backup og meta

ยาคุมรักษาสิว ได้จริงหรือไม่

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงอัญชิสา กาญจโนมัย · โรคผิวหนัง · พรเกษมคลินิก


เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 31/05/2022

    ยาคุมรักษาสิว ได้จริงหรือไม่

    สิว เป็นภาวะทางผิวหนังที่พบได้ในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย พบได้บ่อยในช่วงวัยรุ่น และผู้ใหญ่ที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน สิวมีหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นสิวหัวดำ สิวอักเสบ สิวผด เป็นต้น การปรับฮอร์โมนในร่างกาย ด้วย ยาคุมรักษาสิว เป็นอีกหนึ่งวิธีที่อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดสิวได้

    ยาคุมรักษาสิว ได้จริงหรือไม่

    การเปลี่ยนแปลงหรือความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกายเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้เกิดสิว หากมีฮอร์โมนเพศชายอย่างแอนโดรเจน (Androgen) สูงไป อาจกระตุ้นให้ต่อมน้ำมันใต้ผิวหนังผลิตน้ำมันมากเกินไป อีกทั้งเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วและแบคทีเรีย อาจสะสมและเจริญเติบโตบนผิวหนัง จนนำไปสู่การเกิดสิวขึ้น การรับประทานยาคุมกำเนิดที่ประกอบไปด้วยฮอร์โมนเพศหญิงอย่างเอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสเตอโรน (Progesterone) จึงอาจช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนเพศ ลดปริมาณการผลิตแอนโดรเจนในร่างกาย และลดความเสี่ยงในการเกิดสิวได้ โดยยาคุมกำเนิดมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด และมีโครงสร้างทางเคมีที่แตกต่างกัน ดังนี้

    • ยาคุมชนิดดรอสไพริโนนและเอทินิลเอสตราไดออล มีส่วนประกอบของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสติน (ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสังเคราะห์) ใช้สำหรับรักษาสิวระดับปานกลาง ทั้งนี้ ยาคุมที่มีส่วนประกอบของดรอสไพริโนน อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตัน จึงควรปรึกษาคุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญทุกครั้งก่อนใช้ยา
    •  ยาคุมชนิดนอร์อิทินโดรนและเอทินิลเอสตราไดออล มีส่วนประกอบของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสตินที่เรียกว่า “นอร์อิทินโดรน” (Norethindrone) ใช้รักษาสิวระดับปานกลาง 
    • ยาคุมชนิดนอร์อิทินโดรนและเอทินิลเอสตราไดออล มีส่วนประกอบของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสตินที่เรียกว่า “นอร์เจสทิเมท” (Norgestimate) เป็นฮอร์โมนสังเคราะห์ชนิดเม็ดที่ใช้รักษาสิวระดับปานกลางและคุมกำเนิด

    เพื่อความปลอดภัย ควรขอคำแนะนำจากคุณหมอก่อนตัดสินใจรับประทานยาคุมรักษาสิว เพราะการรักษาสิว หรือการเลือกชนิดยาคุมรักษาสิวอาจแตกต่างกันไป ตามสภาพผิวและประเภทสิวที่เกิดขึ้นกับแต่ละบุคคล

    ประโยชน์ของการใช้ยาคุมรักษาสิว

    การรับประทานยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวม อาจให้ประโยชน์ในการรักษาสิว ดังนี้

    • สิวผดลดลง
    • การเกิดสิวลดลง 
    • ลดอาการอักเสบของสิว

    หากต้องการได้รับประโยชน์จากการรับประทานยาคุมรักษาสิว ควรรับประทานยาคุมให้ตรงเวลา ควบคู่กับการรักษาสิวภายนอกตามคำแนะนำของคุณหมอ เนื่องจากยาคุมอาจช่วยบรรเทาสาเหตุของการเกิดสิวได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น

    ผลข้างเคียงการใช้ ยาคุมรักษาสิว

    การใช้ยาคุมกำเนิดรักษาสิวอาจส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงต่อสุขภาพ ดังต่อไปนี้

    • อารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้า
    • ปวดศีรษะ เป็นไมเกรน
    • ประจำเดือนผิดปกติ
    • น้ำหนักเปลี่ยนแปลง

    อาการรุนแรงจากการใช้ยาคุมที่ควรเข้ารับการรักษาทันที

    • หายใจลำบาก
    • เจ็บหน้าอก
    • ปวดศีรษะเฉียบพลัน และมีอาการปวดรุนแรง
    • การมองเห็นเปลี่ยนแปลงไป
    • ปวดท้อง
    • ปวดขา ขาบวม
    • ความดันโลหิตสูง
    • ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ และหลอดเลือด เช่น โรคหลอดเลือดในสมอง หัวใจวาย

    ผู้ที่ไม่เหมาะใช้ยาคุมรักษาสิว

    ผู้ที่ไม่ควรรับประทานยาคุมกำเนิด เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงรุนแรง มีดังนี้

    • ผู้ที่มีการสูบบุหรี่มานานเกินกว่า 30 ปี
    • ผู้ที่มีภาวะอ้วน หรือน้ำหนักเกินมาตรฐาน
    • หญิงตั้งครรภ์ และหญิงที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร
    • ผู้ที่มีประวัติของโรคต่าง ๆ เช่น ไมเกรน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ลิ่มเลือดอุดตันในปอด โรคเบาหวาน โรคตับ โรคมะเร็ง ภาวะการแข็งของเลือดผิดปกติ

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

    แพทย์หญิงอัญชิสา กาญจโนมัย

    โรคผิวหนัง · พรเกษมคลินิก


    เขียนโดย จินดารัตน์ สิริวิจักษณ์ · แก้ไขล่าสุด 31/05/2022

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา