ช่วยตัวเองบ่อย ๆ เป็นหมันไหม? ความจริงแล้ว การช่วยตัวเองไม่ว่าจะผู้ชายหรือผู้หญิง ต่างก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความสามารถในการมีบุตร แต่อาจส่งผลให้อวัยวะเพศระคายเคืองหรือบาดเจ็บได้ อย่างไรก็ตาม การช่วยตัวเองมีข้อดี เช่น ช่วยลดความเครียด บรรเทาอาการปวดประจำเดือน ลดความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
[embed-health-tool-ovulation]
ช่วยตัวเองบ่อย ๆ เป็นหมันไหม
การช่วยตัวเองบ่อย ๆ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความสามารถในการมีบุตรหรือทำให้เป็นหมัน
ทั้งนี้ เกิดความเข้าใจผิดว่าผู้ชายที่ช่วยตัวเองบ่อย ๆ จะทำให้จำนวนอสุจิลดลง และส่งผลให้มีโอกาสต่ำที่จะมีบุตร ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะร่างกายของผู้ชายผลิตอสุจิใหม่อยู่เสมอ
งานวิจัยชิ้นหนึ่ง เรื่องผลลัพธ์ของการหลั่งอสุจิบ่อย ๆ ต่อคุณภาพของน้ำอสุจิ ตีพิมพ์ในวารสาร Reproductive Biology Endocrinology ปี พ.ศ. 2558 นักวิจัยได้เก็บตัวอย่างน้ำอสุจิจากผู้ชายจำนวนหนึ่งทุก ๆ วัน เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ติดต่อกัน เพื่อตรวจดูความแตกต่างและคุณภาพของน้ำอสุจิ
จากผลการทดลอง นักวิจัยพบว่า น้ำอสุจิที่เก็บในแต่ละวัน มีปริมาณที่ลดลงเรื่อย ๆ แต่มีระดับตัวชี้วัดคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นความเข้มข้นของน้ำอสุจิ การเคลื่อนไหวของตัวอสุจิ หรือลักษณะของตัวอสุจิ ที่ไม่แตกต่างกัน
ดังนั้น จึงอาจสรุปได้ว่า การหลั่งอสุจิทุกวัน อาจไม่ส่งผลต่อคุณภาพของตัวอสุจิ
ขณะเดียวกัน ในกรณีของผู้หญิง การช่วยตัวเองไม่ส่งผลใด ๆ ต่อระบบสืบพันธุ์ อย่างการตกไข่หรือการฝังตัวของไข่กับผนังมดลูกหลังปฏิสนธิ ดังนั้น การช่วยตัวเองบ่อย ๆ จึงไม่ทำให้เป็นหมัน หรือไม่ได้ทำให้มีลูกยากขึ้น
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการ ช่วยตัวเองบ่อย ๆ
นอกจากความสัมพันธ์ระหว่างการช่วยตัวเองกับจำนวนอสุจิ รวมทั้งความสามารถในการมีบุตร ยังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการช่วยตัวเองอื่น ๆ อีก เช่น
- การช่วยตัวเองทำให้ความต้องการทางเพศน้อยลงและลดระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ความจริงแล้ว การช่วยตัวเอง ไม่มีผลต่อความต้องการทางเพศ รวมถึงระดับเทสโทสเตอโรน ซึ่งสัมพันธ์กับความต้องการและสมรรถภาพทางเพศของผู้ชาย เพราะระดับฮอร์โมนเพศเทสโทสเตอโรนถูกควบคุมโดยต่อมใต้สมอง ไม่เกี่ยวข้องกับการช่วยตัวเอง
- การช่วยตัวเองทำให้ความสุขในการมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนลดลง ความจริงแล้ว การช่วยตัวเองถือเป็นการสำรวจตัวเองว่าชอบถูกกระตุ้นหรือเร้าอารมณ์ทางเพศบริเวณไหนและอย่างไร ถือว่าเป็นข้อดีเพราะจะทำให้สามารถบอกคู่ของตนเองว่าควรร่วมเพศด้วยท่าทางแบบใดและมีโอกาสถึงจุดสุดยอดได้ดีขึ้น
- การช่วยตัวเองเป็นเรื่องน่าละอายหรือเป็นเรื่องผิดปกติ ความจริงแล้ว การช่วยตัวเอง ถือเป็นเรื่องปกติตามธรรมชาติ เป็นการสร้างความสุขและความพึงพอใจให้ตัวเอง
- การช่วยตัวเองสามารถทำเท่าไรก็ได้ แม้จะยังไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับจำนวนครั้งหรือความถี่ที่เหมาะสมในการช่วยตัวเอง แต่การช่วยตัวเองบ่อยเกินไป โดยทำไม่ถูกวิธี รุนแรงเกินไป หรือใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาดร่วมด้วย อาจทำให้อวัยวะเพศระคายเคือง บาดเจ็บ หรือติดเชื้อได้
ข้อดีของการช่วยตัวเอง
การช่วยตัวเอง มีข้อดีดังต่อไปนี้
- ทำให้อารมณ์ดี ลดความเครียด เมื่อช่วยตัวเอง ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนต่าง ๆ ที่ทำให้มีความสุขออกมา เช่น โดพามีน (Dopamine) เอนดอร์ฟิน (Endorphin) ออกซิโตซิน (Oxytocin)
- ช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ฮอร์โมนเอนดอร์ฟินซึ่งหลั่งออกมาเมื่อช่วยตัวเองจนถึงจุดสุดยอดมีคุณสมบัติลดความเจ็บปวด ดังนั้น การช่วยตัวเองระหว่างมีประจำเดือน จึงอาจช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้
- ช่วยให้หลับสบาย ฮอร์โมนเอนดอร์ฟินที่หลั่งออกมาเมื่อช่วยตัวเองมีฤทธิ์ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และทำให้ง่วงนอนหรือหลับได้ง่ายขึ้นเมื่อถึงจุดสุดยอด
- ลดความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก งานวิจัยชิ้นหนึ่ง เรื่องความถี่ในการช่วยตัวเองและความเสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก เผยแพร่ในวารสาร European Urology ปี พ.ศ. 2559 นักวิจัยได้ติดตามกลุ่มตัวอย่างเพศชายจำนวนหนึ่ง ที่เคยเข้าร่วมงานวิจัยในประเด็นเดียวกันในช่วงก่อนหน้า และพบข้อสรุปว่า ผู้ชายที่ระบุว่าช่วยตัวเองบ่อยในวัยหนุ่ม เสี่ยงเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากต่ำกว่าผู้ชายกลุ่มที่ช่วยตัวเองน้อยครั้ง