เทสโทสเตอโรน เป็นฮอร์โมนที่ส่งผลต่อลักษณะต่างๆ ของผู้ชาย เช่น เสียง กล้ามเนื้อ ขนบนใบหน้า ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง รักษาความแข็งแรงของกระดูก ช่วยการทำงานของสมอง รวมถึงยังอาจส่งผลต่ออารมณ์และสภาวะทางจิตใจได้อีกด้วย เมื่อภาวะฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำก็อาจส่งผลให้ ผู้ชาย อารมณ์แปรปรวน ได้ ดังนั้น การรู้ถึงสาเหตุของอารมณ์แปรปรวน อาจช่วยให้รับมือกับปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามมาได้
ผู้ชาย อารมณ์แปรปรวน เกิดจากอะไร
อารมณ์แปรปรวนอาจเป็นผลมาจากความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในผู้ชาย โดยทั่วไป อาจทำให้มีอาการหงุดหงิด อารมณ์เสียคล้ายกับผู้หญิง แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า อารมณ์แปรปรวนในผู้ชายมักมีลักษณะเด่นที่อารมณ์เศร้า และการปลีกตัวจากผู้คน ซึ่งอาจทำให้ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นอาการซึมเศร้าโดยทั่วไป แทนที่จะเป็นปัญหาของฮอร์โมนที่ลดลง นอกจากนี้ ความเครียดยังอาจทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลทำให้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำ
เมื่อ ผู้ชาย อารมณ์แปรปรวน ควรทำอย่างไร
เมื่อผู้ชายอารมณ์แปรปรวนและมีปัญหาฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำ อาจจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ดังนี้
จัดการความเครียด
ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำอาจมีความเชื่อมโยงกับความเครียด ซึ่งส่งผลทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลเพิ่มขึ้น ดังนั้น การจัดการกับความเครียดด้วยกิจกรรมที่ตัวเองชื่นชอบ เช่น เล่นดนตรี ฟังเพลง ออกกำลังกาย อาจช่วยทำให้ความเครียดลดลง ซึ่งอาจส่งผลให้ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนกลับมาปกติได้
ดูแลสุขภาพตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
หากฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนก็อาจส่งผลทำให้เกิดโรคอ้วน และอาจทำให้เกิดอารมณ์แปรปรวนได้ ดังนั้น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 150 นาที/สัปดาห์ หรือ 5 วัน/สัปดาห์ วันละ 30 นาที เช่น เดิน วิ่ง อาจช่วยทำให้ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนกลับมาปกติ นอกจากนี้ การนอนหลับให้เพียงพอ รวมถึงการลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาล ยังอาจช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้นได้อีกด้วย
พูดคุยกับคู่รัก
หากเกิดความเครียด และภาวะซึมเศร้า การพูดคุยกับคู่รักอาจช่วยบรรเทาอารมณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ ปัญหาฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำยังอาจส่งผลต่อความสามารถในการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ดังนั้น การพูดคุยกับคนรักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นอาจช่วยทำให้ความสัมพันธ์ของคู่รักไม่แย่ลง รวมถึงอาจช่วยทำให้เกิดความเข้าใจต่อกันมากขึ้น
เทสโทสเตอโรนบำบัด
สำหรับวิธีการรักษาด้วยเทสโทสเตอโรนบำบัด อาจช่วยทำให้ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนกลับมาปกติได้ ซึ่งอาจส่งผลทำให้อารมณ์แปรปรวนกลับมาปกติได้เช่นกัน ซึ่งเทสโทสเตอโรนบำบัดอาจทำได้หลายวิธี ดังนี้
- แบบรับประทาน เป็นเทสโทสเตอโรนในรูปแบบธรรมชาติ (Testosterone Undecanoate) ที่สามารถดูดซึมผ่านการรับประทานได้ โดยทั่วไปผู้ชายต้องรับประทานวันละ 160-240 กรัม แบ่งเป็น 2-4 โดส ควรรับประทานพร้อมอาหาร เพราะอาจช่วยเพิ่มการดูดซึมเทสโทสเตอโรน
- แบบฝัง ปกติจะฝังบริเวณสะโพกหรือก้น และค่อย ๆ ปล่อยเทสโทสเตอโรนเข้าสู่ร่างกายช้า ๆ โดยจะมีการเปลี่ยนใหม่ทุก 3 เดือน หรือ 6 เดือน
- ยาฉีด โดยจะฉีดเข้ากล้ามเนื้อทุก 7-14 วัน ระดับเทสโทสเตอโรนจะสูงขึ้นเป็นเวลา 2-3 วันหลังการฉีด แล้วจะค่อย ๆ ลดลง ซึ่งอาจทำให้อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ และอาจมีพลังวังชาเป็นช่วง ๆ
- ยาเม็ดสำหรับใช้ในปาก เป็นยาที่ใช้แปะติดกับเหงือกหรือกระพุ้งแก้ม วันละ 2 ครั้ง เทสโทสเตอโรนจะถูกดูดซึมเข้ากระแสโหลิต
- แผ่นแปะผิวหนัง โดยแปะไว 24 ชั่วโมงแล้วจึงเปลี่ยนแผ่นใหม่ มักแปะในตอนเย็น และค่อย ๆ ปล่อยฮอร์โมนปริมาณเล็กน้อยเข้าสู่ผิวหนัง
- เจลสำหรับทาบนผิว โดยล้างมือก่อนทาเจลทุกครั้ง จากนั้น ทาลงบนผิวบริเวณต้นแขนทั้ง 2 ด้าน ไหล่ หรือต้นขา แล้วปิดบริเวณที่ทายาด้วยผ้าสะอาดหรือผ้าก๊อซ เพื่อป้องกันไม่ให้สัมผัสกับเทสโทสเตอโรนจากแหล่งอื่น นอกจากนี้ ควรระวังไม่ให้ผู้หญิงหรือเด็กสัมผัสถูกเจล เพราะอาจเป็นอันตรายได้
ผู้ชายส่วนใหญ่จะรู้สึกดีขึ้นภายใน 4-6 สัปดาห์ เมื่อได้รับการบำบัดด้วยเทสโทสเตอโรน แต่การเปลี่ยนแปลงในเรื่องมวลกล้ามเนื้อ อาจต้องใช้เวลา 3-6 เดือน ถึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลง