ศาสตร์แห่งการนวด การบำบัด มักมีหลายประเภทด้วยกัน ทั้งในแบบวิถีพื้นบ้าน หรือการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาช่วย เช่น การนวดแผนโบราณ ทรายบำบัด ไครโอเทอราพี รวมถึงวิธีการใช้ หินร้อนบำบัด นี้ด้วย ที่บทความของ Hello คุณหมอ ขอนำมาเป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง ให้ทุกคนได้พิจารณา และอาจได้ลองใช้บริการมาฝากกันค่ะ
ทำความรู้จักกับ การบำบัดด้วยหินร้อน กันเถอะ
จุดเด่นของเทคนิคนี้นั้นคงจะไม่พ้นตามชื่ออันอย่างตรงตัวนั่นก็คือ หินร้อนบำบัด (Hot Stone Massage) ที่มีเอกลักษณ์ในการนำ หินภูเขาไฟ หรือ หินบะซอลต์ (Basalt) เข้าไปผ่านอุณหภูมิความร้อนจากเตาอบ ถึง 110 – 145 องศา ซึ่งเหตุผลที่เลือกเป็นหินประเภทนี้ เพราะ หินภูเขาไฟ หรือ หินบะซอลต์ เป็นหินที่คงความเก็บความร้อนไว้ในตัวได้นานกว่าหินชนิดอื่น ๆ และค่อนข้างมีผิวเรียบ เหมาะแก่การนำมาวางไว้บนร่างกายตามจุดต่าง ๆ ของผู้ใช้บริการ
หลังจากการนำไปผ่านความร้อนแล้ว คงจำเป็นจะต้องแช่ไว้ในน้ำอุ่น หรือน้ำธรรมดาอีกรอบ เพื่อให้คลายความร้อนลง มิเช่นนั้นอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อผิวหนังตามมาได้ โดยตำแหน่งที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการบำบัดจะวาง มักเป็นในส่วนของบริเวณ ตามแนวกระดูกสันหลังเรียงยาว หน้าท้อง มือ เท้า หน้าอก และใบหน้า
บางจุดนั้นอาจมีการเพิ่มความผ่อนคลายด้วยการจับ หินภูเขาไฟ นวดวน ๆ เป็นวงกลม หรืออาจนำมากดจุดคลายเส้นกล้ามเนื้อที่ตึงร่วม ขึ้นอยู่ตามแต่ละอาการ ปัญหาทางด้านสุขภาพของผู้ใช้บริการ และการวิเคราะห์ตามขั้นตอนของนักบำบัด
ประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้ หินร้อนบำบัด
การบำบัดด้วยหินร้อน อาจเสริมสร้างประโยชน์ทางด้านสุขภาพคุณทั้งด้านร่างกาย และด้านจิตใจได้มิใช่น้อย ดังนี้
- ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ตึงเครียด
การบรรเทาอาการปวดเมื่อยที่ดีมักคู่กับการนวดบำบัดอยู่เสมอ เพราะการนวดผสมกับการใช้ความร้อนสามารถทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตของคุณกลับมาทำงานได้สะดวก พร้อมทั้งยังอาจลดอาการกระตุก การหดเกร็งของกล้ามเนื้อ และเพิ่มความหยืดหยุ่นของการเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับช่วงข้อต่อได้มากขึ้นอีกด้วย
- ส่งเสริมการนอนหลับ
จากการทบทวนงานวิจัยปีพ.ศ. 2549 พบว่า การนวดอาจเป็นยารักษาชั้นดีสำหรับวัยผู้ใหญ่จนอาจไปถึงผู้สูงอายุ เนื่องจากการนวดเป็นการสร้างความผ่อนคลาย ที่สามารถเชื่อมต่อไปสู่การนอนหลับพักผ่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ลดภาวะโรคไฟโบรมัยอัลเจีย
หินร้อนบำบัดอาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดเกี่ยวกับโรคไฟโบรมัยอัลเจีย (Fibromyalgia) ที่ก่อให้เกิดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อเรื้อรังได้ จากการศึกษาในปีพ.ศ. 2545 ผู้ที่ประสบกับโรคดังกล่าว ได้เข้ารับการนวดบำบัดเป็นเวลา 30 นาที พบว่าการนวดด้วยหินร้อน หรือความร้อน มีส่วนช่วยในการลดระดับของสารซับสแทนซ์พี (Substance P) ที่เป็นสารเคมีสื่อถึงความเจ็บปวดลง
ซึ่งเชื่อมโยงไปยังการบรรเทาอาการของโรคไฟโบรมัยอัลเจีย แต่ถึงอย่างไรคงจำเป็นต้องการวิจัย และพิสูจน์เพิ่มเติมอย่างละเอียดต่อไป เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ในการรักษาที่สมบูรณ์แบบกว่าเดิม
- ลดความวิตกกังวล และปรุบปรุงสุขภาพจิต
สมาคมการนวดของอเมริกัน (American Massage Therapy Association; AMTA) กล่าวว่าการนวดส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพที่เข้าไปปรับปรุงสุขภาพจิตใจให้ดีขึ้น โดยการช่วยในเรื่องของลดความเครียด ลดความวิตกกังวลจากเรื่องต่าง ๆ
อีกทั้งยังมีการวิจัยชิ้นหนึ่งที่สนับสนุนคามคิดของพวกเขา และได้ทำการทดสอบในปีพ.ศ. 2544 จากการนวด 10 นาที พบว่า การนวดสามารถทำให้ระบบของหลอดเลือด ตอบสนองได้ดีต่อสุขภาพหัวใจ ช่วยบรรเทาความเครียดลง และเพิ่มการผ่อนคลายขึ้นมาทดแทน
หินร้อนบำบัด ไม่เหมาะสำหรับใคร
ถึงแม้การบำบัดด้วยหินร้อนอาจจะดูเป็นสิ่งที่ดูค่อนข้างเหมาะสมกับทุกบุคคล แต่ยังคงมีข้อจำกัดเล็กน้อยสำหรับผู้ที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพ ดังนี้ เพราะอาจทำให้เกิดความเสี่ยง และผลข้างเคียงที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ตามมาในภายหลัง
- โรคเบาหวาน
- มีประวัติเกี่ยวกับเส้นเลือดอุดตัน
- พึ่งผ่านการได้รับการผ่าตัดมาในช่วง 6 สัปดาห์
- โรคกระดูกพรุน หรือกระดูกแตกหัก
- ภาวะเกล็ดเลือดต่ำ
- มีแผลสด แผลไหม้บนผิวหนัง
- ผู้ที่มีการใช้ยาเกี่ยวกับการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
- สตรีตั้งครรภ์
หากคุณมีความประสงค์ในการขอเข้าร่วมการบำบัดด้วยหินร้อน ควรได้รับการตรวจสุขภาพ หรือได้รับการอนุญาตจากแพทย์เสียก่อนเท่านั้น เพราะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอาจให้คำแนะนำในการบำบัดด้วยเทคนิคอื่น ๆ ที่เหมาะสำหรับปัญหาอาการปวดเมื่อยที่คุณกำลังเผชิญได้เสียมากกว่า
[embed-health-tool-bmi]