backup og meta

อาการประจําเดือนใกล้มา สังเกตได้อย่างไร

อาการประจําเดือนใกล้มา สังเกตได้อย่างไร

อาการประจําเดือนใกล้มา อาจสังเกตได้จากอาการอารมณ์แปรปรวน ปวดท้องเกร็ง หรือเจ็บเต้านม ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง แต่ขณะเดียวกันก็อาจส่งผลกระทบต่อการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำได้ การศึกษาเกี่ยวกับอาการประจำเดือนใกล้มา และวิธีบรรเทาอาการ จึงอาจช่วยให้สามารถรับมือกับสุขภาพของร่างกายเมื่อมีประจำเดือนได้ดีมากขึ้น

[embed-health-tool-ovulation]

ประจำเดือน คืออะไร

ประจำเดือน คือ เลือดและเยื่อบุโพรงมดลูกที่ไหลออกทางช่องคลอด ซึ่งเกิดจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ที่มีหน้าที่ในการควบคุมการตกไข่เพิ่มขึ้น เพื่อช่วยกระตุ้นให้รังไข่ปล่อยไข่ออกมา และทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมต่อการฝังตัวของตัวอ่อนที่เกิดจากการปฏิสนธิของอสุจิและไข่ เกิดเป็นการตั้งครรภ์ แต่หากไม่มีการตั้งครรภ์ ระดับฮอร์โมนทั้งสองจะลดลง ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหลุดลอกและไหลออกมาเป็นประจำเดือน ซึ่งในช่วงของการตกไข่นั้น บางคนอาจมีอาการก่อนประจำเดือน ที่เป็นสัญญาณเตือนเพื่อให้ทราบว่าประจำเดือนใกล้มาแล้ว

อาการประจําเดือนใกล้มา มีอะไรบ้าง

อาการประจําเดือนใกล้มา อาจสังเกตได้ดังนี้

  • เจ็บเต้านม เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน โปรเจสเตอโรน และโปรแลคติน (Prolactin) ในช่วงหลังตกไข่ไปจนถึงช่วงที่ประจำเดือนมา อาจส่งผลให้เกิดอาการเต้านมขยาย และเจ็บเต้านมเมื่อสัมผัสหรือเสียดสีกับเสื้อผ้า
  • ปวดศีรษะ อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้มีอาการปวดศีรษะหรือมีแนวโน้มที่จะเป็นไมเกรนก่อนประจำเดือนมา
  • นอนไม่หลับหรือหลับยาก เพราะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน อาจทำให้ร่างกายรู้สึกเหนื่อยล้าง่าย อีกทั้งยังส่งผลให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้รู้สึกไม่สบายตัว นอนหลับยาก
  • อารมณ์แปรปรวน ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงอาจส่งผลให้เกิดอารมณ์แปรปรวน เดี๋ยวหงุดหงิด เดี๋ยวร้องไห้ เดี๋ยวโกรธ กลับไปกลับมา บางคนอาจมีอาการวิตกกังวลและซึมเศร้าร่วมด้วย
  • ปวดท้องเกร็ง อาจเกิดจากการที่กล้ามเนื้อมดลูกหดตัวเพื่อเตรียมขับเยื่อบุโพรงมดลูกออกมา ทำให้รู้สึกปวดท้องเกร็งบริเวณท้องส่วนล่างหรือท้องน้อย และอาจปวดต่อเนื่องไปจนถึงช่วงประจำเดือนใกล้หมดได้

นอกจากนี้ บางคนยังอาจมีอาการอื่น ๆ เช่น อาเจียน ปวดหลัง สิวขึ้น ผิวหนังอักเสบ ท้องผูก ท้องเสีย ท้องอืด ปัสสาวะน้อยลง ความอยากอาหารลดลงหรือเพิ่มขึ้น และแรงขับทางเพศลดลง

วิธีบรรเทาอาการประจำเดือน

ปกติแล้วอาการประจำเดือน มักจะหายได้เองหลังจากประจำเดือนมา แต่หากอาการเหล่านี้รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน อาจบรรเทาอาการด้วยวิธีดังต่อไปนี้

ยา

  • ยาแก้ปวด เช่น แอสไพริน (Aspirin) ไอบูโพรเฟน (Ibuprofen) นาพรอกเซน (Naproxen) ที่อาจช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ ปวดท้องเกร็ง ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ โดยควรรับประทาน 3 ครั้งละไม่เกิน 1-2 เม็ด หรือ 1,000 มิลลิกรัม เมื่อมีอาการ
  • ยากล่อมประสาท เช่น ยากลุ่มเอสเอสอาร์ไอ (SSRIs) เซอร์ทราลีน (Sertraline) ฟลูออกซิทีน (Fluoxetine) พาร็อกซีทีน (Paroxetine) ที่อาจช่วยบรรเทาอาการอารมณ์แปรปรวน ลดอาการซึมเศร้า วิตกกังวล ในช่วงก่อนประจำเดือนมา
  • ยาขับปัสสาวะ ซึ่งไม่ควรใช้ยาขับปัสสาวะเอง ต้องปรึกษาแพทย์เท่านั้น เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงเรื่องความดันโลหิตต่ำ หรือเกลือแร่ในเลือดผิดปกติได้
  • ยาคุมกำเนิด อาจใช้เพื่อช่วยหยุดการตกไข่ และอาจช่วยบรรเทาอาการก่อนประจำเดือนมาได้ แต่ควรขอคำปรึกษาจากคุณหมอก่อนรับประทาน

ารดูแลตัวเองเพื่อบรรเทาอาการประจําเดือนใกล้มา

  • ประคบร้อน อาจช่วยบรรเทาอาการปวดท้องเกร็ง โดยนำแผ่นทำความร้อนหรือถุงน้ำร้อน มาประคบบริเวณท้องน้อยเอาไว้ได้นานตามต้องการ อย่างไรก็ตาม ควรระวังการใช้ความร้อนหรือน้ำร้อนที่มี อุณหภูมิสูงมากเกินไป เพราะอาจส่งผลให้ผิวหนังไหม้หรือมีอาการแสบผิวได้
  • ออกกำลังกาย การออกกำลังกายในระดับเบา เช่น เดิน วิ่งเหยาะ ปั่นจักรยาน อาจช่วยลดระดับความเครียดและบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนได้
  • รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี หรืออาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของแคลเซียม เนื่องจากอาจมีส่วนช่วยบำรุงสุขภาพ ลดอาการซึมเศร้า และลดอาการปวดท้องประจำเดือนได้ นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง มีคาเฟอีน และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันอาการท้องอืด แน่นท้อง และอาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัว
  • ลดความเครียด ด้วยการทำกิจกรรมที่ชื่นชอบเพื่อเพิ่มความผ่อนคลาย เช่น ดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือ นอนหลับพักผ่อน เล่นเกม

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Amenorrhea. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/amenorrhea/symptoms-causes/syc-20369299.Accessed June 15, 2022

Overview-Periods. https://www.nhs.uk/conditions/periods/.Accessed June 15, 2022

Premenstrual syndrome (PMS). https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/premenstrual-syndrome/symptoms-causes/syc-203767800.Accessed June 15, 2022

Signs Your Period Is Coming. https://www.webmd.com/women/pms/signs-your-period-is-coming.Accessed June 15, 2022

PMS: Signs and Symptoms. https://www.webmd.com/women/pms/features/pms-signs-symptoms.Accessed June 15, 2022

Premenstrual Dysphoric Disorder (PMDD). https://www.hopkinsmedicine.org/health/conditions-and-diseases/premenstrual-dysphoric-disorder-pmdd.Accessed June 15, 2022

Menstrual cramps. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/menstrual-cramps/symptoms-causes/syc-20374938

เวอร์ชันปัจจุบัน

29/08/2022

เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงอรกนิษฐา อรุณาทิตย์

อัปเดตโดย: Duangkamon Junnet


บทความที่เกี่ยวข้อง

ประจำเดือนขาด เกิดจากอะไร รักษาได้อย่างไร

ประจำเดือนเป็นสีดำ ส่งผลอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่


ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

แพทย์หญิงอรกนิษฐา อรุณาทิตย์

สูตินรีเวชวิทยา · โรงพยาบาลสุขุมวิท


เขียนโดย ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน · แก้ไขล่าสุด 29/08/2022

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา