ติ่งเนื้อเกิดจากอะไร อาจเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย ทั้งนี้ ติ่งเนื้อเป็นสภาพผิวหนังปกติที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่ออายุมากขึ้น หรือผิวหนังขยายตัวและเสียดสีกันจนเกิดเป็นติ่งเนื้อ มักปรากฏขึ้นบริเวณรอยพับของผิวหนัง เช่น ลำคอ ใต้ราวนม รักแร้ เปลือกตา ขาหนีบ แม้ติ่งเนื้อจะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่อาจทำให้ผิวหนังดูไม่สวยงามและอาจทำให้เสียความมั่นใจได้
[embed-health-tool-bmi]
ติ่งเนื้อเกิดจากอะไร
ติ่งเนื้อ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังชั้นบนสุดตามอายุ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย แต่อาจพบได้บ่อยในผู้ที่อายุ 30 ปีขึ้นไป ติ่งเนื้อจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้นหรืออาจเกิดขึ้นกับผู้ที่มีสภาพผิวหนังขยายออกจนเกิดรอยพับ เช่น ผู้หญิงตั้งครรภ์ ผู้มีน้ำหนักเกิน ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เนื่องจากผิวหนังบริเวณที่มีรอยพับ เช่น รักแร้ ขาหนีบ เปลือกตา ลำคอ ใต้ราวนม อาจทำให้ผิวหนังเสียดสีกันเองได้ง่าย
แม้ติ่งเนื้ออาจไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ก็อาจขยายใหญ่และทำให้มีอาการเจ็บปวดและคันได้ เมื่อติ่งเนื้อเสียดสีกับผิวหนัง เสื้อผ้าหรือเครื่องประดับ ดังนั้น ควรสวมใส่เสื้อผ้าหลวม ๆ นุ่ม โปร่งสบายเพื่อลดการเสียดสีที่อาจก่อให้เกิดความระคายเคือง หรืออาจเข้ารับการรักษาหากติ่งเนื้อก่อให้เกิดความกังวลใจและทำให้เสียความมั่นใจ
ลักษณะของติ่งเนื้อ
ติ่งเนื้ออาจมีลักษณะแตกต่างกันไป ดังนี้
- มีขนาดเล็กประมาณ 2 มิลลิเมตร หรืออาจใหญ่ถึง 10 มิลลิเมตร
- อาจเป็นก้อนติดกับผิวหนังหรือห้อยออกจากผิวหนัง
- มีเนื้อสัมผัสนุ่มและเรียบ
- มีสีเดียวกับสีผิวหรืออาจมีสีเข้ม
- มักพบบริเวณรอยพับผิวหนัง เช่น รักแร้ ข้อพับ ขาหนีบ ใต้ราวนม ลำคอ เปลือกตา
- ไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดหรือไม่สบายตัว เว้นแต่จะถูกเสียดสีอย่างรุนแรง
- ไม่เป็นโรคติดต่อและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่อาจทำให้เสียความมั่นใจ
โดยปกติ ติ่งเนื้อที่มีขนาดเล็กอาจไม่จำเป็นต้องรักษา แต่หากติ่งเนื้อมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และไม่หยุดการเติบโตหรือโตเร็วผิดปกติ มีการเปลี่ยนสี และมีอาการเจ็บปวด บวมแดงร่วมด้วย ควรเข้าพบคุณหมอเพื่อวินิจฉัยอาการทันทีและทำการรักษา เพราะอาจเป็นก้อนเนื้อร้ายที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
วิธีรักษาติ่งเนื้อ
ติ่งเนื้อไม่เป็นอันตรายและไม่กลายเป็นมะเร็ง เพียงแต่อาจทำให้ผิวหนังดูไม่สวยงามและอาจทำให้ทำให้เสียความมั่นใจ การกำจัดติ่งเนื้ออาจทำได้หลายวิธี ดังนี้
- การผ่าตัดด้วยการใช้มีดหรือกรรไกรตัดติ่งเนื้อ
- การรักษาด้วยความร้อน เช่น การจี้ไฟฟ้า การเลเซอร์
- การรักษาด้วยความเย็น เช่น ไนโตรเจนเหลว
- การผูกติ่งเนื้อ เพื่อให้เลือดหยุดไหลเวียนไปเลี้ยงติ่งเนื้อ เมื่อเวลาผ่านไปติ่งเนื้อจะค่อย ๆ แห้งและหลุดออกเอง
หลังการรักษาอาจมีแผลตื้นเล็กน้อย ควรรอให้แผลแห้งประมาณ 48 ชั่วโมง แล้วจึงค่อยทำความสะอาดด้วยสบู่และน้ำสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ นอกจากนี้ ควรทายาตามที่คุณหมอสั่งอย่างเคร่งครัดเพื่อช่วยสมานแผล สำหรับบางคนอาจต้องเข้าพบคุณหมอตามนัด เพื่อตรวจดูแผลหลังการผ่าตัด