ตีนกา เป็นหนึ่งในปัญหาผิวที่อาจเกิดขึ้นเมื่อมีการใช้กล้ามเนื้อบริเวณหางตาบ่อย ๆ รวมถึงการพักผ่อนไม่เพียงพอ และการสูบบุหรี่ ที่อาจกลายเป็นสาเหตุทำให้เกิดเป็นริ้วรอยเล็ก ๆ ขึ้นที่บริเวณหางตา รอยตีนกาสามารถจัดการได้ด้วยวิธีการดูแลผิวทางธรรมชาติ เช่น การพอกหน้า การใช้น้ำมันบำรุงผิว และด้วยวิธีทางการแพทย์ เช่น การฉีดฟิลเลอร์ นอกจากนี้ รอยตีนกายังอาจสามารถป้องกันได้ หากดูแลรักษาผิวอย่างถูกวิธี และหลีกเลี่ยงปัจจัยที่อาจนำไปสู่รอยตีนกา
[embed-health-tool-bmr]
ตีนกา คืออะไร
ตีนกา หรือรอยตีนกา (Crow’s feet) หมายถึงลักษณะริ้วรอยเส้นเล็ก ๆ ที่เกิดขึ้นบริเวณหางตา เนื่องจากกล้ามเนื้อส่วนนั้นถูกใช้บ่อยจากการแสดงอารมณ์ต่าง ๆ ซ้ำ ๆ เช่น การร้องไห้ การหัวเราะ การยิ้ม ประกอบกับการที่คอลลาเจน (Collagen) ใต้ชั้นผิวเริ่มเสื่อมสภาพ เนื่องจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น จนอาจทำให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า รวมถึงรอยตีนกาบริเวณหางตา
สาเหตุของการเกิดตีนกา
ตีนกา อาจเกิดจากสาเหตุ ดังต่อไปนี้
- การแสดงสีหน้าต่าง ๆ เช่น การยิ้ม การหัวเราะ การร้องไห้ รวมถึงพฤติกรรมอย่างการขยี้ตา ยิ่งหากทำบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ ก็จะยิ่งทำให้มีโอกาสเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย
- การพักผ่อนไม่เพียงพอ การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพออาจเป็นสาเหตุให้เกิดรอยตีนกา อีกทั้งยังอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพด้านอื่นด้วย การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ประมาณ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน อาจช่วยลดปัญหาเรื่องริ้วรอยตีนกา และทำให้ใบหน้าสดใสเปล่งปลั่งได้
- การสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่บ่อย ๆ อาจทำให้ร่างกายสูญเสียคอลลาเจนเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ผิวเหี่ยวย่นไว และเกิดเป็นรอยตีนกา นอกจากนี้ การสูบบุหรี่ยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพทั้งกับตัวเองและคนรอบข้างอีกด้วย
วิธีลดรอยตีนกาด้วยวิธีทางธรรมชาติ
โยเกิร์ต
ภายในโยเกิร์ตมีกรดแลคติก (Lactic acid) ซึ่งอาจสามารถช่วยเพิ่มความกระชับของผิวหนัง และอาจช่วยลดลดปัญหาริ้วรอยที่ผิวหน้า การมาสก์หน้าด้วยโยเกิร์ตจึงอาจสามารถช่วยแก้ไขปัญหาตีนกาได้
วิธีทำ
- นำโยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน
- พอกที่บริเวณผิวหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ควรทำเป็นประจำ 1-3 ครั้งต่อสัปดาห์ หลังทำจะรู้สึกว่าผิวหน้าเนียนนุ่ม ชุ่มชื่นขึ้น
แตงกวา
แตงกวามีวิตามินซีสูงและแร่ธาตุที่ดีต่อผิว การใช้แตงกวาประคบบริเวณดวงตาจึงอาจสามารถช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น และช่วยลดเลือดริ้วรอยต่าง ๆ รวมถึงรอยตีนกาได้
วิธีทำ
- ล้างแตงกวาให้สะอาด แล้วฝานเป็นแผ่นบาง ๆ
- วางแตงกวาที่ฝานแล้วที่เปลือกตา ทิ้งไว้ประมาณ 5-20 นาที
ทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
น้ำมันมะพร้าว
น้ำมันมะพร้าวอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ และอาจช่วยกักเก็บน้ำในผิว ทำให้ผิวดูกระชับ และอาจทำให้รอยตีนกาลดเลือนลงได้
วิธีทำ
- หยดน้ำมันมะพร้าวลงบนสำลี 2-4 หยด
- วางที่ใต้ดวงตาและหางตา ทิ้งไว้สักครู่ และไม่ต้องล้างออก
ควรทำเป็นประจำ ก่อนนอน
วิธีลดรอยตีนกาด้วยวิธีทางการแพทย์
ฉีดฟิลเลอร์
การฉีดฟิลเลอร์เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดรอยตีนกา โดยคุณหมอจะฉีดฟิลเลอร์เข้าสู่ผิวหนังบริเวณที่มีริ้วรอยโดยตรงเพื่อเติมเต็มริ้วรอยและร่องลึกให้ตื้นขึ้น ฟิลเลอร์ที่ฉีดจะอยู่ได้นาน 4-6 เดือน อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาคุณหมอก่อนตัดสินใจเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ และควรเลือกจัดการปัญหารอยตีนกาด้วยการฉีดฟิลเลอร์กับสถาบันที่ได้รับการรับรอง และเชื่อถือได้เท่านั้น
ฉีดโบท็อกซ์
การฉีดโบท็อกซ์ช่วยทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่มีริ้วรอยผ่อนคลาย และช่วยป้องกันการหดตัวของกล้ามเนื้อ ส่งผลให้ริ้วรอยตื้นขึ้น อย่างไรก็ตาม หลังเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์ ควรงดนวดหน้า 1 สัปดาห์ การฉีดโบท็อกซ์จะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนสำหรับผู้ที่อายุ 30-50 ปี แต่ไม่สามารถลดริ้วรอยร่องลึกในผู้สูงอายุได้
เลเซอร์ลด รอยตีนกา
การยิงเลเซอร์เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้รอยตีนกาลดเลือนลงได้ ความร้อนจากเลเซอร์จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ส่งผลให้ผิวหน้าบริเวณหางตาตื้นขึ้น อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาคุณหมอและเลือกลดเลือดรอยตีนกาด้วยเลเซอร์กับสถาบันที่ได้รับการรับรองและเชื่อถือได้เท่านั้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และเกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด
ศัลยกรรมยกคิ้ว
การผ่าตัดยกคิ้วเป็นการผ่าตัดที่ไม่ยุ่งยากและเจ็บน้อยกว่าการผ่าตัดรอยตีนกา โดยคุณหมอจะฉีดยาชาในบริเวณที่ต้องการ รอยาออกฤทธิ์ ก่อนจะเริ่มกรีดที่ปลายคิ้ว แล้วดึงรั้งเนื้อเยื่อใต้คิ้วขึ้นไปเย็บ ซึ่งจะทำให้รอยตีนกาตึงและตื้นขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์
เคล็ดลับในการป้องกันรอยตีนกา
- ทาครีมกันแดด การปกป้องผิวจากแสงแดดด้วยการทาครีมกันแดดที่มีค่าป้องกัน SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไป จะช่วยลดอัตราการเกิดรอยตีนกาและป้องกันผิวคล้ำเสียจากแสงแดด
- ออกกำลังกาย การออกกำลังกาย นอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้ว ยังช่วยกระตุ้นระบบหมุนเวียนเลือดในร่างกาย เป็นการชะลอการเกิดริ้วรอยบนใบหน้า
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปและอาหารที่มีน้ำตาลสูง เพราะหากรับประมาณทานอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลมาก ๆ จะทำให้ผิวหนังขาดความยืดหยุ่น จนเกิดริ้วรอยได้ไว
- งดสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ไม่เพียงแต่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทั้งยังเป็นสาเหตุของริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้าด้วย