ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ
เมไธโอนีน (Methionine) หรือวิตามินยู (Vitamin U) เป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่ง ที่ร่างกายใช้เพื่อช่วยเสริมสร้างโปรตีนที่ทำหน้าที่ในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของเนื้อเยื่อและอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย
เมไธโอนีน (Methionine) หรือวิตามินยู (Vitamin U) เป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่ง ที่ร่างกายใช้เพื่อช่วยเสริมสร้างโปรตีนที่ทำหน้าที่ในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของเนื้อเยื่อและอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างโมเลกุลต่าง ๆ ที่มีความจำเป็นต่อการทำงานของเซลล์ในร่างกายอีกด้วย
เมไธโอนีนนั้นสามารถพบได้ในเนื้อสัตว์ ปลา และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมต่าง ๆ หรืออาจจะรับประทานในรูปแบบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย อีกทั้งยังอาจช่วยในการรักษาสภาวะความผิดปกติของตับจากการกินยาพาราเซตามอลเกินขนาด และการติดเชื้อไวรัสได้อีกด้วย
สำหรับภาวะอะเซตามีโนเฟนเป็นพิษ (Acetaminophen poisoning) เนื่องจากการกินยาพาราเซตามอลเกินขนาด เมไธโอนีนนั้นจะช่วยป้องกันไม่ให้สารที่เกิดขึ้นจากการย่อยสลายของยาพาราเซตามอลไปทำลายตับ นอกจากนี้ เมไธโอนีนก็ยังทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยป้องกันไม่ให้เนื้อเยื่อเกิดความเสียหายได้อีกด้วย
ปรึกษาแพทย์หรึอเภสัชกร หาก
การรักษาโรคโดยใช้เมไธโอนีนควรกระทำโดยแพทย์เท่านั้น การรับประทานหรือฉีดเมไธโอนีนเข้าสู่ร่างกายเพื่อรักษาโรคอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้
กฎระเบียบสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่ายารักษาโรค คุณจึงควรศึกษาข้อมูลให้มากเพื่อความปลอดภัยในการใช้ และการบริโภคอาหารเสริมเมไธโอนีน ควรมีคุณประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
การตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เมไธโอนีนนั้นจะปลอดภัยหากได้รับในปริมาณที่พบได้ในอาหาร แต่ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดเกี่ยวกับการบริโภคเมไธโอนีนในปริมาณสูง เพื่อความปลอดภัย ควรหลีกเลี่ยงการใช้
เด็ก เมไธโอนีนนั้นจะปลอดภัยหากได้รับในปริมาณที่พบได้ในอาหาร และอาจจะปลอดภัยหากฉีดเข้าสู่ร่างกาย ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แต่เมไธโอนีนนั้นอาจจะไม่ปลอดภัยต่อทารกที่รับอาหารผ่านทางสายยางให้อาหาร
ผู้ที่มีภาวะเลือดเป็นกรด ควรหลีกเลี่ยงการใช้เมไธโอนีน เนื่องจากเมไธโอนีนอาจสามารถทำให้เลือดเป็นกรดได้เช่นกัน
ภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) ผู้ที่มีภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง ควรหลีกเลี่ยงการใช้เมไธโอนีน เนื่องจากมีข้อกังวลว่าเมไธโอนีนอาจทำให้สภาวะนี้รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ได้รับโฟเลต วิตามินบี 12 หรือวิตามินบี 6 ไม่เพียงพอ
โรคตับ เมไธโอนีนอาจทำให้โรคตับมีอาการรุนแรงขึ้น
ภาวะขาดเอนไซม์เมทิลินเททระไฮโดรโฟเลตรีดักเทส (Methylenetetrahydrofolate reductase deficiency) ผู้ที่มีภาวะนี้ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเสริมเมไธโอนีน เนื่องจากอาจทำให้สารโฮโมซิสทีน (Homocysteine) เกิดการสะสมมากขึ้นในร่างกาย และทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
โรคจิตเภท การรับประทานเมไธโอนีนในปริมาณมาก อาจส่งผลให้อาการของโรคจิตเภทรุนแรงขึ้น
เมไธโอนีนนั้นค่อนข้างที่จะปลอดภัย หากได้รับในปริมาณเท่าที่พบได้ในอาหาร และอาจจะปลอดภัย หากรับประทานหรือฉีดเป็นยา ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
บางคนที่ได้รับเมไธโอนีน อาจจะมีผลข้างเคียงดังต่อไปนี้
อย่างไรก็ตาม ผลข้างเคียงที่กล่าวมาข้างต้น อาจไม่ได้เกิดกับทุกคน หรือบางคนอาจมีผลข้างเคียงอื่นนอกเหนือจากนี้ หากคุณมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
เมไธโอนีนอาจทำปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ และอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงรุนแรง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรด้วยว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็นยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง สมุนไพร
เพื่อความปลอดภัย คุณไม่ควรเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาเองโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
สำหรับภาวะอะเซตามีโนเฟนเป็นพิษ
ปริมาณในการใช้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับอายุ สุขภาพและปัจจัยอื่น ๆ การใช้เมไธโอนีนอาจไม่ได้มีความปลอดภัยเสมอ จึงควรปรึกษาเรื่องปริมาณที่เหมาะสม และวิธีการใช้งานอย่างปลอดภัยจากแพทย์หรือเภสัชกรเสมอ
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย
ทีม Hello คุณหมอ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย