การใช้ประโยชน์ คูเลีย
คูเลีย (Quillaia) ใช้ทำอะไร
เป็นพืชชนิดหนึ่ง เปลือกไม้ข้างในใช้ทำเป็นยารักษาโรค
- การไอ
- โรคหลอดลมอักเสบ
- ปัญหาการหายใจ
ใช้ทาบริเวณที่ได้รับผลกระทบ ดังนี้
- แผลเปื่อยที่ผิวหนัง
- โรคน้ำกัดเท้า
- คันหนังศีรษะ
- รังแค
- ตกขาว
การทำงานของคูเลียเป็นอย่างไร
การศึกษาเกี่ยวกับกลไกการออกฤทธิ์ของคูเลียยังมีไม่เพียงพอ ควรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร หรือ แพทย์ อย่างไรก็ตาม เป็นที่รู้กันว่า คูเลีย ประกอบด้วยแทนนินส์ (Tannins) ที่มีความเข้มข้นสูง สารที่เป็นยาสมานแผล เช่น แทนนินส์ (Tannins) มีเมือกที่เป็นสาเหตุให้เกิดอากรไอ อีกทั้งคูเลียยังมีสารเคมีที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน
ข้อควรระวังและคำเตือน
เราควรรู้อะไรบ้างก่อนใช้คูเลีย
ปรึกษาแพทย์ เภสัชกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรในกรณีที่:
- ตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร เพราะเป็นเวลาที่ควรได้รับยารักษาโรคเฉพาะที่แพทย์สั่งเท่านั้น
- ใช้ยาอื่นๆ ซึ่งรวมถึงยาที่ซื้อโดยไม่ต้องมีใบสั่งยา
- แพ้สารที่อยู่ในคูเลีย หรือแพ้ยา หรือสมุนไพรอื่นๆ
- มีอาการป่วย มีความผิดปกติ หรือ พยาธิสภาพอื่นๆ
- มีอาการแพ้ต่างๆ เช่น แพ้อาหาร แพ้สีผสมอาหาร แพ้สารกันบูด หรือแพ้เนื้อสัตว์
ข้อกำหนดสำหรับสมุนไพรนั้นมีความเข้มงวดน้อยกว่าการใช้ยาทั่วไป ควรมีการศึกษาเพื่อรับรองความปลอดภัยและมั่นใจว่ามีคุณประโยชน์มากกว่าอันตราย ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
คูเลียมีความปลอดภัยแค่ไหน
การตั้งครรภ์และให้นมบุตร:
- หลีกเลี่ยงการใช้ไม่ปลอดภัยต่อสตรีมีครรภ์ และทารก
มีอาการกระเพาะอาหารและลำไส้ (กระเพาะและลำไส้)
- คูเลียสามารถรบกวนทางเดินอาหาร อย่าใช้คูเลียถ้ามีความผิดปกติที่กระเพาะอาหาร หรือเกี่ยวกับลำไส้
โรคไต
- ในคูเลียเป็นสาเหตุให้เป็นนิ่วในไต อย่าใช้คูเลียถ้าคุณเป็นโรคไต หรือมีประวัติเป็นนิ่วในไต
ผลข้างเคียง
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้คูเลียมีอะไรบ้าง
- ในคูเลียมีสารแทนนินส์ (Tannins) สูง ทำให้เกิดการแปปรวนในลำไส้และไตได้
- คูเลียประกอบด้วยสารเคมีเรียกว่า ออกซาเลต ซึ่งสามารถลดระดับบลัดแคลเซียม (Bloodcalcium) และทำให้เป็นนิ่วในไต
- คูเลียทำให้เป็นอาการท้องร่วง
- ความเจ็บปวดที่กระเพาะ
- ปัญหาการหายใจอย่างรุนแรง อาการชักกระตุก โคม่า การทำลายเซลล์เม็ดเลือดแดง และไตล้มเหลว
- คูเลียสามารถทำให้ระคายเคืองและทำลายเยื่อบุของปาก คอ และระบบทางเดินอาหาร
อย่างไรก็ตาม ผลข้างเคียงเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน และอาจมีอาการอื่นจากผลข้างเคียง ที่ไม่ได้กล่าวไว้ข้างต้น หากมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องผลข้างเคียง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร หรือ แพทย์
ปฏิกิริยาระหว่างยา
ยาที่อาจเกิดปฏิกิริยากับคูเลียมีอะไรบ้าง
คูเลียอาจทำปฏิกิริยากับยาที่คุณกำลังใช้หรือส่งผลกระทบกับการรักษาของคุณในปัจจุบัน ดังนั้น ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรหรือแพทย์ก่อนใช้
ผลิตภัณฑ์ที่อาจมีปฏิกิริยากับคูเลีย ได้แก่
- ชนิดรับประทาน
- คูเลียประกอบด้วยสารเคมีจำนวนมากเรียกว่าแทนนินส์ (Tannins) ซึ่งจะดูดซับสารในกระเพาะอาหารและลำไส้ ใช้คูเลียร่วมกับยาทางปากสามารถลดจำนวนยาที่ร่างกายดูดซึม และลดประสิทธิภาพของยา ป้องกันการเกิดปฏิกิริยานี้ ให้ใช้คูเลียหลังทานยาอื่นอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
- เมทฟอร์มิน (Metformin) เช่น กลูโคเฟจ (Glucophage) ใช้ลดน้ำตาลในเลือด คูเลียอาจลดปริมาณการดูดซับเมทฟอร์มิน เช่น กลูโคเฟจ ในร่างกาย การใช้คูเลียร่วมกับเมทฟอร์มิน เช่น กลูโคเฟจ อาจลดประสิทธิภาพของเมทฟอร์มิน เช่น กลูโคเฟจ สำหรับผู้ที่น้ำตาลในเลือดต่ำลง ควรตรวจสอบน้ำตาลในเลือดอย่างใกล้ชิด ปริมาณของเมทฟอร์มิน เช่น กลูโคเฟจ อาจจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง
ขนาดการใช้
ข้อมูลนี้ไม่สามารถเป็นคำสั่งในการใช้ยาได้ ควรปรึกษานักสมุนไพรศาสตร์หรือแพทย์ก่อนการใช้ยาเสมอ
ปกติแล้วควรใช้คูเลียในปริมาณเท่าใด
ปริมาณของการใช้สมุนไพรนั้นจะแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ขึ้นอยู่กับอายุ, ภาวะสุขภาพ รวมถึงเงื่อนไขอื่นๆ การใช้สมุนไพรไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัยเสมอ ดังนั้นจึงควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรหรือแพทย์เพื่อขนาดในการใช้ที่เหมาะสม
สมุนไพรดังกล่าวอาจอยู่ในรูปแบบใด
คูเลียอาจมีจำหน่ายในรูปแบบต่อไปนี้:
- ผงคูเลีย
- คูเลียดิบ
ปริมาณของการใช้สมุนไพรนั้นจะแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย ขึ้นอยู่กับอายุ, ภาวะสุขภาพ รวมถึงเงื่อนไขอื่นๆ การใช้สมุนไพรไม่ได้หมายความว่าจะปลอดภัยเสมอ ดังนั้นจึงควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพรหรือแพทย์เพื่อขนาดในการใช้ที่เหมา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรค และการรักษาโรคแต่อย่างใด
[embed-health-tool-bmi]