การใช้ประโยชน์
กาแฟดิบ ใช้สำหรับ
กาแฟดิบ (Green Coffee) เป็นที่นิยมในการใช้เพื่อช่วยลดน้ำหนัก หลังจากที่ถูกกล่าวถึงในรายการ the Dr. Oz show ในปี 2012 กาแฟดิบจึงเริ่มเป็นที่กล่าวถึง และมักรับประทานกาแฟดิบเพื่อรักษาโรคอ้วน โรคเบาหวาน ความดันสูง โรคอัลไซเมอร์ และการติดเชื้อแบคทีเรีย
สรรพคุณของกาแฟดิบ
เป็นที่ทราบกันว่า กรดคลอโรจีนิกในกาแฟดิบนั้นอาจมีผลต่อเส้นเลือด และทำให้ความดันลดลง ดังนั้นนอกจากการใช้เพื่อลดน้ำหนัก กรดคลอโรจีนิกในกาแฟดิบก็ยังมีสรรพคุณต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและการเผาผลาญของร่างกาย
อย่างไรก็ตาม ยังมีการศึกษาไม่เพียงพอเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพรชนิดนี้ว่ามีการทำงานอย่างไร ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือขอคำแนะนำจากแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
ข้อควรระวังและคำเตือน
ควรรู้อะไรก่อนที่จะใช้ กาแฟดิบ
ควรปรึกษากับแพทย์ เภสัชกร หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร ถ้า:
- ตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร เนื่องจากในขณะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ควรใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์เท่านั้น
- ใช้ยาอื่นร่วมอยู่ รวมถึงยาที่กำลังใช้ที่สามารถหาซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งยา
- มีอาการภูมิแพ้สารใด ๆ ในกาแฟดิบหรือยาอื่น ๆ หรือสมุนไพรอื่น ๆ
- มีโรค ความผิดปกติ หรือพยาธิสภาพอื่น ๆ
- มีอาการแพ้อื่น ๆ เช่น แพ้อาหาร สีย้อมอาหาร สารกันบูด หรือเนื้อสัตว์
ข้อบังคับสำหรับอาหารเสริมประเภทสมุนไพรนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าข้อบังคับของการใช้ยา จึงจำเป็นที่จะต้องศึกษาให้มากเพื่อความปลอดภัยในการใช้ คุณประโยชน์ของการรับประทานอาหารเสริมประเภทสมุนไพรนี้ต้องมีค่าน้ำหนักมากกว่าความเสี่ยงก่อนการใช้ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์
กาแฟดิบมีความปลอดภัยเพียงใด:
กาแฟดิบนั้นโดยทั่วไปถือว่ามีความปลอดภัยหากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม เพราะจากการทดลองรับประทานสารสกัดจากกาแฟดิบ 480 มิลลิกรัมต่อวันเป็นเวลา 12 สัปดาห์
มีผลการทดลองออกมาว่าการรับประทานสารสกัดจากกาแฟดิบในปริมาณ 200 มิลลิกรัม 5 ครั้งต่อวันเป็นเวลา 12 สัปดาห์นั้นปลอดภัยต่อสุขภาพ
ข้อควรระวังและคำเตือนพิเศษ
สำหรับผู้ตั้งครรภ์และอยู่ในระหว่างการให้นมบุตร: ยังมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือเรื่องความปลอดภัยในการใช้กาแฟดิบในผู้ตั้งครรภ์และอยู่ในระหว่างการให้นมบุตรไม่เพียงพอ ควรคำนึงถึงความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการนำมาใช้
สาร Homocysteine มากผิดปกติ: การบริโภคกรด Chlorogenic ในปริมาณมากเป็นระยะสั้นๆอาจทำให้ระดับ plasma homocysteine เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับโรคบางอย่าง เช่น โรคหัวใจ
โรควิตกกังวล: คาเฟอีนในกาแฟดิบอาจทำให้โรควิตกกังวลแย่ลง
ภาวะเลือดออกผิดปกติ: คาเฟอีนในกาแฟดิบอาจทำให้อาการของภาวะเลือดออกผิดปกติแย่ลง
โรคเบาหวาน: งานวิจัยบางงานชี้ว่า คาเฟอีนในกาแฟดิบอาจเปลี่ยนกระบวนการจัดการน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวาน มีรายงานว่าคาเฟอีนมีผลต่อการเพิ่มและลดระดับน้ำตาลในเลือด ใช้คาเฟอีนอย่าระมัดระวังหากท่านเป็นเบาหวานและตรวจสอบระดับน้ำตาลในเลือดอย่างระมัดระวัง
โรคท้องเสีย: ในกาแฟดิบมีคาเฟอีน ซึ่งการรับประทานในปริมาณมากๆ อาจทำให้ท้องเสียหนักขึ้นได้
โรคต้อหิน: การรับประทานคาเฟอีนที่มีในกาแฟดิบ อาจเพิ่มความดันภายในดวงตา ระดับจะเพิ่มขึ้นภายใน 30 นาที และจะคงอยู่อย่างน้อย 90 นาที
ความดันสูง: การรับประทานคาเฟอีนที่มีในกาแฟดิบ อาจเพิ่มความดันโลหิตในผู้ที่เป็นความดันสูง อย่างไรก็ตาม ฤทธิ์ของมันอาจน้อยลงในผู้ที่ได้รับคาเฟอีนจากกาแฟ หรือแหล่งอื่นๆเป็นประจำ
คอเลสเตอรอลสูง: ส่วนประกอบบางประการของกาแฟที่ไม่ได้ผ่านการกรองชี้ว่ามันเพิ่มระดับคอเลสเตอรอล ส่วนประกอบเหล่านี้ก็สามารถพบได้ในกาแฟดิบเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ากาแฟดิบจะไปเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลเช่นกัน
ลำไส้แปรปรวน: กาแฟดิบมีคาเฟอีน ซึ่งการรับประทานในปริมาณมากๆ อาจทำให้ท้องเสียหนักขึ้น และอาจทำให้อาการลำไส้แปรปรวนหนักขึ้นได้
โรคกระดูกพรุน: คาเฟอีนจากกาแฟดิบและแหล่งอื่นๆ จะเพิ่มปริมาณแคลเซียมที่ถูกกำจัดออกทางปัสสาวะ ซึ่งอาจทำให้กระดูกบางลง หากท่านเป็นโรคกระดูกพรุน จำกัดปริมาณการบริโภคคาเฟอีน ให้น้อยกว่า 30 มิลลิกรัมต่อวัน (ประมาณ 2-3 ถ้วยปกติต่อวัน) การรับประทานแคลเซียมเสริมอาหารอาจช่วยทดแทนแคลเซียมที่เสียไปได้ สตรีวัยหลังมีประจำเดือนผู้มีโรคทางกรรมพันธุ์ ที่ร่างกายไม่สามารถจัดการวิตามินดีแบบปกติได้ ควรระวังการใช้คาเฟอีนให้มาก
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้กาแฟดิบ
กาแฟดิบให้ผลข้างเคียงคล้ายกับผลข้างเคียงจากคาเฟอีนที่มีอยู่ในกาแฟทั่วไป ได้แก่ อาการนอนไม่หลับ ประหม่า พักผ่อนไม่เพียงพอ ท้องไส้ปั่นป่วน คลื่นไส้และอาเจียน เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและการหายใจ และผลข้างเคียงอื่นๆ การบริโภคกาแฟในปริมาณมากอาจทำให้ปวดหัว วิตกกังวล กระสับกระส่าย มีเสียงอื้อในหู และหัวใจเต้นไม่ปกติ
ผลข้างเคียงเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน และอาจจะมีอาการของผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่ไม่ได้กล่าวไว้ข้างต้นหากกังวลเรื่องผลข้างเคียง ให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์
ปฏิกิริยาระหว่างยา
ปฏิกิริยาระหว่างยาที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้กาแฟดิบ
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพรชนิดนี้อาจมีผลต่อยาหรือพยาธิสภาพในปัจจุบัน ควรปรึกษาหมอผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนการใช้งาน
ปริมาณการใช้
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดในการใช้กาแฟดิบโดยปกติอยู่ที่เท่าไหร่
ปริมาณการใช้กาแฟดิบอาจแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละราย ปริมาณยาที่ใช้ขึ้นอยู่กับช่วงอายุ สุขภาพและปัจจัยอื่น ๆ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมอาจไม่ปลอดภัยเสมอไป โปรดปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ผู้ทำการรักษาสำหรับปริมาณที่เหมาะสม
กาแฟดิบมีจำหน่ายในรูปแบบใด
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพรนี้อาจมีจำหน่ายในรูปแบบต่อไปนี้:
- กาแฟดิบสด
- สากสกัดจากกาแฟดิบรูปแบบแคปซูล
[embed-health-tool-bmi]