ผู้ชายมีความต้องการบ่อยแค่ไหน? น่าจะเป็นคำถามซึ่งหลายคนสงสัยกัน โดยเฉพาะผู้ชายเอง เนื่องจากผู้ชายกับความต้องการทางเพศนั้นแทบจะเป็นสิ่งที่แยกกันไม่ขาด อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อเท็จจริงหลายประการเกี่ยวกับความต้องการทางเพศที่ผู้ชายหลายคนไม่เคยทราบ เช่น เพศสัมพันธ์มีประโยชน์อะไรบ้าง ควรมีเพศสัมพันธ์บ่อย ๆ หรือไม่ และอาจมีความเสี่ยงต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง
[embed-health-tool-heart-rate]
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความต้องการของผู้ชาย
ผู้ชายมีความต้องการบ่อยแค่ไหน?
อ้างอิงหนังสือ The Social Organisation of Sexuality: Sexual Practices in the United States ที่ทำการสำรวจเรื่องเพศในสหรัฐอเมริกา พบว่า“ ผู้ชายอายุต่ำกว่า 60 ปีส่วนใหญ่ คิดเกี่ยวกับเรื่องเพศอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง ขณะที่ผู้หญิงจำนวน 1 ใน 4 คิดเรื่องเพศในความถี่เท่ากับผู้ชาย
การสำรวจยังบอกอีกว่า แม้ความต้องการทางเพศของทั้งชายและหญิงจะลดลงตามวัย แต่ผู้ชายก็ยังคิดเรื่องเพศมากกว่าผู้หญิงเป็น 2 เท่า
นอกจากนี้ นักจิตวิทยาสังคมแห่งมหาวิทยาลัยฟลอริดาสเตต ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้สำรวจการศึกษาเรื่องเพศหลายชิ้น และพบว่า ผู้ชายมีความต้องการทางเพศโดยปราศจากสิ่งเร้าบ่อยกว่าผู้หญิง รวมถึงคิดเรื่องเพศถี่กว่าและในรูปแบบที่หลากหลายกว่าผู้หญิงด้วย
ผู้ชายอยากมีเพศสัมพันธ์มากกว่าผู้หญิง
ผู้ชายอาจคิดถึงเรื่องเพศบ่อยกว่าผู้หญิง ผู้ชายจึงมองหาโอกาสมีเพศสัมพันธ์บ่อยกว่า นักวิจัยกล่าวว่าข้อเท็จจริงนี้เป็นจริงทั้งในกลุ่มชายหญิงที่ชอบเพศตรงข้ามและกลุ่มชายรักชาย
นอกจากนี้ การสำรวจจาก The Social Organisation of Sexuality: Sexual Practices in the United States ยังพบว่าผู้ชาย 2 ใน 3 (หรือประมาณ 66 เปอร์เซ็นต์) ช่วยตัวเองเพื่อสำเร็จความใคร่ ในขณะที่ผู้หญิงมีเพียง 40 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ช่วยตัวเอง
อาหารเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ
อาหารเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ เป็นเรื่องหนึ่งซึ่งถูกพูดถึงมาโดยตลอดในสังคมผู้ชาย อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลทางคลินิกชี้ชัดว่าอาหารมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับความต้องการทางเพศ หรือเพิ่มความต้องการทางเพศได้ แต่การศึกษาหลายชิ้นบอกว่าฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ซึ่งเกี่ยวข้องกับความต้องการทางเพศในผู้ชาย ถูกกระตุ้นได้ด้วยธาตุสังกะสีและวิตามินบี ซึ่งพบได้ทั่วไปในอาหารหลาย ๆ อย่าง เช่น อะโวคาโด แตงโม บร็อคโคลี่ หอยนางรม
ความต้องการทางเพศและเทสโทสเตอโรน
แม้เทสโทสเตอโรนจะมีความเกี่ยวข้องกับความต้องการทางเพศในผู้ชาย แต่ภาวะเทสโทสเตอโรนต่ำอาจไม่เกี่ยวข้องกับความต้องการที่ลดลงเสมอไป ผู้ชายบางคนอาจยังรู้สึกถึงความต้องการทางเพศได้ แม้ระดับเทสโทสเตอโรนอยู่ในระดับต่ำ ในขณะที่บางราย แม้มีระดับเทสโทสเตอโรนอยู่ในระดับปกติ ก็อาจมีความต้องการน้อยลง
การศึกษาผู้ชายในรัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า ผู้ชายที่บอกว่าไม่มีความต้องการทางเพศเลย มีเพียง 28 เปอร์เซ็นต์จากทั้งหมดที่พบว่ามีเทสโทสเตอโรนอยู่ในระดับต่ำ
ประโยชน์ของการมีเพศสัมพันธ์บ่อย ๆ
การมีเพศสัมพันธ์บ่อย อาจมีประโยชน์ ดังนี้
- ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายทำงานได้ดี นักวิจัยแห่ง Wilkes University ในสหรัฐอเมริกา พบว่านักศึกษาที่มีเพศสัมพันธ์ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ อาจมีระดับแอนติบอดี (Antibody) หรือภูมิคุ้มกันของร่างกายสูงกว่าคนที่มีเพศสัมพันธ์น้อยกว่า
- ช่วยให้นอนหลับดีขึ้น เนื่องการถึงจุดสุดยอด ทำให้ร่างกายมนุษย์หลั่งฮอร์โมนโปรแลคติน (Prolactin) ที่ช่วยในการนอนหลับ
- ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ โดยการมีเพศสัมพันธ์ทุก ๆ 1 นาที สามารถเผาผลาญได้ประมาณ 5 แคลอรี่
- ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก งานวิจัยของ Journal of the American Medical Association ระบุว่า ความเสี่ยงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากจะลดลง หากผู้ชายหลั่งอสุจิประมาณ 21 ครั้งต่อเดือน
- ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ งานวิจัยของ The New England Research Institute พบว่าการมีเพศสัมพันธ์เป็นประจำอาจช่วยลดความเสี่ยงเกิดโรคหัวใจได้ประมาณ 45%
- ช่วยลดความเครียด เนื่องจากร่างกายมนุษย์จะหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกมีความสุขอย่าง โดพามีน (Dopamine) หรือออกซิโตซิน (Oxytocin) ออกมาระหว่างมีเพศสัมพันธ์ จึงอาจช่วยให้ผ่อนคลายและลดความเครียดได้
ความต้องการของผู้ชายที่ลดลง เกิดจากอะไร
ตามธรรมชาติ ความต้องการทางเพศของผู้ชายอาจลดลงตามวัย แต่ผู้ชายบางคนอาจยังสนใจเรื่องเพศได้ แม้ล่วงเข้าสู่วัย 60 หรือ 70 แล้ว
สำหรับปัจจัยอื่นที่อาจทำให้ความต้องการทางเพศในผู้ชายลดลง มีดังต่อไปนี้
- อาการป่วย เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ภาวะเทสโทสเตอโรนต่ำ โรคอ้วน เบาหวาน การหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
- โรคซึมเศร้า บางกรณี ยาต้านซึมเศร้าอาจเป็นสาเหตุของความต้องการทางเพศที่ลดลงได้เช่นกัน
- ยารักษาโรค เช่น ยากลุ่มเอซีอี อินฮิบิเตอร์ (ACE inhibitors) ซึ่งใช้รักษาผู้ป่วยความดันโลหิตสูง
- ความสัมพันธ์กับคู่รัก เช่น กรณีของคู่ที่อยู่ด้วยกันมานานจนชาชิน หรือคู่ที่กำลังมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้ง
- ความเครียด เนื่องจากทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ออกมา โดยฮอร์โมนชนิดนี้มีฤทธิ์กดฮอร์โมนเพศ ทำให้ความต้องการทางเพศในผู้ชายลดลง
- การดื่มแอลกอฮอล์มาเกินไป การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมาก ๆ เป็นประจำ ทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวยากขึ้นหรือแข็งตัวได้ไม่นานอย่างที่ควรจะเป็น อาจทำให้ความตื่นตัวหรือความต้องการทางเพศลดลง
- การสูบบุหรี่ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon Monoxide) ที่เกิดจากการสูบบุหรี่ ส่งผลให้ร่างกายผลิตเทสโทสเตอโรนลดลง และอาจส่งผลต่อระดับความต้องการทางเพศ
การดูแลตัวเอง เพื่อให้มีสุขภาพทางเพศที่ดี
หากผู้ชายมีความต้องการดูแลตัวเองเพื่อให้มีสุขภาวะทางเพศที่ดี มีเพศสัมพันธ์ได้บ่อยตามความต้องการ อาจสามารถทำได้ดังนี้
- กินอาหาร ที่อุดมไปด้วยธาตุสังกะสีและวิตามินบี
- ออกกำลังกายและควบคุมน้ำหนัก โรคอ้วนและโรคต่าง ๆ ที่อาจเกิดจากความอ้วน เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ความต้องการทางเพศลดลงได้
- สร้างสีสันในชีวิตคู่ เพื่อให้ชีวิตคู่ไม่จืดชืด มีความต้องการระหว่างกันอยู่เสมอ อาจเปลี่ยนบรรยากาศโดยการทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น ทำอาหาร ดูหนัง เพื่อกระชับความสัมพันธ์และความโรแมนติกก่อนการมีเพศสัมพันธ์
- เลิกบุหรี่ บุหรี่เป็นปัจจัยหนึ่งของการหย่อนสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย
- ลดความเครียด สามารถทำได้ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น นั่งสมาธิ พักผ่อนให้เพียงพอ ฟังเพลง
- พบคุณหมอ หากพบว่าความต้องการทางเพศลดลงอย่างผิดปกติ สามารถปรึกษาคุณหมอเพื่อรับคำแนะนำ