backup og meta

ยาคุมแบบ21เม็ด ยาคุมแบบ28เม็ด แตกต่างกันอย่างไร

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย Duangkamon Junnet


เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 28/02/2023

    ยาคุมแบบ21เม็ด ยาคุมแบบ28เม็ด แตกต่างกันอย่างไร

    การรับประทานยาคุมกำเนิด ถือเป็นวิธีคุมกำเนิดรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยม ยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน แบ่งหลัก ๆ ได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ ยาคุมแบบ21เม็ด ยาคุมแบบ28เม็ด การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับยาคุมกำเนิดชนิดรับประทานทั้ง 2 ชนิดนี้ให้เข้าใจ อาจช่วยให้ตัดสินใจเลือกรับประทานยาคุมกำเนิดได้เหมาะสมกับความต้องการ และช่วยให้สามารถคุมกำเนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

    ทำความรู้จักยาคุม (Birth Control Pill)

    ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth Control Pill) เป็นหนึ่งในอุปกรณ์คุมกำเนิดที่นิยมใช้ทั่วไป ยาเม็ดคุมกำเนิดประกอบด้วยฮอร์โมนเพศหญิง 2 ชนิด คือ ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ช่วยในการคุมกำเนิดโดยป้องกันการตกไข่ และทำให้มูกในช่องคลอดเหนียวข้นขึ้นจนอสุจิผ่านเข้ามาได้ยากขึ้น จึงช่วยลดโอกาสในการตั้งครรภ์ได้

    ยาคุมแบบ 21 เม็ด และยาคุมแบบ 28 เม็ด ต่างกันอย่างไร

    ยาเม็ดคุมกำเนิดโดยทั่วไปจะมี 2 ชนิด คือยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ด และยาคุมกำเนิดแบบ 28 เม็ด โดยเม็ดตัวยาที่ 1-21 ของทั้งสองแบบจะมีลักษณะเหมือนกันทั้งขนาด สี และปริมาณตัวยาภายในเม็ด แต่จะมีวิธีการรับประทานที่แตกต่างกัน ดังนี้

    ยาคุมกำเนิด ปริมาณ 1 แผง  บรรจุ 21 เม็ด

  • การรับประทานยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ด เริ่มรับประทานเม็ดแรกในการมีประจำเดือนครั้งถัดไป
  • เมื่อรับประทานยาหมดแผง ให้เว้นระยะการรับประทาน 7 วัน แล้วค่อยเริ่มแผงใหม่
  • ในระยะช่วงที่หยุดรับประทานยาคุมใน 7 วันนั้น อาจมีเลือดออกเล็กน้อยคล้ายประจำเดือน
  • ยาคุมกำเนิด ปริมาณ 1 แผง  บรรจุ 28 เม็ด

    • การรับประทานยาคุมกำเนิดแบบ 28 เม็ด จะมีลักษณะการรับประทานเหมือนยาคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ด
    • ในแผงยาคุมกำเนิดจะมีเม็ดยาที่ไม่มียาฮอร์โมนอีก 7 เม็ด หรือที่เรียกว่า เม็ดแป้ง หรือ เม็ดยาหลอก มีไว้เพื่อช่วยให้ไม่ลืมรับประทานยา
    • เมื่อรับประทานยาคุมกำเนิดครบ 28 เม็ด สามารถเริ่มรับประทานยาแผงใหม่ได้เลย

    อาการข้างเคียงจากการใช้ยาคุมกำเนิด

    ยาคุมกำเนิด อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงหลังจากการรับประทานยาได้ หากมีอาการรุนแรงควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำและรับการรักษา โดยผลข้างเคียงจะมีอาการ ดังต่อไปนี้

    • อาการชาที่แขนและขา
    • ไอเป็นเลือด
    • เจ็บหน้าอก หายใจติดขัด
    • ปวดศีรษะ ปวดไมเกรน
    • ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน

    ยาคุมกำเนิดอาจทำให้เสี่ยงเกิดโรคความดันโลหิตสูง และภาวะเส้นเลือดอุดตัน ผู้ที่รับประทานยาคุมเป็นประจำควรตรวจสุขภาพร่างกายทุก ๆ 6 เดือน

    ยาคุมกำเนิดในปัจจุบันถูกผลิตออกมาหลายยี่ห้อ และได้มีการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพตัวยาอยู่เรื่อย ๆ เพื่อให้ผู้บริโภคเกิดผลข้างเคียงจากการทานยาให้น้อยที่สุด

    อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนรับประทานยาคุมกำเนิด อ่านฉลากและเอกสารกำกับยาให้ละเอียด หากมีโรคประจำตัว ควรปรึกษาคุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรับคำแนะนำในการรับประทานยาคุมกำเนิดที่เหมาะสมกับตนเอง

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    Duangkamon Junnet


    เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 28/02/2023

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา