backup og meta

สมอง มีหน้าที่อะไร และวิธีดูแลสมองทำได้อย่างไรความสำคัญ

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย Duangkamon Junnet


เขียนโดย ธนชาติ จึงแย้มปิ่น · แก้ไขล่าสุด 29/11/2022

    สมอง มีหน้าที่อะไร และวิธีดูแลสมองทำได้อย่างไรความสำคัญ

    สมอง เป็นอวัยวะสำคัญอย่างหนึ่งของร่างกาย มีหน้าที่รับสัมผัสทั้ง 5 คิดวิเคราะห์ ทำให้ร่างกายเคลื่อนไหว และควบคุมให้ระบบอวัยวะต่าง ๆ ทำงานได้อย่างถูกต้อง ทั้งนี้ หากไม่ดูแลสุขภาพให้ดี สมองอาจเสื่อมสมรรถภาพ ป่วย หรือติดเชื้อ จนเกิดอาการผิดปกติต่าง ๆ ได้ ดังนั้น เพื่อรักษาสุขภาพของสมองให้ดีและแข็งแรงอยู่เสมอ ควรออกกำลังกายเป็นประจำ และหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่หรือการสูดดมควันของบุหรี่

    สมองคืออะไร

    สมองเป็นอวัยวะสำคัญของมนุษย์ อยู่ข้างในกะโหลกศีรษะ มีลักษณะเป็นก้อนสีชมพูหรือแดงซึ่งเต็มไปด้วยรอยหยัก มีน้ำหนักประมาณ 1.3 กิโลกรัม โดยสมองของผู้ชายจะหนักกว่าของผู้หญิงเล็กน้อย

    สมอง ประกอบด้วยไขมัน 60 เปอร์เซ็นต์ และส่วนประกอบอื่น ๆ อีก 40 เปอร์เซ็นต์ เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต น้ำ เซลล์ประสาท หลอดเลือด

    ทั้งนี้ สมองสามารถแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ ดังนี้

    • ซีรีบรัม (Cerebrum) เป็นส่วนของสมองที่มีขนาดใหญ่ที่สุด อยู่บริเวณครึ่งบนของกะโหลกศีรษะ คิดเป็น 80 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่สมองทั้งหมด หน้าที่ของซีรีบรัมสัมพันธ์กับสัมผัสทั้ง 5 ของมนุษย์ รวมถึงการพูด การคิด และการใช้เหตุผล
    • ซีรีเบลลัม (Cerebellum) เป็นส่วนเล็ก ๆ ด้านหลังสมอง มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการทรงตัว และการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อและอวัยวะต่าง ๆ
    • ก้านสมอง (Brain Stem) เป็นส่วนที่เชื่อมต่อซีรีบรัมกับไขสันหลัง ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของร่างกายที่เจ้าของร่างกายไม่อาจควบคุมได้ เช่น การเต้นของหัวใจ การหายใจ การหลับและการตื่น การกลืนอาหาร

    สมอง มีหน้าที่อะไร

    สมองของมนุษย์ มีหน้าที่หลายประการ ดังนี้

    • รับสัมผัสทั้ง 5 จากอวัยวะต่าง ๆ ซึ่งทำให้มนุษย์รับรู้ถึงสิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้
    • ทำให้มนุษย์มีอารมณ์ความรู้สึก
    • จดจำสิ่งต่าง ๆ และเก็บความทรงจำตลอดชีวิต
    • คิดและตัดสินใจ
    • สร้างความเครียดหรือความกลัว ซึ่งส่งผลต่อการตัดสินใจว่าจะเผชิญหน้ากับปัญหาหรืออันตรายหรือจะเลือกวิ่งหนีจากอุปสรรคนั้น ๆ
    • ทำให้มนุษย์เคลื่อนไหวได้
    • ควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
    • รักษาสมดุลของร่างกายขณะทำกิจกรรมต่าง ๆ
    • ช่วยให้ระบบอวัยวะต่าง ๆ ทำงานได้เป็นปกติ

    ปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เกี่ยวกับ สมอง

    ปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวกับสมอง ซึ่งสามารถพบได้ทั่วไป มีดังนี้

    • โรคหลอดเลือดสมองหรือสโตรก (Stroke) เกิดจากการที่เลือดไม่สามารถไปหล่อเลี้ยงเนื้อเยื่อสมองได้ เนื่องจากหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน ส่งผลให้ผู้ป่วยมีปัญหาเกี่ยวกับการพูดหรือการรับรู้ หรือเป็นอัมพาตบริเวณใบหน้า แขน หรือขา
    • โรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง (Cerebral Aneurysm) เกิดจากการเสื่อมสภาพของผนังหลอดเลือด ทำให้ผนังหลอดเลือดบางบริเวณบางลงกว่าบริเวณอื่น เมื่อมีความดันหรือเลือดไหลผ่านจึงทำให้ผนังหลอดเลือดที่บางนั้นโป่งพองขึ้นคล้ายบอลลูน และอาจแตกออกได้ในเวลาต่อมา
    • โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s Disease) เป็นโรคที่พบในผู้สูงอายุมากที่สุด เกิดจากความเสื่อมถอยของการทำงานหรือโครงสร้างของเนื้อเยื่อสมอง ส่งผลให้ผู้ป่วยสูญเสียความทรงจำและความสามารถในการใช้ชีวิตประจำวันในแง่มุมต่าง ๆ เช่น การทำงานบ้าน การใช้จ่าย การคิด การตัดสินใจ
    • โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis) เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้ในทุกช่วงวัย มีสาเหตุมากจากการติดเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อรา บริเวณเยื่อหุ้มรอบสมองและไขสันหลัง ผู้ป่วยเยื่อหุ้มสมองอักเสบ มักปวดศีรษะ คอแข็ง และเป็นไข้ บางรายอาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นทุพพลภาพหรือเสียชีวิตได้
    • โรคลมชัก (Epilepsy) เป็นการส่งคลื่นไฟฟ้าอย่างผิดปกติจากเซลล์สมองไปยังสมองส่วนต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดอาการชัก เช่น ร่างกายเกร็ง-กระตุก หมดสติ หายใจไม่ออก โดยในบางกรณีอาการชักอาจเกิดขึ้นติดกัน 2 ครั้ง และต้องไปพบคุณหมอทันทีเพื่อเข้ารับการรักษา
    • โรคซึมเศร้า (Depression) เป็นโรคทางจิตเวชที่พบมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของสมอง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของสารสื่อประสาทในสมอง โดยทั่วไป เมื่อเป็นโรคนี้ ผู้ป่วยมักมีอาการเศร้าสร้อย เหนื่อยหน่าย หมดหวัง อยากฆ่าตัวตาย รวมทั้งมีอาการปวดศีรษะหรือหลังร่วมด้วย

    การดูแลและบำรุงรักษาสุขภาพ สมอง

    เพื่อให้สมองสุขภาพดี และเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ น้อยลง ควรดูแลสุขภาพของสมองตามคำแนะนำต่อไปนี้

    • ป้องกันสมองบาดเจ็บหรือกระทบกระเทือนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ด้วยการสวมหมวกกันน็อคเมื่อขี่จักรยานหรือมอเตอร์ไซค์ หรือรัดเข็มขัดนิรภัยเมื่อใช้รถยนต์
    • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นระบบไหลเวียนของเลือดไปยังสมองอย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อบรรเทาความเครียด หรือทำให้อารมณ์ดีขึ้น
    • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เพราะสารนิโคติน (Nicotine) มีฤทธิ์ทำให้หลอดเลือดแคบลง ซึ่งมีผลให้เลือดไหลไปหล่อเลี้ยงสมองได้ไม่สะดวก จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองมากขึ้น
    • ทำความเข้าใจความคิดหรือความรู้สึกของตัวเองบ่อย ๆ เพื่อให้ตระหนักถึงสภาพจิตของตัวเอง โดยสภาพจิตที่แย่ลงอาจมีสาเหตุจากโรคทางจิตเวช
    • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้สมองและร่างกายพักจากความเหนื่อยล้า

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    Duangkamon Junnet


    เขียนโดย ธนชาติ จึงแย้มปิ่น · แก้ไขล่าสุด 29/11/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา