ขนเพชร เป็นขนที่ปกคลุมอวัยวะเพศทั้งชายและหญิง มีหน้าที่ช่วยปกป้องอวัยวะเพศจากการเสียดสีขณะมีเพศสัมพันธ์ ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค ช่วยรักษาอุณหภูมิของอวัยวะเพศ อย่างไรก็ตาม บางคนอาจต้องการกำจัดขนเพชร เนื่องจากความชอบส่วนตัวหรือเหตุผลอื่น ๆ จึงควรทราบถึงข้อควรระวังบางประการและวิธีการกำจัดขนเพชรที่เหมาะสมก่อนลงมือทำ
[embed-health-tool-ovulation]
ขนเพชร มีประโยชน์อย่างไร
ขนเพชร คือ ขนบริเวณอวัยวะเพศและบริเวณหัวหน่าวของทั้งผู้ชายและหญิง โดยขนเพศอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพทางเพศ ดังนี้
- เป็นสัญญาณของวัยเจริญพันธุ์ ขนเพชรจะเจริญเติบโตขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ซึ่งเป็นสัญญาณทางกายภาพของร่างกายที่บ่งบอกว่าบุคคลนั้นเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์และพร้อมที่จะสืบพันธุ์
- อาจช่วยลดแรงเสียดสี เนื่องจากผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศมีความบอบบางมาก การเสียดที่เกิดขึ้นขณะมีเพศสัมพันธ์หรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น วิ่ง เดิน ช่วยตัวเอง อาจทำให้ผิวเกิดความระคายเคืองหรือบาดเจ็บได้ ขนเพชรจึงอาจช่วยลดแรงเสียดสีที่เกิดขึ้นได้
- อาจช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อโรคต่าง ๆ เนื่องจากขนเพชรมีหน้าที่คล้ายกับขนตา ขนคิ้ว ขนแขน ขนขา ที่ช่วยในการป้องกันเชื้อโรคและสิ่งสกปรกที่อาจเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย นอกจากนี้ รูขุมขนยังช่วยผลิตน้ำมันที่มีบทบาทในการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้องโรคได้อีกด้วย ซึ่งขนเพชรอาจช่วยป้องกันโรคได้หลายชนิด เช่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ช่องคลอดอักเสบ การติดเชื้อรา
- อาจช่วยรักษาอุณหภูมิของอวัยวะเพศ โดยเฉพาะอวัยวะเพศชายที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาอุณหภูมิอย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศและคุณภาพของตัวอสุจิในอัณฑะ
- อาจมีบทบาทในการช่วยส่งฟีโรโมน (Pheromone) โดยฟีโรโมนเป็นสารเคมีที่มีกลิ่นฉุนและอาจส่งผลต่ออารมณ์ทางเพศได้ นอกจากนี้ ฟีโรโมนจะถูกหลั่งออกมาจากต่อมเหงื่ออะโพไครน์ (Apocrine) ซึ่งเป็นต่อมเหงื่อชนิดหนึ่งที่พบเฉพาะบางบริเวณ โดยบริเวณอวัยวะเพศมีต่อมเหงื่อชนิดนี้จำนวนมาก
การดูแลขนเพชร
หลายคนอาจมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับขนเพชรว่าเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ทำให้อวัยวะเพศมีกลิ่นเหม็นหรืออับชื้น จึงต้องกำจัดขนเพชรออกเพื่อรักษาความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศ แต่ความจริงแล้วขนเพชรช่วยในการดักจับเชื้อแบคทีเรีย น้ำมันและเหงื่อ จึงอาจทำให้บริเวณขนเพชรมีกลิ่นแรงกว่าบริเวณอื่นของร่างกาย ซึ่งการดูแลขนเพชรด้วยวิธีต่อไปนี้อาจช่วยรักษาความสะอาดและลดกลิ่นได้
- ล้างทำความสะอาดขนเพชรด้วยน้ำอุ่นหรือใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นโดยเฉพาะ
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหอมและแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้ค่าความเป็นกรดด่างบริเวณอวัยวะเพศไม่สมดุล
- หลังจากทำความสะอาดอวัยวะเพศควรเช็ดอวัยวะเพศให้แห้งสนิทเสมอ เพื่อป้องกันความอับชื้นที่อาจเป็นที่อยู่ของเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา
- หลังจากปัสสาวะควรล้างทำให้ความสะอาดหรือใช้กระดาษชำระเช็ดทำความสะอาดให้แห้งเสมอ
วิธีการกำจัดขนเพชรอย่างปลอดภัย
สำหรับวิธีการกำจัดขนเพชรด้วยตัวเอง อาจทำได้ดังนี้
- ล้างอวัยวะเพศ ควรทำความสะอาดผิวบริเวณอวัยวะเพศก่อนเริ่มกำจัดขน เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อแบคทีเรีย
- ฆ่าเชื้อใบมีดโกนหรือกรรไกร ด้วยแอลกอฮอล์ โดยใช้ผ้าชุบแอลกอฮอล์แล้วเช็ด แต่ไม่ควรแช่ใบมีดหรือกรรไกรลงไปโดยตรงเพราะจะเสียความคมได้ หรือล้างทำความสะอาดด้วยสบู่ฆ่าเชื้อ และเปลี่ยนใบมีดโกนเป็นประจำ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้กรรไกรที่ใช้กำจัดขนร่วมกับการตัดสิ่งอื่น ๆ และควรทำความสะอาดหลังใช้เสร็จทันทีเพราะสิ่งสกปรกที่ติดอยู่จะทำให้ใบมีดเกิดสนิมและทื่อได้
- ใช้กระจก ควรใช้กระจกที่มีขนาดพอดีและสามารถมองเห็นบริเวณที่ต้องการกำจัดขนได้อย่างชัดเจน
- ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับโกนขน เพื่อลดความระคายเคืองผิวและป้องกันอุปกรณ์กำจัดขนบาดผิว
- เริ่มกำจัดขนด้วยตามเส้นแนวขน โดยควรเริ่มโกนขนไปตามแนวขน ไม่โกนย้อนขึ้น เพราะอาจทำให้เกิดขนคุดได้
สำหรับการดูแลอวัยวะเพศหลังกำจัดขนเพชร อาจทำได้ดังนี้
- ให้ความชุ่มชื้นหลังกำจัดขน ควรให้ความชุ่มชื้นหลังการโกนเพื่อบรรเทาผิวที่ระคายเคือง โดยอาจใช้น้ำมันหรือโลชั่นทาบริเวณผิวเช้าและเย็นหลังอาบน้ำ เพื่อให้ความชุ่มชื้นและป้องกันผิวแห้ง
- หลีกเลี่ยงการสวมใส่กางเกงชั้นในและเสื้อผ้าที่คับแน่นเกินไป โดยเฉพาะในช่วง 2-3 วันหลังกำจัดขน เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวระคายเคือง
- ขัดผิวอย่างสม่ำเสมอ อาจใช้ใยบวบหรือสครับขัดผิวอย่างเบามือ ประมาณสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
ข้อควรระวังในการกำจัดขนเพชร
การกำจัดขนเพชรอาจมีความเสี่ยงบางประการต่อสุขภาพทางเพศ ดังนี้
- การบาดเจ็บ การกำจัดขนเพชรด้วยการตัดขน โกนหรือเลเซอร์ อาจทำให้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศระคายเคือง เป็นผื่น ผิวแดง คันหรือเกิดบาดแผลได้
- การติดเชื้อและโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การกำจัดขนเพชรด้วยอุปกรณ์ที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อและปนเปื้อนเชื้อโรคอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ และเมื่ออวัยวะเพศไม่มีขนเพชรปกคลุมก็อาจทำให้ร่างกายไวต่อการติดเชื้อมากขึ้นได้
- การเกิดฝี อาจเกิดขึ้นได้เมื่อผิวหนังเกิดความระคายเคืองและการติดเชื้อ จนทำให้เกิดอาการบวม ปวดและแดง จนอาจพัฒนาไปเป็นฝีได้