การรักษาฝีมะม่วงในหญิงตั้งครรภ์
ในหญิงตั้งครรภ์ ควรได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะอิริโธรมัยซิน (Erythromycin) สำหรับยาอะซิโธรมัยซิน (Azithromycin) อาจใช้ได้เพียงแต่ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์รับรองอย่างเป็นทางการ ควรปรึกษาแพทย์ให้วินิจฉัยและทำการรักษา ไม่ควรซื้อยากินเอง
ทั้งนี้ หากผู้ที่เป็นฝีมะม่วงแล้วไม่เข้ารับการรักษา หรือรักษาไม่หายขาด อาจเกิดโรคแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายได้ เช่น โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ การติดเชื้อทางทวารหนัก โรคฝีคัณฑสูตรหรือฝีเรื้อรัง โรคเท้าช้าง โรคปอดอักเสบ โรคไวรัสตับอักเสบ
วิธีป้องกันฝีมะม่วง
เนื่องจากปัจจุบันนี้ยังไม่มีวัคซีนสำหรับป้องกันแบคทีเรีย ไมเดีย ทราโคมาติส ของฝีมะม่วง จึงจำเป็นต้องหาวิธีป้องกันเพื่อหลีกเลี่ยงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดนี้
- หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่เป็นโรค ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดฝีมะม่วงได้ดีที่สุด
- หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนคู่นอนบ่อย เพื่อลดโอกาสในการเกิดโรค
- สวมถุงยางอนามัยทุกครั้ง เพราะการสวมถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธีมีส่วนช่วยลด การเป็นฝีมะม่วงและป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ อีกด้วย
- ควรรักษาความสะอาดของอวัยวะเพศ หลังการร่วมเพศทันที การดื่มน้ำก่อนร่วมเพศและถ่ายปัสสาวะทันทีหลังร่วมเพศ หรือการฟอกสบู่ทันทีหลังร่วมเพศ อาจช่วยลดการติดเชื้อลง
- หมั่นออกกำลังกายและรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ
- เข้ารับการตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นประจำทุกปี อาจทำด้วยการตรวจปัสสาวะ การตรวจเลือด การทดสอบการปนเปื้อน (Swab Test) เป็นต้น
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย