ข้อบ่งใช้
ยาเทอร์บินาฟีนใช้สำหรับ
ยาเทอร์บินาฟีน (Terbinafine) มักจะใช้เพื่อรักษาการติดเชื้อราบางชนิดที่บริเวณนิ้วมือหรือนิ้วเท้า ยานี้ยังอาจใช้สำหรับสภาวะอื่นตามที่แพทย์กำหนด
ยาเทอร์บินาฟีนเป็นยาต้านเชื้อรา ยานี้ทำงานโดยการฆ่าเชื้อราที่มีปฏิกิริยาไวต่อยา
วิธีการใช้ยาเทอร์บินาฟีน
ใช้ยาเทอร์บินาฟีนตามที่แพทย์กำหนด ควรอ่านฉลากยาเพื่อรับทราบคำแนะนำการใช้ยาที่ถูกต้อง
วิธีการใช้ยาเม็ด สามารถรับประทานยาพร้อมกับอาหารหรือรับประทานแยกต่างหาก รับประทานยาในเวลาที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับโรคของคุณ คุณอาจจะยังไม่เห็นประโยชน์เต็มที่ของยาเป็นเวลาหลายเดือนหลังจากหยุดการรักษา รวมถึงเวลาที่ใช้สำหรับให้เล็บที่สุขภาพดียาวขึ้น
วิธีการใช้น้ำยาทาเล็บ ทายาก่อนนอน เว้นเสียแต่แพทย์จะสั่งให้ทำแบบอื่น ทำความสะอาดเล็บที่มีอาการและเช็ดให้แห้ง แล้วจึงทายาบางๆ
อย่าทาน้ำยาทาเล็บลงบนแผล หรือผิวหนังที่มีแผลหรือบาดเจ็บ
ใช้น้ำยาทาเล็บจนกว่าเล็บใหม่ที่สุขภาพที่จะยาวขึ้นมาเว้นเสียแต่ว่าแพทย์จะสั่งให้ทำแบบอื่น โดยปกติคือ 6 ถึง 12 เดือนขึ้นอยู่กับโรคของคุณ
เพื่อให้การติดเชื้อของคุณหายไปอย่างสมบูรณ์ ควรใช้ยาเทอร์บินาฟีนจนครบกำหนดการรักษา ควรใช้ยานี้ต่อไปแม้ว่าอาการของคุณจะดีขึ้นก่อนที่จะเสร็จสิ้นการรักษา
การเก็บรักษายาเทอร์บินาฟีน
ยาเทอร์บินาฟีนควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาเทอร์บินาฟีนบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัยโปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งยาเทอร์บินาฟีนลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูก สอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ข้อควรระวังและคำเตือน
ข้อควรรู้ก่อนใช้ยาเทอร์บินาฟีน
ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์ทราบหาก
- คุณกำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร เนื่องจากในช่วงที่คุณกำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรใช้ยาตามที่แพทย์แนะนำเท่านั้น
- หากคุณกำลังใช้ยาอื่นอยู่ รวมทั้งยาที่หาซื้อได้เอง เช่น สมุนไพรหรือยาทางเลือกอื่นๆ
- หากคุณแพ้สารออกฤทธิ์หรือไม่มีฤทธิ์ในการรักษาของยาเทอร์บินาฟีน หรือยาอื่นๆ
- หากคุณมีอาการป่วย มีความผิดปกติ หรือมีภาวะสุขภาพอื่นๆ
- หากคุณเคยมีปัญหาเกี่ยวกับไตหรือตับ โรคลูปัส (lupus) โรคซึมเศร้า (depression) โรคสะเก็ดเงิน (psoriasis) ใช้แอลกอฮอล์ในทางที่ิดหรือภาวะพึ่งพาแอลกอฮอล์ (dependence) หรือปัญหาเกี่ยวกับเลือด เช่น ภาวะโลหิตจาง (anemia)
- หากคุณมีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอหรือมีจำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาวต่ำ
- หากคุณมีอาการวิงเวียนขณะที่กำลังใช้ยาเทอร์บินาฟีน ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง อย่าขับรถหรือทำกิจกรรมที่อาจจะไม่ปลอดภัย
- หากคุณกำลังใช้ยาที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน หรือหากคุณรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในปริมาณมาก เช่น กาแฟ ชา โกโก้ โคล่า หรือช็อกโกแลต
ยาเทอร์บินาฟีนนั้นจะมีใช้เพื่อรักษาการติดเชื้อราเพียงเท่านั้น ยานี้จะไม่ได้ผลกับการติดเชื้อแบคทีเรียหรือการติดเชื้อไวรัส เช่น โรคหวัด
อย่าใช้ยามากกว่าขนาดที่แนะนำหรือใช้ยานอนกว่าที่กำหนดโดยไม่ปรึกษาแพทย์
ควรใช้ยาเทอร์บินาฟีนจนครบกำหนดการรักษา หากคุณใช้ยาไม่ครบกำหนดอาจทำให้ไม่สามารถกำจัดการติดเชื้อไปได้อย่างสมบูรณ์ เชื้อราอาจจะมีปฏิกิริยากับยานี้น้อยลง และทำให้รักษาการติดเชื้อนั้นได้ยากขึ้นในอนาคต
ผู้ป่วยที่ใช้ยาเทอร์บินาฟีนอาจจะเกิดปฏิกิริยาผิวหนังที่รุนแรงมาก เช่น กลุ่มอาการสตีเวนส์จอห์นสัน (Stevens-Johnson syndrome) หรือ โรคท็อกซิกอีพิเดอร์มัลเนโครไลซิส (toxic epidermal necrolysis) ที่มีทั้งอาการผื่นผิวหนัง โดยมีหรือไม่มีปัญหาเกี่ยวกับตับ ปอด ไต และ/หรือ หัวใจ ปฏิกิริยานี้สามารถทำให้เกิดปัญหาสุขภาพที่รุนแรงมากและอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้ ควรรับการรักษาในทันทีหากผิวของคุณมีอาการรอยแดง บวม แผลผุพอง หรือผิวลอก เป็นไข้ ตาแดงหรือระคายเคืองดวงตา มีแผลภายในปาก คอ จมูก หรือดวงตา หรือต่อมน้ำเหลืองบวม (โดยมีหรือไม่มีผลข้างเคียงที่ไม่ค่อยจะเกิดขึ้นอื่นๆ)
ยาเทอร์บินาฟีนอาจลดความสามารถของร่างกายในการต่อสู้กับการติดเชื้อ โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณมีสัญญาณของการติดเชื้อ เช่น เป็นไข้ เจ็บคอ หรือหนาวสั่น
โปรดแจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบว่าคุณกำลังใช้ยา เทอร์บินาฟีนก่อนรับการรักษาทราบการแพทย์ ทันตกรรม การรักษาพยาบาลฉุกเฉิน หรือการผ่าตัด
เคยมีรายงานแจ้งพบอาการการรับรสชาติเปลี่ยนแปลง เช่น สูญเสียการรับรส หรือการได้กลิ่นเปลี่ยนแปลง เช่น สูญเสียการได้กลิ่น ในผู้ป่วยที่ใช้ยาเทอร์บินาฟีน อาการเหล่านี้อาจจะหายไปหลังจากหยุดใช้ยาเทอร์บินาฟีน แต่อาการเหล่านี้อาจจะยังคงอยู่เป็นเวลานาน (มากกว่า 1 ปี) หรืออาจจะกลายเป็นอาการถาวรได้ โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบในทันทีหากคุณมีอาการการได้กลิ่นเปลี่ยนแปลง การรับรสเปลี่ยนแปลง เบื่ออาหาร น้ำหนักลดโดยที่ไม่ต้องการ วิตกกังวล อารมณ์เปลี่ยนแปลง เช่นมีอาการของโรคซึมเศร้า
ยาเทอร์บินาฟีนอาจจะทำให้คุณมีอาการแดดเผาได้ง่ายขึ้น ควรหลีกเลี่ยงแสงแดด หลอดไฟอัลตราไวโอเลต หรือตู้อบผิวแทน จนกว่าคุณจะทราบว่าคุณมีปฏิกิริยาต่อยาเทอร์บินาฟีนอย่างไร ทาครีมกันแดดหรือสวมเสื้อผ้าป้องกันหากคุณอยู่นอกบ้านเป็นเวลานาน
ในนานๆ ครั้ง ยาเทอร์บินาฟีนอาจจะทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับตับที่รุนแรงหรือถึงแก่ชีวิตได้ หากอาการนั้นเกิดขึ้น ผู้ป่วยที่กำลังมีปัญหาเกี่ยวกับตับหรือเคยเป็นโรคตับเรื้อรังมาก่อนแล้วอาจจะมีอาการรุนแรงมากกว่า โปรดสอบถามแพทย์สำหรับข้อสงสัยหรือข้อกังวลอื่นๆ เพิ่มเติม
น้ำยาทาเล็บนั้นสำหรับใช้ภายนอกเท่านั้น อย่าให้ยาเข้าในดวงตา จมูก หรือปาก หากน้ำยาเข้าในบริเวณเหล่านี้ควรรีบล้างออกด้วยน้ำเย็น
คุณสามารถทายาทาเล็บทับบริเวณที่ทาน้ำยาทาเล็บได้
ควรสวมถุงมือขณะที่กำลังใช้น้ำหรือสารเคมีเพื่อหลีกเลี่ยงการเผลอล้างน้ำยาทาเล็บออกไป ยกเว้นเสียแต่ว่าคุณจะล้างมือ ควรใส่สำลีไว้ในถุงมือด้วย
น้ำยาทาเล็บนั้นสามารถติดไฟได้ อย่าเก็บหรือใช้ยานี้ใกล้กับไฟหรือใช้ขณะสูบบุหรี่
คุณอาจต้องทำการตรวจในห้องทดลอง รวมถึงการทดสอบสมรรถภาพตับและการตรวจความสมบูร์ของเม็ดเลือดขณะที่กำลังใช้ยาเทอร์บินาฟีน ผลการตรวจเหล่านี้อาจใช้เพื่อเฝ้าระวังสภาวะของคุณหรือเพื่อตรวจหาผลข้างเคียง ควรไปตามนัดของแพทย์และห้องทดลองทุกครั้ง
ควรใช้ยาเทอร์บินาฟีนด้วยความระมัดระวังอย่างมากเมื่อใช้ยานี้กับเด็ก ยังไม่มีการยืนยันความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการใช้ยากับเด็ก
ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยา
ยาเทอร์บินาฟีนจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท B โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
- A= ไม่มีความเสี่ยง
- B= ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
- C= อาจจะมีความเสี่ยง
- D= มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
- X= ห้ามใช้
- N= ไม่ทราบแน่ชัด
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงของการใช้ยาเทอร์บินาฟีน
ยาทุกชนิดนั้นอาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียง แต่คนจำนวนมากนั้นอาจจะไม่มีผลข้างเคียงหรือมีผลข้างเคียงระดับเบา โปรดติดต่อแพทย์หากผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปเหล่านี้ไม่หายไปหรือรบกวนคุณ
- ท้องร่วง
- มีแก๊ส
- ปวดหัว
- อาหารไม่ย่อย
- ปวดท้องระดับเบา
- คลื่นไส้
ควรรับการรักษาในทันทีหากมีผลข้างเคียงที่รุนแรงเหล่านี้
- อาการแพ้ที่รุนแรง (ผดผื่น ลมพิษ อาการคัน หายใจติดขัด แน่นหน้าอก อาการบวมที่ปาก ใบหน้า ริมฝีปาก หรือลิ้น เสียงแหบผิดปกติ)
- แสบร้อน ชา หรือเป็นเหน็บ
- มีความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์หรือจิตใจ (เช่น ซึมเศร้า ร้อนรน เศร้า รู้สึกไร้ค่า)
- อาการของโรคลูปัส (lupus) อาการใหม่หรืออาการแย่ลง (เช่น ผดผื่นรูปผีเสื้อที่ใบหน้า ปวดข้อ ชัก สีผิวเปลี่ยน มีปฏิกิริยาไวต่อแสงแดดผิดปกติ)
- ผิวซีดหรือเนื้อใต้เล็บซีด
- มีอาการปวดหรืออาการกดเจ็บที่กล้ามเนื้อหรือข้อต่ออย่างรุนแรง
- ปวดท้องอย่างรุนแรงหรือบ่อยครั้ง (โดยมีหรือไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน)
- ปัญหาเกี่ยวกับการนอน
- อาการของปัญหาเกี่ยวกับตับ (เช่น ปัสสาวะสีคล้ำ เบื่ออาหาร อุจจาระสีซีด คลื่นไส้อาเจียนอย่างหาสาเหตุไม่ได้หรือบ่อยครั้ง ดวงตาหรือผิวหนังเป็นสีเหลือง
- มีรอยช้ำหรือเลือดออกผิดปกติ
- เหนื่อยล้าหรืออ่อนแรงผิดปกติ
- การมองเห็นหรือการได้ยินเปลี่ยนแปลง
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้อาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ปฏิกิริยาของยา
ปฏิกิริยากับยาอื่น
ยาเทอร์บินาฟีนอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ยาที่อาจจะมีปฏิกิริยากับยานี้ได้แก่
- อะมิโอดาโรน (Amiodarone) ไซเมธิดีน (cimetidine) ฟลูโคนาโซล (fluconazole) หรือคีโตโคนาโซล (ketoconazole) เนื่องจากยาเหล่านี้อาจจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงของยาเทอร์บินาฟีน
- ยาไรแฟมพิน (Rifampin) เนื่องจากยาเหล่านี้อาจจะลดประสิทธิภาพของยาเทอร์บินาฟีน
- ยารักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Antiarrhythmics) เช่นยาฟลีเคไนด์ (flecainide) หรือยาโพรพาฟีโนน (propafenone) ยาในกลุ่มเบต้าบล็อกเกอร์ (beta-blockers) เช่นเมโธโพรลอล (metoprolol) ยาเดกซ์โทรเมทอร์แฟน (dextromethorphan) ยาต้านซึมเศร้ากลุ่มเอ็มเอโอไอ (monoamine oxidase inhibitors) เช่น ยาเซเลจิลีน (selegiline) ยาต้านซึมเศร้ากลุ่มเอสเอสอาร์ไอ (selective serotonin reuptake inhibitors) เช่น ฟลูออกเซทีน (fluoxetine) หรือยาต้านซึกเศร้ากลุ่มไตรไซคลิก (tricyclic antidepressants) เช่น อะมิทริปไทลีน (amitriptyline) หรือเดซิพรามีน (desipramine) เนื่องจากความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงของยาเหล่านี้อาจจะเพิ่มขึ้นเพราะยาเทอร์บินาฟีน
- ยาต้านการแข็งตัวของเลือด (Anticoagulants) เช่น วาฟาริน (warfarin) เนื่องจากประสิทธิภาพของยาเหล่านี้อาจจะลดลงหรือความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงอาจจะเพิ่มขึ้นเพราะยาเทอร์บินาฟีน
- ยาไซโคลสปอริน (Cyclosporine) หรือ ยาทาม็อกซิเฟน (tamoxifen) เนื่องจากประสิทธิภาพของยาเหล่านี้อาจจะลดลงเนื่องจากยาเทอร์บินาฟีน
ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์
ยาเทอร์บินาฟีนอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น
ยาเทอร์บินาฟีนอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ
ขนาดยา
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาเทอร์บินาฟีนสำหรับผู้ใหญ่
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาการติดเชื้อราที่เล็บ (Onychomycosis) – เล็บมือ
ยาเม็ด 250 มก. รับประทานวันละครั้ง
ระยะเวลาการรักษา
การติดเชื้อราที่เล็บมือ 6 สัปดาห์
การติดเชื้อราที่เล็บเท้า 12 สัปดาห์
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาการติดเชื้อราที่เล็บ – เล็บเท้า
ยาเม็ด 250 มก. รับประทานวันละครั้ง
ระยะเวลาการรักษา
การติดเชื้อราที่เล็บมือ 6 สัปดาห์
การติดเชื้อราที่เล็บเท้า 12 สัปดาห์
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคกลากที่ศีรษะ (Tinea Capitis)
ยาเม็ดสำหรับรับประทาน 250 มก. รับประทานวันละครั้ง เป็นเวลา 6 สัปดาห์
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคกลากที่ลำตัว (Tinea Corporis)
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญบางท่าน ยาเม็ด 250 มก. รับประทานวันละครั้ง เป็นเวลา 2 ถึง 4 สัปดาห์
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคสังคัง
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญบางท่าน ยาเม็ด 250 มก. รับประทานวันละครั้ง เป็นเวลา 2 ถึง 4 สัปดาห์
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคน้ำกัดเท้า
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญบางท่าน ยาเม็ด 250 มก. รับประทานวันละครั้ง เป็นเวลา 2 ถึง 6 สัปดาห์
ขนาดยาเทอร์บินาฟีนสำหรับเด็ก
ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคกลากที่ศีรษะ
อายุ 4 ปีขึ้นไป
ยาเม็ดสำหรับรับประทาน
น้ำหนักน้อยกว่า 25 กก. 125 มก. รับประทานวันละครั้ง
น้ำหนัก 25 ถึง 35 กก. 187.5 มก. รับประทานวันละครั้ง
น้ำหนักมากกว่า 35 กก. 250 มก. รับประทานวันละครั้ง
ระยะเวลาการรักษา 6 สัปดาห์
รูปแบบของยา
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
- ยาเม็ด
กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
กรณีลืมใช้ยา
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]