แต๊บ (Taping) เป็นวิธีการพับซ่อนอวัยวะเพศชายไว้ด้านหลังหรือระหว่างขาหนีบ ส่วนใหญ่แล้วการแต๊บจะทำเมื่อต้องการที่จะแต่งหญิงให้แนบเนียน อย่างไรก็ตาม การแต๊บอาจทำให้รู้สึกไม่ค่อยสบายตัวนัก ดังนั้น ควรลองทำอยู่ที่บ้านก่อนสัก 2-3 ครั้ง เพื่อให้เกิดความเคยชิน หากรู้สึกเจ็บควรหยุดทันที และไม่แนะนำให้ทำต่อ
แต๊บ มีวิธีอย่างไร
การแต๊บอาจจะทำให้รู้สึกไม่ค่อยสบายตัวนัก แต่ว่าไม่ทำให้รู้สึกเจ็บปวด สิ่งสำคัญในระหว่างที่แต๊บ คือ ควรพยายามไม่ให้อวัยวะเพศเคลื่อนไหว แต่หากรู้สึกไม่สบาย ควรหยุดแล้วค่อยกลับมาทำใหม่ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะแต๊บออกไปข้างนอกควรลองทำอยู่ที่บ้านก่อนสัก 2-3 ครั้งเพื่อให้เกิดความเคยชิน หากรู้สึกเจ็บควรหยุดทันที และไม่แนะนำให้ทำต่อ สำหรับวิธีการแต็บอาจทำได้ ดังนี้
- หาช่องว่างบริเวณขาหนีบ และค่อย ๆ พับอวัยวะเพศและถุงอัณฑะเข้าไปอย่างช้า ๆ และนุ่มนวล
- หลังจากนั้นค่อย ๆ ดึงอวัยวะเพศที่ระหว่างขา สอดเข้าไปที่ทางทวาร เสร็จแล้วก็แปะด้วยเทปกาว
สิ่งที่ควรทำและสิ่งที่ไม่ควรทำ เมื่อต้องแต๊บ
สำหรับสิ่งที่ควรทำ และสิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อต้องแต๊บ อาจมีดังนี้
สิ่งที่ควรทำ
- เลือกใช้สปอร์ตเทป เพราะสปอร์ตเทปออกแบบมาเพื่อใช้กับร่างกายและผิวหนังโดยเฉพาะ เมื่อใช้สปอร์ตเทปในการแต๊บอาจช่วยทำให้ความอึดอัดและไม่สบายตัวลดลง
- ลอกสปอร์ตเทปออกขณะอาบน้ำ เพราะจะช่วยให้ลอกออกได้ง่ายขึ้น เนื่องจากสปอร์ตเทปออกแบบมาเพื่อให้ติดทนกับผิวหนัง หากดึงออกขณะแห้งจะทำให้เกิดความเจ็บปวดอย่างมาก
- โกนขนบริเวณอวัยวะเพศ เพื่อลดความเจ็บขณะดึงเทปที่แปะอยู่ออก
- รักษาความสะอาดของอวัยวะเพศ และพยายามทำให้แห้งอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อของผิวหนังและการเกิดอาการคัน
สิ่งที่ไม่ควรทำ
- ไม่ควรแปะเทปเป็นระยะเวลานาน เพราะการแปะเทปตลอดเวลา อาจทำให้ผิวหนังแห้งและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- หากแพ้กาว ไม่ควรใช้เทปกาวในการแต๊บ เพราะอาจทำให้เกิดอาการแพ้
- ไม่ควรแปะเทปกาวจนแน่นจนเกินไป
การแต๊บ ส่งผลอย่างไรต่อสุขภาพ
สำหรับงานวิจัยเกี่ยวกับการแต๊บส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวอาจยังมีจำนวนไม่มาก แต่ความเสี่ยงอาจเกิดขึ้นได้ คือ การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ เพราะการแต๊บอาจทำให้ไม่สามารถปัสสาวะได้อย่างปกติ และหากแต๊บไว้เป็นเวลานาน ก็อาจมีการอั้นปัสสาวะจนส่งผลเสียต่อระบบปัสสาวะและไต
นอกจากนี้ การแต๊บยังอาจทำให้มีอาการบาดเจ็บของอวัยวะเพศและการเจ็บปวดของลูกอัณฑะ ที่สำคัญก่อนที่จะแต๊บควรตรวจสอบบริเวณที่จะแต๊บก่อนว่ามีแผลหรือรู้สึกเจ็บปวดหรือไม่ เพื่อลดและป้องกันการติดเชื้อ อีกหนึ่งผลการกระทบของการแต๊บ คือ ส่งผลต่ออสุจิ โดยปกติแล้วอสุจิจะเจริญเติบโตได้ดีเมื่ออยู่ในที่ที่อุณหภูมิต่ำกว่าอุณหภูมิร่างกาย แต่เมื่อมีการแต๊บจะทำให้อุณหภูมิบริเวรถุงอัณฑะเพิ่มขึ้นทำให้เกิดความเสี่ยงที่จะทำให้อสุจิน้อยลง และอสุจิอาจไม่แข็งแรงอีกด้วย