บทความนี้ Hello คุณหมอ จะพาทุกคนมาดูข้อแตกต่างระหว่าง หนองในเทียม และ หนองในแท้ แบบเข้าใจง่าย กันค่ะ จะมีลักษณะอาการที่แตกต่างกันอย่างไร และจะมีวิธีการป้องกันอย่างไรบ้าง ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ในบทความ เลยค่ะ
หนองในเทียม และ หนองในแท้ แตกต่างกันอย่างไร
หนองในเทียม และ หนองในแท้มีข้อแตกต่างกัน ดังต่อไปนี้
สาเหตุ
- หนองในเทียม (Non Gonococcal Urethritis) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อเรียกว่า คลามัยเดีย ทราโคมาทิส (Chlamydia trachomatis)
- หนองในแท้ (Gonorrhoea) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อเรียกว่า ไนซ์ซีเรีย โกโนร์เรีย (Neisseria gonorrhea)
ระยะการฟักตัว
- หนองในเทียม มีระยะการฟักตัวค่อนข้างนาน โดยส่วนใหญ่มักมีระยะการฟักตัวมากกว่า 1-3 สัปดาห์
- หนองในแท้ มีระยะการฟักตัวค่อนข้างสั้น โดยส่วนใหญ่มักมีระยะการฟักตัวภายใน 1-5 วัน
อาการของโรคหนองใน
- อาการโรคหนองในเทียมในเพศชาย ในระยะแรก ๆ ผู้ป่วยจะรู้สึกคันที่บริเวณท่อปัสสาวะ และมีน้ำสีใส ๆ หรือขุ่น ๆ ไหลออกมาจากปลายองคชาต
- อาการโรคหนองในแท้ในเพศชาย ผู้ป่วยจะรู้สึกแสบขณะปัสสาวะ ลูกอัณฑะและองคชาตมีอาการบวม
- อาการโรคหนองในเทียมในเพศหญิง มีอาการคัน ตกขาว และรู้สึกแสบขณะปัสสาวะ
- อาการโรคหนองในแท้ในเพศหญิง มีตกขาวในปริมาณมาก และรู้สึกปวดแสบขณะปัสสาวะ นอกจากนี้อาจมีเลือดออกมาทางช่องคลอดระหว่างช่วงเวลา เช่น หลังมีเพศสัมพันธ์
วิธีการรักษา
- วิธีการรักษาโรคหนองในเทียม แนะนำให้ใช้ยาปฏิชีวนะ เช่น กลุ่มเอซิโธรมัยชิน (Azithromycin) ยากลุ่มด็อกซีไซคลิน (Doxycycline)
- วิธีการรักษาโรคหนองในแท้ แนะนำให้ฉีดยาเซฟไตรอะโซน (Ceftriaxone) กลุ่มเอซิโธรมัยซิน (Azithromycin)
เคล็ดลับง่าย ๆ ในการป้องกันโรคหนองใน
วิธีง่าย ๆ ในการป้องกันโรคหนองใน มีดังต่อไปนี้
- สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งก่อนมีเพศสัมพันธ์
- หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ
- หากคู่นอนของคุณมีอาการของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น รู้สึกปวดแสบขณะปัสสาวะ หรือมีผื่นที่อวัยวะเพศ ให้หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ทันที
- ตรวจสอบให้มั่นใจว่าคู่นอนของคุณไม่มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
- ตรวจสุขภาพประจำปี
วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคหนองใน คือ การสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งก่อนมีเพศสัมพันธ์ และหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ นอกจากนี้คุณและคู่นอนควรพากันไปตรวจโรคเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
[embed-health-tool-ovulation]