หากเราเดินใจลอยไม่ระวัง แขน ขาอาจจะเกิดอุบัติเหตุ ฟาดหรือกระทบกระแทก ทำให้ร่างกายเกิดรอยช้ำ ซึ่งหลายคนอาจจะเคยสังเกตว่า สีรอยช้ำ ของเรานั้นมีสีที่หลากหลายทั้งสีเขียว ม่วง แดง วันนี้ Hello คุณหมอ จะชวนทุกคนมาหาคำตอบว่า ทำไมรอยช้ำถึงที่มีที่แตกต่างกัน ไปอ่านกันเลยค่ะ
[embed-health-tool-bmi]
รอยช้ำ เกิดขึ้นได้อย่างไร
รอยช้ำ เป็นรอยที่เกิดขึ้นจากการที่ผิวหนังกระทบกับของแข็งอย่างรุนแรง จนทำให้เส้นเลือดฝอยหรือเส้นเลือดเล็ก ๆ นั้นแตก เมื่อเส้นเลือดฝอยแตกทำให้เลือดออก ซึมไปยังเนื้อเยื่อบริเวณผิวหนังรอบ ๆ ซึ่งทำให้เกิดรอยช้ำและเกิดการเปลี่ยนสีใต้ผิวหนัง อย่างที่เราเห็น ๆ กัน ในขณะเดียวกัน รอยช้ำ ก็จะดูดซับเลือดที่รั่วออกมา ทำให้รอยช้ำมีลักษณะและสีที่เปลี่ยนไป
มาเรียนรู้เกี่ยวกับ สีรอยช้ำ กันเถอะ
ตั้งแต่เกิดการกระแทก รอยช้ำ นั้นจะอยู่นาน 2-3 สัปดาห์ รอยช้ำของแต่ละคนนั้นอาจจะใช้เวลากว่าจะหายไม่เท่ากัน ซึ่งจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการบาดเจ็บ และจุดที่ได้รับรอยช้ำบนร่างกาย หากเกิดรอบช้ำที่แขนหรือขาอาจจะหายช้ากว่าปกติ และสีของรอยช้ำก็จะค่อยๆ เปลี่ยนไปตามลำดับ และมีเฉดสีที่ค่อย ๆ เปลี่ยนไปดังนี้
สีชมพูและแดง
หลังจากที่ร่างกายได้รับการกระแทก เช่น โดนกระแทกที่หน้าแข้ง โดนกระแทกที่แขน อาจทำให้บริเวณนั้นเกิดรอยช้ำสีชมพูหรือแดงขึ้นมา นอกจากสีที่ปรากฏขึ้นแล้ว บริเวณนั้นอาจจะมีการบวมและรู้สึกเจ็บเมื่อสัมผัสโดนอีกด้วย
สีน้ำเงินและม่วงเข้ม
ภายในหนึ่งวันหลังจากที่เกิดการกระแทก รอยช้ำ ของคุณอาจมีการเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำเงินหรือสีม่วงเข้ม และอาการบวมที่รอยช้ำ เหตุผลที่มันเปลี่ยนเป็นสีนี้เกิดขึ้นจากปริมาณออกซิเจนในเลือดที่คั่งอยู่ต่ำลง ทำให้ฮีโมโกลบิน (Hemoglobin) ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นสีแดงนั้นเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินที่ละน้อย ซึ่งรอยช้ำสีม่วงเข้มและน้ำเงินนี้อาจจะอยู่นานถึง 5 วันหลังจากได้รับการบาดเจ็บ
สีเขียวอ่อน
เมื่อเข้าสู่วันที่ 6 รอยช้ำ ของคุณจะเริ่มมีสีเขียว ซึ่งเป็นสัญญาณว่า ฮีโมโกลบินเริ่มสลายตัวแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณว่าร่างกายกำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟูรอยช้ำนั้นให้ดีขึ้น
สีเหลืองและน้ำตาลอ่อน
หลังจากวันที่ 7 นับจากวันที่เกิดการบาดเจ็บ รอยช้ำ ของคุณก็เริ่มที่จะดีขึ้น สีจางลงจนกลายเป็นสีเหลืองอ่อนหรือสีน้ำตาลอ่อน นั่นบ่งบอกว่านี่เป็นขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการดูดซึมฮีโมโกลบินของร่างกาย รอยช้ำจะไม่มีการเปลี่ยนสีอีกแล้ว แต่มันจะค่อยๆ จางจนสีหายไปเป็นปกติ
เมื่อไหร่ที่คุณควรกังวลเกี่ยวกับ สีรอยช้ำ
โดยทั่วไปแล้วรอยช้ำไม่ใช่สิ่งที่ควรจะต้องกังวลเมื่อเกิด รอยช้ำ เราสามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้เลย โดยไม่ต้องไปพบคุณหมอเพื่อทำการรักษา แต่บางครั้งเมื่อเกิดอาการต่างๆ เหล่านี้คุณอาจจะต้องไปพบคุณหมอเพื่อรักษาอาการฟกช้ำ ปัญหาหนึ่งที่พบได้บ่อยเมื่อเกิดการบาดเจ็บคือ “การห้อเลือด” การห้อเลือด คือ การสะสมของเลือดจำนวนมากที่ติดอยู่ในเนื้อเยื่อ มักจะเกิดเมื่อได้รับการบาดเจ็บที่หนัก หากร่างกายเกิดอาการห้อเลือดจะไม่สามารถรักษารอยช้ำให้หายได้ง่ายและรวดเร็วเหมือนการบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ หากคุณมีอาการเหล่านี้ก็ควรต้องไปพบคุณหมอ เช่นกัน
- มีอาการชาที่แขนหรือขา
- ข้อต่อและกล้ามเนื้อทำงานได้ไม่เต็มที่
- รอยช้ำมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
- รอยช้ำเกิดที่คอหรือศีรษะ
- ส่งผลต่อการมองเห็น
ลักษณะของ รอยช้ำ และเฉดสีที่เปลี่ยนไป ช่วยให้เราสามารถเข้าใจถึงความหมาย และกระบวนการรักษาของร่างกายได้มากขึ้น คุณจะได้ไม่ต้องกังวลว่า ทำไมรอยช้ำถึงมีสีที่เปลี่ยนไป เพราะการเปลี่ยนไปของสีของรอยช้ำนั้นถือเป็นเรื่องที่ปกติ
หากรอยฟกช้ำ หรือสีของรอยฟกช้ำไม่เป็นปกติ คุณควรไปพบคุณหมอให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้รับการรักษาได้ทันท่วงที