ควรรีบไปพบคุณหมอเมื่อสังเกตพบอาการต่อมลูกหมากอักเสบ เช่น ปัสสาวะติดขัด ปัสสาวะไม่ออก ปัสสาวะบ่อย ซึ่งอาจเกิดร่วมกับอาการอื่น ๆ เช่น เป็นไข้ ปัสสาวะมีเลือดปน
การวินิจฉัยและการรักษาโรค
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาคุณหมอทุกครั้งเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
การวินิจฉัยต่อมลูกหมากอักเสบ
ในการวินิจฉัยโรค คุณหมอจะสอบถามเกี่ยวกับอาการและประวัติการป่วยของคนไข้ เพื่อให้ทราบสาเหตุของอาการป่วย หรือชนิดของต่อมลูกหมากอักเสบที่อาจกำลังเป็นอยู่ รวมทั้งตรวจคนไข้ด้วยวิธีการต่อไปนี้
- ตรวจทางทวารหนัก โดยคุณหมอจะใช้นิ้วสอดเข้าไปตรวจต่อมลูกหมากผ่านรูทวารของคนไข้โดยตรง เพื่อให้ทราบถึงลักษณะการบวมหรือลักษณะของต่อมลูกหมากขณะนั้น
- ตรวจของเหลวจากอวัยวะเพศ เช่น ปัสสาวะ น้ำอสุจิ หรือสารคัดหลั่งจากต่อมลูกหมากซึ่งจะหลั่งออกมาเมื่อคุณหมอนวดต่อมลูกหมากระหว่างการตรวจทวารหนัก เพื่อหาสัญญาณของการอักเสบหรือการติดเชื้อแบคทีเรีย
- ตรวจเลือด เพื่อตรวจหาสาเหตุการติดเชื้อ และความผิดปกติอื่น ๆ ของต่อมลูกหมาก เช่น มะเร็งต่อมลูกหมาก
- ตรวจยูโรพลศาสตร์ (Urodynamic Tests) หรือการตรวจความแรงของการหลั่งปัสสาวะ เนื่องจากต่อมลูกหมากที่อักเสบหรือบวม มักทำให้ปัสสาวะแสบขัด ไม่สามารถไหลออกมาตามปกติได้
- ตรวจกระเพาะปัสสาวะด้วยการส่องกล้อง เพื่อตรวจดูว่า ท่อปัสสาวะถูกกีดขวางหรือไม่ ในกรณีที่คนไข้ปัสสาวะแสบขัด
การรักษาต่อมลูกหมากอักเสบ
โดยปกติ คุณหมอจะใช้ยาปฏิชีวนะรักษาคนไข้ต่อมลูกหมากอักเสบ อันประกอบด้วย
- ยาฆ่าเชื้อ ในกรณีของผู้ป่วยซึ่งต่อมลูกหมากอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย คุณหมอจะสั่งยาให้รับประทานต่อเนื่องอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ในกรณีป่วยแบบเรื้อรัง อาจต้องรับประทานยาต่อเนื่องถึง 6 เดือน
- ยากลุ่มแอลฟา-บล็อกเกอร์ (Alpha-blockers) คุณหมอจะสั่งยาในกลุ่มนี้เพื่อช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณต่อมลูกหมากและกระเพาะปัสสาวะ ในกรณีของผู้ป่วยที่ปัสสาวะแสบขัด
- สารต้านการอักเสบหรือยาแก้ปวดและยาคลายกล้ามเนื้อ คุณหมอมักจ่ายยาประเภทนี้เพื่อช่วยลดอาการปวดหรือบวมตามร่างกายซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากภาวะต่อมลูกหมากอักเสบ
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย