ผู้ชายหลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมอวัยวะเพศชายถึงเกิดอาการคัน และมีกลิ่นอันไม่พึ่งประสงค์ ซึ่งที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากการละเลยสุขอนามัยที่ดี โดยปกติแล้ว อวัยวะเพศชายจำเป็นต้องได้รับดูแลและการทำความสะอาดเป็นประจำไม่ต่างจากอวัยวะอื่น ๆ ในร่างกาย ดังนั้น การ ทำความสะอาดอวัยวะเพศชาย อย่างถูกต้อง จึงอาจช่วยอวัยวะเพศสะอาด ลดกลิ่นอับ และอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้ด้วย
[embed-health-tool-pregnancy-weight-gain]
ทำความสะอาดอวัยวะเพศ สำคัญอย่างไร
อวัยวะเพศชายก็ต้องการการดูแลไม่ต่างจากอวัยวะอื่น อวัยวะส่วนนี้เป็นจุดที่บอบบางจึงจำเป็นต้องดูแลเป็นอย่างดี เพราะหากละเลยการทำความสะอาดอวัยวะเพศชาย อาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ รวมถึงยังอาจทำให้อวัยวะเพศมีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ หรือกลายเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียได้ด้วย
อีกสิ่งหนึ่งที่อาจจะเกิดเมื่อไม่ทำความสะอาดอวัยวะเพศให้ดี คือ ขี้เปียก (Smegma) ซึ่งเป็นคราบสกปรกที่เกาะตามอวัยวะเพศชาย เกิดจากเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว และไขมันบนผิวหนัง จับตัวกับมูกเมือก มักติดอยู่บริเวณคอคอดใต้ผิวหนังองคชาต และเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งขี้เปียกมีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์เฉพาะตัว การเกิดขี้เปียกอาจทำให้คันและระคายเคืองบริเวณอวัยวะเพศ หากปล่อยไว้นานก็อาจทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ หรือเกิดภาวะปลายอวัยวะเพศชายอักเสบได้ด้วย
ทำความสะอาดอวัยวะเพศ ทำได้อย่างไร
สำหรับวิธีทำความสะอาดอวัยวะเพศชาย เพื่อสุขอนามัยที่ดีได้ อาจทำได้ดังนี้
- ล้างอวัยวะเพศทุกวันด้วยน้ำสะอาด และใช้สบู่สูตรอ่อนโยน
- ค่อย ๆ รูดหนังหุ้มปลายองคชาตเข้าหาตัว หากมีขี้เปียกเป็นก้อนแข็งจนไม่สามารถรูดหนังหุ้มปลายได้ อาจใช้น้ำมันถูบริเวณอวัยวะเพศเบา ๆ เพื่อให้สามารถรูดหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศได้ง่ายขึ้น แต่อย่าแรงดึงเด็ดขาด เพราะอาจทำให้รู้สึกเจ็บ เป็นแผล หรือติดเชื้อได้
- อย่าลืมทำความสะอาดฐานอวัยวะเพศ และอัณฑะด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงกลิ่นเหงื่อจากขนบริเวณหัวหน่าว
- ใช้ผ้าขนหนูสะอาดซับอวัยวะเพศให้แห้ง
สิ่งที่ต้องระวังเมื่อทำความสะอาดอวัยวะเพศ
- ไม่ควรทำความสะอาดอวัยวะเพศรุนแรงจนเกินไป เพราะอาจทำให้หนังอวัยวะเพศถลอกได้
- ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอวัยวะเพศให้เหมาะสม โดยไม่ควรมีส่วนผสมของน้ำหอม หรือสารเคมีต่าง ๆ
การดูแลอวัยวะเพศชายที่เหมาะสม
- เลือกใส่กางเกงในที่ไม่คับแน่น หรือหลวมจนเกินไป
- ดูแลสุขอนามัยอวัยวะเพศของตนเองอย่างสม่ำเสมอ
- ออกกำลังกายเป็นประจำ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการรับประทาน หรือการใช้ชีวิต
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาจส่งผลทำให้เกิดภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้
- สังเกตอวัยวะเพศของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ หากเห็นถึงความผิดปกติ ควรรีบปรึกษาคุณหมอทันที