คอลลาเจน (Collagen) จัดเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่สำคัญมากสำหรับร่างกาย โดยเฉพาะผิวหนัง เนื่องจากชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) ของคนเรา มีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบอยู่ถึง 80% คอลลาเจนช่วยให้ผิวหนังแข็งแรง ยืดหยุ่น และชุ่มชื้นอยู่เสมอ ร่างกายของเราสามารถผลิตคอลลาเจนเองได้ แต่เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายจะค่อย ๆ ผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง จนทำให้ผิวหนังอ่อนแอและเกิดปัญหาผิว เช่น ผิวหนังแห้ง เหี่ยวย่น และเกิดริ้วรอย ถึงแม้เราไม่อาจเปลี่ยนแปลงหรือหยุดกระบวนการตามธรรมชาติเหล่านี้ แต่เราก็สามารถชะลอปัญหาผิวเหล่านี้ได้ ด้วยการพยายาม เพิ่มคอลลาเจน ให้แก่ผิว ซึ่งสามารถทำได้ด้วยวิธีธรรมชาติเหล่านี้
กินผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี
การกินผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ฝรั่ง ส้ม สตรอว์เบอร์รี่ มะละกอ มะม่วง มะเขือเทศ บร็อคโคลี่ พริกหวาน กะหล่ำปลี ผักคะน้า เป็นประจำ สามารถช่วยกระตุ้นการ ผลิตคอลลาเจน ภายในร่างกายได้
นอกจากผักและผลไม้แล้ว คุณอาจเพิ่มวิตามินซีให้ร่างกายได้ด้วยอาหารเสริมวิตามินซี แต่ไม่ควรกินเกินวันละ 2,000 มิลลิกรัม เพราะอาจทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ เป็นต้น
กินอาหารที่มีโปรตีนสูง
กรดอะมิโน คือ สารประกอบอินทรีย์ที่ร่างกายต้องใช้ใน การผลิตคอลลาเจน พบได้ในอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อปลา ถั่วต่าง ๆ ไข่ไก่ ผลิตภัณฑ์จากนม การกินอาหารที่มีโปรตีนสูงจึงช่วยเพิ่มกรดอะมิโน ถือเป็นการกระตุ้นให้ร่างกาย ผลิตคอลลาเจน ได้ดีขึ้น
ลองเมนูน้ำต้มกระดูก
อาหารหลากหลายเมนูที่มีส่วนผสมของน้ำต้มกระดูก เช่น ต้มยำ ต้มข่าไก่ ก๋วยเตี๋ยว ต้มแซ่บกระดูกอ่อน ข้าวต้มปลา ราเมนต่างก็อุดมไปด้วยคอลลาเจนที่ช่วยให้ผิวสวยใส ยิ่งเป็นเมนูน้ำต้มกระดูกที่มีวิตามินซีสูงอย่าง ต้มแซ่บ ต้มยำ เป็นต้น ก็ยิ่งช่วย เพิ่มคอลลาเจน ให้ผิวได้เต็มที่
ลองกินโสม
ปัจจุบันโสมถูกแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์มากมาย เช่น อาหารเสริมโสมชนิดเม็ด น้ำโสมสกัดเข้มข้น ชาโสม ผลการศึกษาวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่า โสมเป็นพืชที่สามารถช่วยชะลอวัย และสามารถดูดซึมเข้าสู่ผิวหนังได้โดยไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงเหมือนยาที่ผลิตจากสารเคมี อีกทั้ง โสมยังมีส่วนช่วยในการ ผลิตคอลลาเจน ช่วยป้องกันผิวจากรังสียูวีบี และทำให้ผิวเปล่งประกาย
อย่างไรก็ตาม คุณไม่ควรบริโภคโสมติดต่อกันเกิน 3 เดือน เพราะการกินโสมมากเกินไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น นอนไม่หลับ ปวดศีรษะ วิงเวียนศีรษะ ปวดท้อง รวมไปถึงรอบเดือนแปรปรวนในผู้หญิง นอกจากนี้ ผู้ป่วยบางโรค เช่น โรคเบาหวาน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจกินโสม เพราะโสมอาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดได้
อย่ามองข้ามว่านหางจระเข้
เราต่างทราบกันดีอยู่แล้วว่า การทาว่านหางจระเข้ทั้งแบบเนื้อวุ้นสด และเจลว่านหางจระเข้ สามารถช่วยสมานแผล ลดการอักเสบ และบรรเทารอยไหม้จากแดดได้ นอกจากนี้ ยังมีผลการวิจัยที่ระบุว่า ว่านหางจระเข้ทั้งแบบทาและแบบกินสามารถช่วยกระตุ้นการ ผลิตคอลลาเจน ในผิว จึงช่วยให้ผิวดีขึ้นได้
เพิ่มวิตามินอีให้ผิว
วิตามินอีทั้งในอาหาร เช่น น้ำมัน อัลมอนด์ ผักปวยเล้ง ควินัว ปลาแซลมอน และในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินอี สามารถช่วยปกป้องคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวได้ อีกทั้งยังทำงานร่วมกับวิตามินซี ในการช่วย เพิ่มคอลลาเจน ให้กับผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ ชุ่มชื้น และกระชับ
เพิ่มกรดไฮยาลูรอนิค
กรดไฮยาลูรอนิค หรือไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เป็นกรดที่ร่างกายสามารถผลิตได้เองตามธรรมชาติ แต่จะผลิตได้น้อยลงเมื่ออายุมากขึ้น กรดชนิดนี้ถือเป็นสารชะลอวัยและเป็นส่วนประกอบสำคัญของ คอลลาเจนในผิว จากการศึกษาพบว่า การกินอาหารที่มีกรดไฮยาลูรอนิค เช่น เครื่องในสัตว์ ถั่วเหลือง มันเทศ มันฝรั่ง กะหล่ำปลี แครอท สามารถช่วยกระตุ้นการ ผลิตคอลลาเจน ในผิวได้ แต่ควรกินอาหารที่มีวิตามินซีให้เพียงพอด้วย ร่างกายจึงจะสามารถดูดซึมกรดไฮยาลูรอนิคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ออกกำลังกายเป็นประจำ
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่เพียงแต่จะช่วยป้องกันโรค แต่ยังช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี ช่วยปกป้อง คอลลาเจนในผิว และลดริ้วรอยต่าง ๆ ผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำจึงมีผิวพรรณเปล่งปลั่ง และดูอ่อนเยาว์
หลีกเลี่ยงตัวการทำลายคอลลาเจนในผิว
แน่นอนว่าเมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายของเราย่อม ผลิตคอลลาเจน ได้น้อยลง แต่นอกจากเสื่อมตามธรรมชาติแล้ว รูปแบบการใช้ชีวิตและสภาพแวดล้อม ก็ถือเป็นปัจจัยภายนอกซึ่งเป็นตัวการสำคัญทำให้ คอลลาเจนในผิว เสื่อมเร็วขึ้น ฉะนั้น หากคุณไม่อยากให้คอลลาเจนร่างกายและผิวพรรณถูกทำลายเร็วกว่าปกติ และไม่อยากให้การ เพิ่มคอลลาเจน ที่คุณทำมาเสียเปล่า ควรหลีกเลี่ยง ลด หรืองดปัจจัยเหล่านี้เสีย
- มลภาวะและอนุมูลอิสระ เพราะนอกจากจะทำให้คอลลาเจนลดลงแล้ว ยังทำให้ผิวขาดความยืดหยุ่นอีกด้วย
- การบริโภคน้ำตาล เนื่องจากน้ำตาลก่อให้เกิดสารที่เรียกว่า AGEs (Advanced. Glycation End-Products) ซึ่งเป็นตัวทำลายคอลลาเจนรวมไปถึงเส้นใยโปรตีนในผิวหนังอื่น ๆ ในผิวหนัง เช่น อีลาสติน เคราติน
- แสงแดด เนื่องจากรังสียูวีในแสงแดดเป็นตัวการทำลายคอลลาเจนในชั้นผิวหนังแท้ และทำให้เกิดริ้วรอยได้ คุณจึงควรทาครีมกันแดดทุกวัน เพื่อป้องกันผิวถูกแสงแดดและรังสียูวีทำร้าย
- การสูบบุหรี่ เพราะทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว อีกทั้งนิโคตินยังไปยับยั้งไม่ให้เลือดลำเลียงออกซิเจนและสารอาหารต่าง ๆ ไปยังผิวได้อย่างที่ควรด้วย
- คาเฟอีน เพราะมีผลการวิจัยที่ชี้ว่า การกินอาหารและเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชา ช็อกโกแลต น้ำอัดลม เป็นประจำจะไปขัดขวาง การผลิตคอลลาเจน ในผิว ทำให้ผิวแก่เร็ว และทำให้แผลที่ผิวหนังหายช้าลงอีกด้วย
[embed-health-tool-heart-rate]