การมีเพศสัมพันแล้วเลือดออก ทั้งที่ไม่ใช่ครั้งแรก อาจเป็นความผิดปกติของร่างกาย สะท้อนถึงอาการเจ็บป่วยที่กำลังก่อตัวอยู่ภายใน มีเลือดออกทางช่องคลอด สาเหตุแท้จริงแล้วเกิดจากอะไร
[embed-health-tool-ovulation]
มีเพศสัมพันแล้วเลือดออก
กรณีการมีเพศสัมพันแล้วเลือดออกในครั้งแรกนั้น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ โดยผู้หญิงที่มีเพศสัมพันแล้วเลือดออกจะเกิดจากเยื่อพรหมจารีขาด เกิดขึ้นได้ขณะสอดใส่อวัยวะเพศเข้าไปยังช่องคลอด อาการนี้เรียกว่า ภาวะเลือดออกกะปริบกะปรอย เกิดขึ้นแล้วหายได้เอง แต่การมีเพศสัมพันแล้วเลือดออกในครั้งแรกนั้น ใช่ว่าทุกคนจะเกิดภาวะนี้ เพราะบางคนอาจไม่มีเยื่อพรหมจารีตั้งแต่เกิด หรือเกิดการขาดไปแล้วจากการเล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมผาดโผน
สาเหตุที่มีเพศสัมพันแล้วเลือดออก
การมีเพศสัมพันแล้วเลือดออก สามารถเกิดขึ้นได้ สำหรับอาการของเลือดออกที่ไม่เป็นอันตราย เช่น
- ช่องคลอดแห้งขณะมีเพศสัมพัน : เนื่องจากน้ำหล่อลื่นมีไม่มาก เมื่อช่องคลอดแห้งแล้วมีการสอดใส่อวัยวะเพศ ก็อาจทำให้เลือดออกและอาจรู้สึกเจ็บช่องคลอดได้
- การมีเพศสัมพันอย่างรุนแรง : หากมีเพศสัมพันแล้วเลือดออก อาจเกิดจากการมีเพศสัมพันรุนแรงเกินไป หรือใช้อุปกรณ์อื่นในการร่วมเพศ อาจส่งผลให้เส้นเลือดช่องคลอดฉีกขาด ถ้ามีเลือดออกจำนวนมาก ควรรีบไปโรงพยาบาล
- อาจมีเลือดประจำเดือนตกค้าง : ให้สังเกตลักษณะของเลือด ถ้าเป็นเลือดประจำเดือนตกค้าง สีจะออกแดงคล้ำ ๆ เหมือนเลือดเก่า เป็นไปได้ว่ามีประจำเดือนค้างในช่องคลอดหรือปากมดลูก
เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด
การเกิดเลือดออกทางช่องคลอด โดยไม่ได้อยู่ในช่วงที่มีประจำเดือน อาจมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- ความผิดปกติของฮอร์โมน : ผู้หญิงในวัยที่เพิ่งเริ่มมีประจำเดือนหรือวัยใกล้หมดประจำเดือนมักมีภาวะฮอร์โมนแปรปรวน ก็เป็นสาเหตุของเลือดออกผิดปกติได้
- ภาวะเกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ : เป็นสัญญาณของการเริ่มตั้งครรภ์ อาจมีเลือดซึมหรือเลือดออกทางช่องคลอดในช่วง 12 สัปดาห์แรกได้
- การติดเชื้อ : สาเหตุของการติดเชื้อ เช่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การสวนล้างช่องคลอด และการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน ก่อให้เกิดการอักเสบและมีเลือดออก เพราะการติดเชื้อในอวัยวะเพศอาจเกิดแผลในช่องคลอด เมื่อมีการเสียดสีขณะมีเพศสัมพันธ์ อาจทำให้เลือดออกได้
- มีความเครียดมากเกินไป : ความเครียดจากปัญหาชีวิต การทำงาน อาจส่งผลให้มีเลือดออกผิดปกติได้ นอกจากนี้ ความเครียด การนอนดึก และความอ้วน ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ฮอร์โมนแปรปรวนได้เช่นกัน
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม : ส่งผลให้มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดได้
- ความผิดปกติเกี่ยวกับมดลูก : มีเนื้องอกในมดลูก เยื่อบุในโพรงมดลูกมีความผิดปกติ รวมถึงการติดเชื้ออักเสบของปากมดลูก และการมีแผลฉีกขาดในช่องคลอดด้วย
- เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ : มีเลือดออกทางช่องคลอดร่วมกับอาการอื่นที่ต้องสังเกต เช่น เจ็บในอุ้งเชิงกราน ปวดประจำเดือนมากผิดปกติ หรือท้องเสียบ่อย ๆ ช่วงมีประจำเดือน
- ช่องคลอดอักเสบ : การมีเพศสัมพันแล้วเลือดออก มีเลือดสีแดงสดไหลออกมา บ่งบอกว่า ช่องคลอดมีการอักเสบหรือมีแผลบริเวณปากช่องคลอด
สัญญาณอันตรายโรคมะเร็ง
การมีเลือดออกทางช่องคลอดเป็นสัญญาณเตือนโรคมะเร็งได้ เช่น โรคมะเร็งมดลูกและโรคมะเร็งปากมดลูก ควรสังเกตอาการอื่นร่วมด้วย เช่น
- มีเลือดออกจากช่องคลอดผิดปกติ
- เลือดออกเวลามีเพศสัมพันธ์
- ปวดในช่องคลอดขณะมีเพศสัมพันธ์
- ตกขาวมีเลือดหรือหนองปน
- ช่องคลอดมีกลิ่นผิดปกติ
การมีเพศสัมพันแล้วเลือดออก อาจเป็นหนึ่งในสัญญาณอันตราย เมื่อพบว่าเลือดออกบ่อย ๆ มีอาการอื่นร่วมด้วย ควรรีบพบคุณหมอเพื่อรับการรักษา