backup og meta
สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ถามคุณหมอ
บันทึก
สารบัญ

ปลูกถ่ายเหงือก (Gum Tissue Graft)

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 25/11/2020

ปลูกถ่ายเหงือก (Gum Tissue Graft)

ปลูกถ่ายเหงือก (Gum Tissue Graft) เป็นกระบวนการทางทันตกรรมประเภทหนึ่ง ที่ทำเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาเหงือกร่น โดยนำเนื้อเยื่อเหงือกที่มีสุขภาพดี จากบริเวณส่วนฐานของเหงือก แล้วนำมาติดเข้ากับเหงือกส่วนที่เกิดความเสียหาย

ข้อมูลพื้นฐาน

การ ปลูกถ่ายเหงือก คืออะไร

การ ปลูกถ่ายเหงือก (Gum Tissue Graft) เป็นกระบวนการทางทันตกรรมประเภทหนึ่ง ที่ทำเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาเหงือกร่น การปลูกถ่ายเหงือกนั้นจะนำเนื้อเยื่อเหงือกที่มีสุขภาพดี จากบริเวณส่วนฐานของเหงือก แล้วนำมาติดเข้ากับเหงือกส่วนที่เกิดความเสียหาย เพื่อทำให้เหงือกกลับมาดูสุขภาพดี และทำให้มีรอยยิ้มที่สวยมากขึ้น

การปลูกถ่ายเหงือกนั้นในบางครั้งอาจทำเพื่อความสวยความงาม ทำให้ฟันดูเรียงสวย สุขภาพดี และมีรอยยิ้มที่สวยงาม แต่ในบางครั้ง ก็อาจใช้เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาช่องปาก สำหรับผู้ที่มีปัญหาเหงือกร่นอย่างรุนแรง จนรากฟันโผล่ออกมาจากเหงือก และทำให้โครงสร้างฟันไม่แข็งแรงได้เช่นกัน

ความจำเป็นในการปลูกถ่ายเหงือก

ทันตแพทย์มักจะแนะนำวิธีการปลูกถ่ายเหงือก สำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาเหงือกร่นอย่างรุนแรง ปัญหาเหงือกร่นนั้นหมายถึงการที่เหงือกเกิดการหดร่นลงไปจากฟัน จนทำให้สามารถมองเห็นรากฟันได้อย่างชัดเจน ปัญหาเหงือกร่นนี้อาจนำมาสู่การเกิดปัญหาฟัน ทำให้รากฐานฟันไม่แข็งแรง เสียวฟัน และมีโอกาสฟันผุได้ง่ายอีกด้วย

ความเสี่ยง

ความเสี่ยงของการปลูกถ่ายเหงือก

กระบวนการปลูกถ่ายเหงือกนั้นมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนค่อนข้างต่ำ และมีโอกาสติดเชื้อได้น้อย แต่อย่างไรก็ตาม การปลูกถ่ายเหงือกก็อาจจะมีความเสี่ยงดังต่อไปนี้

  • การติดเชื้อ
  • อาการปวด
  • อาการอักเสบ เหงือกบวม
  • รู้สึกเหมือนฟันโยกง่าย
  • เสียวฟันง่าย
  • ฟันห่าง มีช่องว่างระหว่างฟัน
  • อาการแพ้ยาชา
  • ในกรณีหายาก เนื้อเยื่อเหงือกที่นำมาปลูกถ่ายอาจจะไม่ยอมยึดติดกับเนื้อเยื่อเหงือกเดิม จนทำให้จะเป็นต้องทำการปลูกถ่ายเหงือกใหม่อีกครั้ง

    หากลักษณะของเหงือกหลังจากการปลูกถ่ายเหงือกนั้นออกมาไม่สวย หรือไม่ถูกใจคุณ คุณอาจจะติดต่อทันตแพทย์เพื่อทำศัลยกรรมตกแต่งเหงือกเพิ่มเติมได้ในภายหลัง

    ขั้นตอนการผ่าตัด

    การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการปลูกถ่ายเหงือก

    การเตรียมตัวก่อนการปลูกถ่ายเหงือกนั้นไม่มีอะไรมาก เนื่องจากเป็นกระบวนการที่ใช้เวลาเพียงไม่นาน และผู้ป่วยก็สามารถกลับบ้านได้เลยหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการปลูกถ่ายเหงือก

    หลังจากที่คุณปรึกษาทันตแพทย์จนแน่ใจแล้วว่า คุณต้องการทำการปลูกถ่ายเหงือก แพทย์ก็อาจจะให้คุณพิจารณาเลือกวิธีการปลูกถ่ายเหงือกประเภทต่าง ๆ เพื่อดูว่าวิธีไหนจะเหมาะสมกับคุณที่สุด จากนั้นจึงทำการนัดเวลาเพื่อทำการปลูกถ่ายเหงือก ผู้ป่วยจำเป็นต้องมีคนในครอบครัวหรือเพื่อนที่สามารถพาตัวผู้ป่วยกลับบ้านมาด้วย

    ขั้นตอนการปลูกถ่ายเหงือก

    ขั้นตอนในการปลูกถ่ายเหงือกนั้น จะแตกต่างกันไปตามแต่ละประเภท โดยขึ้นอยู่กับขอบเขต และระดับความเสียหายของเหงือกและฟัน แต่ทั้ง 3 ประเภทนั้นจะเริ่มต้นเหมือนกัน คือการฉีดยาชาในบริเวณที่จะทำการผ่าตัด และทำความสะอาดฟันและรากฟันในจุดที่จะทำการผ่าตัด จากนั้นจึงจะเริ่มขั้นตอนการปลูกถ่ายเหงือกตามแต่ละประเภท

    ประเภทของการปลูกถ่ายเหงือกทั้ง 3 ประเภท มีดังนี้

    การปลูกถ่ายเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Connective tissue grafts)

    • แพทย์จะนำเนื้อเยื่อออกมาจากส่วนของเพดานปาก โดยตัดเอาเนื้อเยื่อถัดจากส่วนนอกสุดออกมา
    • แพทย์จะเย็บเนื้อเยื่อส่วนนั้นติดเข้ากับเนื้อเยื่อเหงือก ให้ครอบคลุมจุดที่สามารถมองเห็นรากฟันได้ทั้งหมด
    • หลังจากนั้นแพทย์ก็จะทำการเย็บปิดแผลบนบริเวณเพดานปากให้ติดกัน

    การปลูกถ่ายแผ่นเหงือกอิสระ (Free gingival grafts)

    วิธีการนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีเหงือกบาง และจำเป็นต้องใช้เนื้อเยื่อส่วนพิเศษเพื่อช่วยขยายให้เหงือกมีขนาดใหญ่ขึ้น

    • แพทย์จะนำชิ้นส่วนเนื้อเยื่อจากส่วนชั้นนอกสุดของเพดานปากออกมาโดยตรง
    • จากนั้นแพทย์จะยึดติดเนื้อเยื่อส่วนนั้นเข้ากับเหงือก เพื่อช่วยให้เหงือกมีความหนามากขึ้น

    การปลูกถ่ายเหงือกแบบเลื่อนแผ่นเหงือก (Pedicle grafts)

    • แพทย์จะทำการปลูกถ่ายเหงือก โดยใช้เนื้อเยื่อเหงือกจากจุดใกล้ ๆ มาทำ
    • แพทย์จะตัดเปิดเนื้อเยื่อเหงือกเพียงบางส่วน โดยใช้ส่วนฐานยังคงยึดติดอยู่กับเหงือกเหมือนเดิม
    • แพทย์ดึงเนื้อเยื่อเหงือกส่วนที่ตัดออกขึ้นมาปิดรากฟัน จากนั้นจึงเย็บให้ติดกันสนิท

    การพักฟื้น

    หลังการปลูกถ่ายเหงือก

    หลังเสร็จสิ้นการปลูกถ่ายเหงือก ผู้ป่วยสามารถกลับมาพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านได้ในทันที โดยมีสิ่งที่ควรปฏิบัติดังต่อไปนี้

    • หลีกเลี่ยงการแปรงฟันหรือหรือไหมขัดฟันในบริเวณที่ทำการผ่าตัด
    • ใช้น้ำยาบ้วนปากที่แพทย์กำหนด เพื่อช่วยลดการสะสมของคราบพลัค
    • งดการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
    • หลีกเลี่ยงอาหารที่ร้อนจัด เย็นจัด อาหารที่มีรสเผ็ด หรืออาหารแข็ง ๆ หันไปรับประทานอาหารนิ่ม ๆ เช่น ซุป ข้าวต้ม หรือโจ๊กแทน
    • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนัก
    • ใช้ยาแก้ปวด เช่น ยาพาราเซตามอล (Paracetamol) เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวด ไม่ควรใช้ยาแอสไพรริน เพราะอาจทำให้เกิดอาการเลือดออกได้
    • แพทย์อาจจะให้คุณใช้ยาปฏิชีวนะ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ

    หลังจากนั้นแพทย์อาจจะมีการนัดมาพบเพื่อดูอาการของแผล เพื่อดูว่าแผลฟื้นตัวได้ดีตามปกติหรือไม่ และมีสัญญาณของการติดเชื้อหรือเปล่า

    ความเสี่ยงหลังการปลูกถ่ายเหงือก

    ผู้ป่วยควรคอยสังเกตอาการของแผล เพื่อดูว่ามีสัญญาณของอาการติดเชื้อหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น

    • มีเลือดไหลไม่หยุด แม้ว่าจะกดแผลไว้แล้ว นานเกินกว่า 20 นาทีขึ้นไป
    • เหงือกมีอาการบวม ช้ำ และปวดอย่างรุนแรง
    • เป็นไข้
    • แผลมีหนอง

    หากพบว่ามีควรรีบแจ้งให้แพทย์ทราบเพื่อทำการรักษาในทันที

    หมายเหตุ

    Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

    ทีม Hello คุณหมอ


    เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 25/11/2020

    advertisement iconโฆษณา

    คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

    advertisement iconโฆษณา
    advertisement iconโฆษณา