ถุงยางอนามัย เป็นอุปกรณ์คุมกำเนิดและป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ทำจากน้ำยางพาราหรือยางสังเคราะห์ หากใช้อย่างถูกวิธีจะมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดและป้องกันโรคราว 98 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันนี้ มีทั้งถุงยางอนามัยสำหรับเพศชายและเพศหญิง ทั้งนี้ ควรศึกษา วิธีใส่ถุงยาง ที่ถูกต้อง เพื่อการป้องกันถุงยางรั่ว ฉีกขาด หรือเสื่อมสภาพ
[embed-health-tool-ovulation]
ถุงยางอนามัย มีกี่รูปแบบ
ถุงยางอนามัย เป็นอุปกรณ์สำหรับสวมหรือสอดที่อวัยวะเพศ เพื่อคุมกำเนิดและป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
โดยทั่วไป ถุงยางอนามัยมักทำจากน้ำยางธรรมชาติหรือยางสังเคราะห์ และจำแนกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ถุงยางอนามัยสำหรับเพศชายและสำหรับเพศหญิง ซึ่งมีรายละเอียดแตกต่างกัน ดังต่อไปนี้
- ถุงยางอนามัยสำหรับเพศชาย เป็นแบบใช้ภายนอก สำหรับครอบองคชาตเมื่อแข็งตัว เพื่อป้องกันน้ำอสุจิไหลเข้าสู่ช่องคลอด แล้วทำให้เกิดการตั้งครรภ์ รวมถึงป้องกันโรคติดต่างทางเพศสัมพันธ์ต่าง ๆ
- ถุงยางอนามัยของผู้หญิง เป็นแบบใช้ภายใน โดยสอดเข้าไปในช่องคลอด เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์หากน้ำอสุจิไหลเข้าสู่ช่องคลอด และป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
วิธีใส่ถุงยาง ที่ถูกต้อง ทำอย่างไร
หากใส่ถุงยางอนามัยถูกวิธีอาจช่วยป้องกันการตั้งครรภ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ประมาณ 98 เปอร์เซ็นต์ แต่หากใส่ผิดวิธีอาจทำให้ประสิทธิภาพของถุงยางอนามัยลดลงเหลือ 75 เปอร์เซ็นต์
วิธีใส่ถุงยางที่ถูกต้อง ทั้งของเพศชายและเพศหญิง มีรายละเอียดดังนี้
วิธีใส่ถุงยาง ที่ถูกต้องสำหรับเพศชาย
- ตรวจสอบวันเดือนปีที่หมดอายุ เพราะถุงยางที่หมดอายุอาจส่งผลให้ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดและป้องกันโรคลดลง
- นำถุงยางอนามัยออกจากห่อ ควรค่อย ๆ ฉีกห่ออย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันถุงยางอนามัยเสียหาย
- ตรวจสอบถุงยางอนามัยก่อนใช้งาน ควรอยู่ในสภาพดี ไม่มีรอยฉีก ขาด รูรั่ว หากพบถุงยางอนามัยผิดปกติ เช่น แข็งเกินไป เหนียวเหนอะ ควรทิ้งและเปลี่ยนใช้อันใหม่
- สวมถุงยางอนามัยเมื่อองคชาตแข็งตัว โดยต้องหาด้านที่ถูกต้องจากนั้นรูดส่วนที่ม้วนเป็นวงแหวนให้ครอบลำองคชาต ทั้งนี้ ควรบีบส่วนปลายเพื่อไล่อากาศออกจากถุงยางอนามัยระหว่างใส่ และควรเหลือส่วนปลายให้มีพื้นที่ว่างไว้เล็กน้อย เพื่อเก็บน้ำอสุจิที่จะหลั่งออกมาเมื่อถึงจุดสุดยอด
- ระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ควรสวมถุงยางอนามัยเพียงชิ้นเดียว หากสวมซ้อน 2 ชั้นจะทำให้ถุงยางอนามัยเสียดสีกัน และเสี่ยงถุงยางขาดได้ง่าย
- ขณะมีเพศสัมพันธ์ ควรหมั่นตรวจสอบว่าถุงยางอนามัยเคลื่อนจากตำแหน่งเดิมหรือไม่
- หลังถึงจุดสุดยอดแล้ว ให้ดึงองคชาตที่ยังแข็งตัวอยู่ออกจากช่องคลอดหรือทวารหนักอย่างช้า ๆ โดยใช้มือช่วยจับถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันน้ำอสุจิไหลออกมา
- ก่อนทิ้งถุงยางอนามัยลงถังขยะ ควรห่อด้วยกระดาษชำระ และไม่ควรทิ้งลงชักโครก เพราะอาจทำให้อุดตันได้
วิธีใส่ถุงยาง ที่ถูกต้องสำหรับเพศหญิง
- ค่อย ๆ นำถุงยางอนามัยออกจากห่อด้วยความระมัดระวัง และไม่ใช้ฟันกัดห่อถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันการฉีกขาด
- คลี่ถุงยางอนามัยออก แล้วใส่ส่วนที่คลี่แล้วเข้าไปในช่องคลอด โดยใช้นิ้วช่วยดันเข้าไป จับให้ส่วนที่เป็นวงแหวนอยู่ด้านนอกและคลุมปากช่องคลอดไว้
- ขณะมีเพศสัมพันธ์ ต้องมั่นใจว่าองคชาตสอดใส่เข้ามาในช่องคลอดที่มีถุงยางอนามัย
- เมื่อฝ่ายชายหลั่งน้ำอสุจิเข้าไปในช่องคลอดแล้ว ค่อย ๆ ดึงถุงยางอนามัยออกจากช่องคลอดช้า ๆ แล้วรวบส่วนที่เป็นวงแหวนทั้งหมดเข้าด้วยกันเพื่อป้องกันน้ำอสุจิไหลสู่ช่องคลอดเพราะอาจเสี่ยงเกิดการตั้งครรภ์
- ห่อถุงยางด้วยกระดาษชำระก่อนทิ้งลงในถังขยะ
ข้อควรระวังในการใช้ถุงยางอนามัย
คำแนะนำอื่น ๆ เกี่ยวกับวิธีการใส่ถุงยาง มีดังต่อไปนี้
- หากพบว่าถุงยางอนามัยฉีกขาดระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าถุงยางสำหรับเพศชายหรือเพศหญิง ควรหยุดมีเพศสัมพันธ์ทันที แล้วเปลี่ยนใช้ถุงยางอนามัยชิ้นใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงตั้งครรภ์ หรือติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- ถุงยางอนามัยเพศชาย ควรเลือกที่ขนาดพอดีกับอวัยวะเพศ หากใช้ถุงยางอนามัยที่เล็กหรือคับเกินไป อาจเสี่ยงให้ถุงยางฉีกหรือขาดขณะมีเพศสัมพันธ์ได้ง่ายกว่าปกติ
- สำหรับเพศชาย เมื่อหลั่งน้ำอสุจิแล้ว และต้องการมีเพศสัมพันธ์อีกครั้ง ควรใช้ถุงยางอนามัยใหม่ ไม่ใช้ชิ้นเดิม เพราะถุงยางอนามัยที่ใช้แล้วมักขาดง่ายกว่าถุงยางที่ยังไม่ได้ใช้ และทำให้ประสิทธิภาพลดลง
- เพศหญิงบางรายอาจรู้สึกไม่สบายใจที่จะสอดสิ่งแปลกปลอมเข้าไปภายในช่องคลอด ควรให้ฝ่ายชายใช้ถุงยางอนามัยแทน ไม่ควรพยายามใช้ถุงยางอนามัยเพศหญิงเพราะอาจทำให้ไม่สบายตัวระหว่างมีเพศสัมพันธ์และอาจทำให้กิจกรรมทางเพศสะดุดได้
- หากส่วนวงแหวนของถุงยางอนามัยผู้หญิงที่ครอบปากช่องคลอด เลื่อนหลุดเข้าไปในช่องคลอดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ ให้หยุดมีเพศสัมพันธ์ทันที แล้วดึงส่วนที่หลุดเข้าไปออกมาครอบปากช่องคลอดตามเดิม
- หากอวัยวะเพศมีอาการแสบ คัน เมื่อใส่ถุงยางอนามัย อาจหมายถึง แพ้ยาง ควรถอดถุงยางอนามัยแล้วเปลี่ยนไปใช้ถุงยางอนามัยที่ผลิตจากยางสังเคราะห์แทน เช่น ถุงยางอนามัยที่ทำจากพอลิยูรีเทน (Polyurethane) ถุงยางอนามัยที่ทำจากพอลิไอโซพรีน (Polyisoprene)
- หากสวมถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์ ไม่ควรใช้สารหล่อลื่นที่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ เช่น โลชั่น มอยเจอร์ไรเซอร์ วาสลีน เบบี้ออยล์ เพราะอาจทำให้ถุงยางอนามัยเสียหาย ฉีกหรือขาดได้ง่าย หากต้องการให้การสอดใส่ง่ายขึ้น ควรใช้สารหล่อลื่นที่งมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก