น้ำยายืดผม มีข้อดีในการช่วยให้ผมที่ชี้ฟูและหยิกให้ตรงสวยเป็นเวลานาน หรือบางผลิตภัณฑ์อาจตรงอย่างถาวร อย่างไรก็ตาม น้ำยายืดผมอาจมีข้อเสียที่ทำให้ผมแห้ง เสีย แตกปลาย และผมขาดหลุดร่วง รวมทั้งมีสารอันตรายที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพและอาจเสี่ยงทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกได้ด้วย ดังนั้น ก่อนใช้น้ำยายืดผมจึงควรศึกษาถึงข้อดีและข้อเสียอย่างละเอียด เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจตามมา
[embed-health-tool-bmr]
น้ำยายืดผม มีข้อดีอย่างไร
น้ำยายืดผม มีหลายประเภทซึ่งอาจมีข้อดีที่แตกต่างกัน ดังนี้
- น้ำยายืดผมแบบธรรมดา เป็นการยืดผมถาวรที่ราคาถูกและใช้เวลาน้อยที่สุด อาจมีอายุการใช้งานยาวนานถึง 6 เดือน แต่น้ำยายืดผมชนิดนี้อาจทำลายรูขุมขนจนทำให้เส้นผมดูแข็ง และไม่คงรูปร่างตามธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังอาจทำให้ผมขาดหลุดร่วงและแตกปลาย
- น้ำยายืดผมเคราติน เป็นน้ำยายืดผมที่ช่วยปรับสภาพเส้นผม อาจช่วยทำให้ผมตรงได้นานแต่น้ำยายืดผมเคราตินอาจเป็นการยืดผมกึ่งถาวร เนื่องจากผมจะค่อย ๆ กลับสู่สภาพเดิมเมื่อน้ำยายืดผมเริ่มหายไปหลังจากทำประมาณ 4-6 เดือน
- น้ำยายืดผมแบบรีบอนดิ้ง (Rebonding) ช่วยจัดการกับผมชี้ฟูและช่วยให้ผมตรง ซึ่งผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน แต่น้ำยายืดผมจะมีส่วนผสมของฟอร์มัลดีไฮด์ (Formaldehyde) ที่อาจเสี่ยงทำให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพ เช่น ปัญหาระบบทางเดินหายใจ มะเร็งเต้านม
- น้ำยายืดผมแบบญี่ปุ่น (Japanese Straightening) เป็นน้ำยายืดผมที่ช่วยให้ผมจัดทรงง่ายและผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน แต่น้ำยายืดผมชนิดนี้อาจทำให้ผมเสียและน้ำยายืดผมยังมีสารอันตรายที่สามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านการหายใจและดูดซึมผ่านผิวหนัง
ข้อควรระวังในการใช้ น้ำยายืดผม
น้ำยายืดผมมีสารเคมีที่เป็นอันตรายหลายชนิดที่อาจส่งผลเสียต่ออวัยวะส่วนต่าง ๆ และอาจเป็นอันตรายร้ายแรงได้หากกลืนน้ำยายืดผมเข้าสู่ร่างกาย เช่น อาเจียน ชัก สับสน มึนงง หมดสติ และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยสารเคมีที่เป็นอันตรายในน้ำยายืดผม มีดังนี้
- แอมโมเนียม ไทโอไกลโคเลท (Ammonium Thioglycolate)
- น้ำมันแร่ (Mineral Oil)
- กัวนิดีนไฮดรอกไซด์ (Guanidine Hydroxide)
- โพลิเอทิลีนไกลคอล (Polyethylene Glycol หรือ PEG)
- โซเดียมไฮดรอกไซด์ (Sodium Hydroxide) หรือโซดาไฟ (Caustic Soda)
นอกจากนี้ ผู้หญิงที่ใช้น้ำยายืดผมบ่อยครั้งอาจมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกสูงขึ้น โดยมีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร National Institutes of Health เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2565 ศึกษาเกี่ยวกับสารเคมีในน้ำยายืดผมเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงมะเร็งมดลูกที่สูงขึ้น พบว่า ผู้หญิงที่ใช้น้ำยายืดผมที่มีสารเคมีบ่อยหรือประมาณ 4 ครั้ง/ปี มีความเสี่ยงสูงต่อมะเร็งมดลูกประมาณ 2 เท่า เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่ไม่ได้ใช้น้ำยายืดผม โดยประเมินได้ว่า 1.64 เปอร์เซ็นต์ ของผู้หญิงที่ไม่เคยใช้น้ำยายืดผมจะเป็นมะเร็งมดลูกเมื่ออายุประมาณ 70 ปี แต่สำหรับผู้หญิงที่ใช้น้ำยายืดผมบ่อย ๆ ความเสี่ยงนั้นจะสูงถึง 4.05 เปอร์เซ็นต์
อาการที่เกิดขึ้นจากสารเคมีในน้ำยายืดผม
อาการที่เกิดจากสารเคมีในน้ำยายืดผมเมื่อร่างกายได้รับเข้าไปในปริมาณมากเกินไปสามารถแสดงออกได้ในทุกส่วนของร่างกายทั้งตา หู จมูก คอ หัวใจ เลือด ปอด ผิวหนัง กระเพาะอาหาร และลำไส้ โดยอาจทำให้เกิดอาการ ดังนี้
- สูญเสียการมองเห็น
- ปวดคออย่างรุนแรง
- ปวดหรือแสบร้อนในจมูก ตา ริมฝีปาก หู หรือลิ้นอย่างรุนแรง
- ความดันโลหิตต่ำลงอย่างรวดเร็ว
- การเปลี่ยนแปลงของระดับกรดในเลือดอย่างรุนแรง ทำให้อวัยวะเสียหาย
- หายใจลำบาก คอบวม
- แสบร้อนผิว ความระคายเคือง
- เกิดรูใต้ผิวหนัง หรือเกิดเนื้อเยื่อเกินใต้ผิวหนัง
- อุจจาระมีเลือดปน
- แผลไหม้ในหลอดอาหาร
- ปวดท้องอย่างรุนแรง
- อาเจียนและอาจมีเลือดปน