Priapism หรือ ภาวะองคชาตแข็งค้าง อาจเกิดขึ้นเมื่อเลือดไหลเวียนจากองคชาตกลับสู่หัวใจไม่ได้และคั่งค้างอยู่ในองคชาต ส่งผลให้องคชาตแข็งค้างเป็นเวลาหลายชั่วโมง โดยทั่วไปภาวะนี้ไม่ได้เกิดจากการกระตุ้นทางเพศ แต่อาจเกิดจากโรคเลือด การใช้ยารักษาโรค การใช้แอลกอฮอล์และสารเสพติด การบาดเจ็บที่องคชาต เป็นต้น ภาวะนี้เป็นภาวะอันตราย หากสังเกตว่าตัวเองมีอาการองคชาตแข็งค้างนานเป็นเวลาหลายชั่วโมง ร่วมกับมีอาการปวดมาก จึงควรไปพบคุณหมอเพื่อรับความช่วยเหลือให้เร็วที่สุด
[embed-health-tool-bmi]
Priapism คืออะไร
ไพรอาพิซึม คือ ภาวะองคชาตแข็งค้าง หรือ ภาวะอวัยวะเพศแข็งตัวค้าง หมายถึง ภาวะที่อวัยวะเพศชายบางส่วนหรือทั้งหมดแข็ง เกร็ง หรือค้างนานกว่าปกติ ไม่เข้าสู่ระยะอ่อนตัว เนื่องจากเลือดไม่สามารถไหลเวียนออกจากองคชาตกลับสู่หัวใจได้ ส่งผลให้รู้สึกเจ็บบริเวณองคชาต ความผิดปกติดังกล่าวสามารถพบได้ในผู้ชายทุกวัย ส่วนใหญ่จะพบในเด็กผู้ชายอายุ 5-10 ขวบ หรือในผู้ชายอายุ 20-50 ปี การแข็งตัวขององคชาตในลักษณะนี้ไม่ได้มาจากความต้องการทางเพศหรือการกระตุ้นทางเพศ และมักไม่สามารถทำให้ผ่อนคลายลงได้ด้วยการถึงจุดสุดยอด หากพบว่าองคชาตแข็งค้างติดต่อกันนานกว่า 4 ชั่วโมง ควรรีบไปพบคุณหมอทันที เพราะหากปล่อยไว้ อาจทำให้ขาดเลือด อักเสบ และเป็นอันตรายร้ายแรงได้
Priapism เกิดจากสาเหตุใด
ตามปกติแล้ว เมื่อถูกกระตุ้นทางเพศ หรือมีความต้องการทางเพศ องคชาตจะแข็งตัวและขยายใหญ่ขึ้น เนื่องจากมีเลือดดำคั่งอยู่ภายในองคชาต เมื่อการกระตุ้นจบลง เลือดจะไหลเวียนออกจากองคชาตและส่งผลให้องคชาตกลับมาอ่อนตัวลงตามปกติ
ในกรณีของภาวะองคชาตแข็งค้าง อาจเกิดจากการไหลเวียนของเลือดในบางบริเวณ เช่น หลอดเลือด กล้ามเนื้อเรียบ เส้นประสาท เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และส่งผลให้องคชาตแข็งตัวค้าง ทั้งนี้ สาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เกิดภาวะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ แต่อาจเกิดจากปัจจัยเสี่ยงหรือสิ่งกระตุ้นต่อไปนี้
โรคเลือด (Blood disorders)
โดยทั่วไป โรคเม็ดเลือดแดงรูปเคียว (Sickle-cell disease หรือ SCD) ซึ่งเป็นภาวะที่เม็ดเลือดแดงมีรูปทรงผิดปกติจึงหยืดหยุ่นได้ไม่ดี และอุดตันในเส้นเลือดตามบริเวณต่าง ๆ ถือเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดในเด็กผู้ชายที่เกิดภาวะนี้ นอกจากนี้ โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (Leukemia) โรคเกี่ยวกับความผิดปกติทางเม็ดเลือดอย่างโรคธาลัสซีเมีย (Thalassemia) และโรคมัลติเพิลมัยอีโลม่า (Multiple Myeloma) ก็อาจส่งผลให้เกิดภาวะ Priapism ได้เช่นกัน
ยารักษาโรคตามคำสั่งแพทย์
ภาวะองคชาตแข็งค้างอาจเป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยาต่อไปนี้
- ยาชนิดฉีดเข้าไปในองคชาตโดยตรงเพื่อรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เช่น อัลพรอสตาดิล (Alprostadil) ปาปาเวอรีน (Papaverine) เฟนโทลามีน (Phentolamine)
- ยาต้านเศร้า (Antidepressant) เช่น ฟลูออกซิทีน (Fluoxetine) บูโพรพิออน (Bupropion) ทราโซโดน (Trazodone) เซอทราลีน (Sertraline)
- ยากลุ่มแอลฟา-บล็อกเกอร์ (Alpha blockers) ที่ใช้รักษาความดันโลหิตสูง เช่น พราโซซิน (Prazosin) เทราโซซิน (Terazosin) โดซาโซซิน (Doxazosin) แทมซูโลซิน (Tamsulosin)
- ยารักษาโรควิตกกังวลหรือโรคจิตเวช เช่น ไฮดรอกซีซีน (Hydroxyzine) ริสเพอริโดน (Risperidone) โอลันซาปีน (Olanzapine) ลิเธียม (Lithium) โคลซาพีน (Clozapine) คลอโปรมาซีน (Chlorpromazine) ไธโอริดาซีน (Thioridazine)
- ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น วาร์ฟาริน (Warfarin) เฮพาริน (Heparin)
- ฮอร์โมนบางชนิด เช่น เทสโทสเตอโรน (Testosterone) โกนาโดโทรปิน รีลิสซิ่ง (Gonadotropin releasing hormone หรือ GnRH)
- ยาที่ใช้รักษาโรคสมาธิสั้น เช่น เมทิลเฟนิเดต (Methylphenidate) อะโทม็อกซีทีน (Atomoxetine)
แอลกอฮอล์และยาเสพติด
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมไปถึงการใช้สารเสพติด เช่น กัญชา โคเคน อาจทำให้เกิดภาวะองคชาตแข็งค้างได้ โดยเฉพาะอาการองคชาตแข็งค้างชนิดขาดเลือดซึ่งเป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด
การบาดเจ็บ
การบาดเจ็บขององคชาต หรือฝีเย็บ (อยู่ระหว่างทวารหนักและอัณฑะ) อาจทำให้เนื้อเยื่อหลอดเลือดฉีกขาด จนทำให้มีอาการองคชาตแข็งค้างชนิดไม่ขาดเลือด ส่งผลให้องคชาตมีอาการแข็งเกร็ง และค้างอยู่เช่นนั้นเป็นเวลาหลายชั่วโมง
ปัจจัยอื่น ๆ เช่น
- แมลงกัดต่อย
- โรคเกาต์
- โรคอะไมลอยด์โดสิส (Amyloidosis) เป็นโรคที่ร่างกายสร้างโปรตีนบางชนิดมากเกินไปทำให้อวัยวะทำงานผิดปกติ
- ความผิดปกติของระบบประสาท เช่น ไขสันหลังบาดเจ็บ การติดเชื้อซิฟิลิส
- โรคมะเร็งที่เกิดขึ้นบริเวณองคชาต
อาการของPriapism
อาการของภาวะองคชาตแข็งค้าง อาจแตกต่างกันไปตามประเภท ดังนี้
องคชาตแข็งค้างชนิดขาดเลือด (Ischemic Priapism) เกิดขึ้นเมื่อเลือดไม่สามารถไหลเวียนออกจากองคชาตได้และคั่งอยู่ภายในจนองคชาตแข็งค้าง เป็นประเภทที่ควรได้รับการรักษาทันทีเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการขาดออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงเนื้อเยื่อองคชาต ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศถาวรได้
สัญญาณและอาการที่พบ เช่น
- องคชาตแข็งตัวนานกว่า 4 ชั่วโมง หรือการแข็งตัวไม่เกี่ยวข้องกับการกระตุ้นทางเพศ
- แกนกลางขององคชาตแข็ง แต่ส่วนปลายคลายตัว
- อาการปวดองคชาตแย่ลงเรื่อย ๆ
องคชาตแข็งค้างชนิดไม่ขาดเลือด (Nonischemic Priapism) เกิดขึ้นเมื่อการไหลเวียนของเลือดในหลอดเลือดแดงขององคชาตผิดปกติ หรือองคชาตไม่สามารถหดตัวได้ แต่ยังคงมีเลือดและออกซิเจนไหลเวียนบริเวณองคชาตได้อยู่บ้าง มักเกิดจากการบาดเจ็บบริเวณองคชาต
สัญญาณและอาการที่พบ เช่น
- องคชาตแข็งตัวนานกว่า 4 ชั่วโมง หรือการแข็งตัวไม่เกี่ยวข้องกับการกระตุ้นทางเพศ
- แกนองคชาตตั้งตรงแต่ไม่แข็งตัวเต็มที่
- โดยทั่วไปแล้วไม่ทำให้มีอาการเจ็บ
การรักษา Priapism
การรักษาภาวะนี้อาจขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะดังกล่าว โดยทั่วไป คุณหมอจะมุ่งเน้นไปที่การลดอาการแข็งตัวขององคชาตและรักษาความสามารถในการแข็งตัวขององคชาตในอนาคต หากพบคุณหมอภายใน 4 ชั่วโมงแรก อาจรักษาด้วยการใช้ยาหดหลอดเลือด (Decongestant) ซึ่งอาจช่วยลดการไหลเวียนของเลือดไปยังองคชาตได้
นอกจากนี้ยังอาจรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น
- การเจาะเอาเลือดที่คั่งอยู่ในองคชาตออก คุณหมอจะฉีดยาชาที่องคชาตก่อน แล้วใช้เข็มเจาะระบายเลือดที่คั่งค้างอยู่ในองคชาตออก เพื่อลดแรงดันและอาการบวม
- การฉีดยาองคชาต คุณหมอจะฉีดยาที่ช่วยคลายกล้ามเนื้อและช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว โดยอาจใช้วิธีนี้หลังเจาะเอาเลือดออกแล้ว ส่วนใหญ่จะช่วยบรรเทาอาการให้ดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
- การผ่าตัด ใช้ในกรณีที่หลอดเลือดแดงแตก คุณหมอจะมัดหลอดเลือดแดงที่แตกจนเป็นสาเหตุให้ลิ่มเลือดอุดตัน เพื่อให้การไหลเวียนของเลือดกลับสู่ภาวะปกติ
สำหรับผู้ที่มีอาการเล็กน้อย เช่น อาการบาดเจ็บที่อวัยวะเพศหรือขาหนีบ คุณหมออาจวินิจฉัยด้วยการอัลตราซาวด์เพื่อยืนยันสาเหตุ หากพบว่าเป็นภาวะองคชาตแข็งค้างชนิดไม่ขาดเลือดจากการบาดเจ็บ อาจให้กลับบ้านโดยไม่ต้องรับการรักษาที่เฉพาะเจาะจงเหมือนกับภาวะองคชาตแข็งค้างชนิดขาดเลือด
หากองคชาตแข็งตัวนานผิดปกติ ในช่วงแรกอาจลองสังเกตอาการของตัวเองไปก่อน พร้อมกับดูแลตัวเองเบื้องต้นด้วยวิธีต่อไปนี้ โดยทั่วไป อาการจะดีขึ้นภายใน 2 ชั่วโมง
- ถ่ายปัสสาวะ
- อาบน้ำอุ่น
- ดื่มน้ำมาก ๆ
- เดินเบา ๆ
- กินยาแก้ปวด
- ไม่ประคบน้ำแข็งเพราะอาจทำให้อาการแย่ลง
- ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่หรือใช้ยาเสพติด ขณะมีอาการองคชาตแข็งค้าง
- ไม่มีเพศสัมพันธ์และช่วยตัวเอง ขณะมีอาการองคชาตแข็งค้าง
ทั้งนี้ หากมีอาการองคชาตแข็งค้างนานเกิน 2 ชั่วโมง ควรไปพบคุณหมอโดยเร็วที่สุด
ภาวะนี้สามารถป้องกันได้หรือไม่
ภาวะองคชาตแข็งค้างมักเกิดขึ้นฉับพลันและไม่อาจป้องกันได้ 100% แต่การหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงหรือสิ่งกระตุ้นดังที่กล่าวไปข้างต้น อาจช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะนี้ได้
‘Priapism’ ภาวะที่ควรไปพบคุณหมอโดยด่วน
ภาวะ Priapism เป็นภาวะที่ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้หรือรักษาด้วยตัวเอง เพราะหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมจากคุณหมอ อาจเสี่ยงเกิดแผลเป็นและภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศถาวรได้