backup og meta

ยาฮอร์โมนเพศหญิง มีประโยชน์และข้อควรระวังอย่างไร

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงอรกนิษฐา อรุณาทิตย์ · สูตินรีเวชวิทยา · โรงพยาบาลสุขุมวิท


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 24/04/2023

    ยาฮอร์โมนเพศหญิง มีประโยชน์และข้อควรระวังอย่างไร

    ยาฮอร์โมนเพศหญิง มีส่วนประกอบของฮอร์โมนเพศหญิงอย่าง เอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ที่ใช้เพื่อรักษาปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของฮอร์โมนเพศหญิง อย่างไรก็ตาม ยาฮอร์โมนเพศหญิงก็อาจมีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ดังนั้นจึงควรศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์และผลข้างเคียงให้ดี รวมถึงปรึกษาคุณหมอก่อนใช้ยา

    ยาฮอร์โมนเพศหญิง คืออะไร

    ยาฮอร์โมนเพศหญิง คือ ยาที่ส่วนประกอบของฮอร์โมนเพศหญิง เช่น เอสโตรเจน โปรเจสเตอโรน ใช้ในกระบวนการฮอร์โมนบำบัดเพื่อรักษาความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเพศหญิงและวัยหมดประจำเดือน เช่น ประจำเดือนมาไม่ปกติ อาการร้อนวูบวาบ ภาวะช่องคลอดแห้ง อารมณ์แปรปรวน เหนื่อยล้าง่าย

    ประเภทของยาฮอร์โมนเพศหญิง

    ยาฮอร์โมนเพศหญิงแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

    • ยาฮอร์โมนเอสโตรเจน หมายถึงยาที่มีส่วนประกอบหลักเป็นฮอร์โมนเอสโตรเจนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
    • ยาฮอร์โมนโปรเจสติน หมายถึงยาที่มีส่วนประกอบหลักเป็นฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนแบบสังเคราะห์เท่านั้น เท่านั้น
    • ยาฮอร์โมนรวม หมายถึงยาที่มีส่วนประกอบของฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโปรเจสติน (Progestin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสังเคราะห์

    อย่างไรก็ตาม ประเภทของยาฮอร์โมนเอสโตรเจนยังสามารถแบ่งออกตามรูปแบบของยา ดังนี้

    • ยาเม็ดสำหรับรับประทาน มีทั้งในรูปแบบของยาฮอร์โมนเอสโตรเจนเพียงอย่างเดียว ฮอร์โมนโปรเจสตินเพียงอย่างเดียว และยาฮอร์โมนรวม
    • แผ่นแปะผิวหนัง มีทั้งในรูปแบบของยาฮอร์โมนเอสโตรเจนเพียงอย่างเดียวและยาฮอร์โมนรวม
    • ครีมทาผิว มีในรูปแบบของยาฮอร์โมนเอสโตรเจนเพียงอย่างเดียว
    • ห่วงคุมกำเนิด มีในรูปแบบของยาฮอร์โมนโปรเจสตินเพียงอย่างเดียว
    • ยาเหน็บช่องคลอด มีในรูปแบบของยาฮอร์โมนเอสโตรเจนเพียงอย่างเดียว
    • สเปรย์พ่น มีในรูปแบบของยาฮอร์โมนเอสโตรเจนเพียงอย่างเดียว

    ประโยชน์ของยาฮอร์โมนเพศหญิง

    ยาฮอร์โมนเพศหญิงอาจมีประโยชน์สำหรับการบรรเทาอาการที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเพศหญิงในวัยหมดระดู ดังนี้

    • อารมณ์แปรปรวน
    • วิตกกังวล
    • อาการร้อนวูบวาบ
    • ภาวะช่องคลอดแห้ง
    • ผิวแห้ง อาการคันที่ผิวหนัง
    • ปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ
    • เหงื่อออกตอนกลางคืน
    • ปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในผู้หญิง

    นอกจากนี้ ยาฮอร์โมนเพศหญิงยังอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน ลดการสูญเสียมวลกระดูก บรรเทาอาการปวดข้อต่อ และอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย

    ข้อควรระวังเกี่ยวกับการใช้ยาฮอร์โมนเพศหญิง

    การใช้ยาฮอร์โมนเพศหญิงอาจส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงดังต่อไปนี้

  • ปวดหัว
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • ท้องเสีย
  • ท้องอืด ท้องเฟ้อ
  • ปวดท้อง
  • สิว
  • อาจมีความอยากอาหารมากขึ้นหรือลดลง
  • ประจำเดือนมาผิดปกติ เลือดออกจากช่องคลอดแบบกะปริบกะปรอย
  • ความต้องการทางเพศเปลี่ยนแปลง
  • อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อลิ่มเลือดและโรคหลอดเลือดสมอง
  • อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะและนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
  • อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งเต้านม
  • อย่างไรก็ตาม หากเกิดอาการดังต่อไปนี้ ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อรับการตรวจและวินิจฉัยในทันทีเนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

    • มองเห็นภาพซ้อน
    • ดวงตาและผิวหนังเป็นสีเหลือง
    • เบื่ออาหาร
    • มีเลือดออกผิดปกติ
    • ปวดท้องอย่างรุนแรง
    • มีผดผื่น
    • มีไข้สูง
    • เหนื่อยล้า ไม่มีแรง
    • ปัสสาวะสีเข้มและอุจจาระสีอ่อน

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    แพทย์หญิงอรกนิษฐา อรุณาทิตย์

    สูตินรีเวชวิทยา · โรงพยาบาลสุขุมวิท


    เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 24/04/2023

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา