซีบูโทลอลสำหรับเด็ก
ยังไม่มีการพิสูจน์ความความปลอดภัยและประสิทธิภาพของยานี้ สำหรับผู้ป่วยเด็ก ยานี้อาจเป็นอันตรายต่อเด็กได้ ดังนั้น จึงควรทำความเข้าใจกับความปลอดภัยของยา ก่อนการใช้ยา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดติดต่อกับแพทย์หรือเภสัชกร
รูปแบบของยา
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
- ยาเม็ด
กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
กรณีลืมใช้ยา
หากคุณลืมรับประทานยาควรรีบรับประทานทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลารับประทานยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปรับประทานยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]