หลายๆ คนอาจสงสัยว่า การแปลงเพศเกี่ยวข้องอย่างไรกับ โรคกระดูกพรุน จริงๆ แล้วโรคกระดูกพรุน มีสาเหตุมาจากหลายอย่าง ฮอร์โมนเองก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคกระดูกพรุนได้ เมื่อมีการแปลงเพศ ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ทำให้ภาวะเสี่ยงต่อการเกิดโรคกระดูกพรุน และคุณอาจมีคำถามว่าจะต้องดูแลตัวเองอย่างไร วันนี้ Hello คุณหมอมีคำแนะนำดีๆ มาฝาก
โรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) คืออะไร
ในแต่ละช่วงของชีวิตคนเรา กระดูกจะถูกสร้างขึ้นมาใหม่อยู่เรื่อยๆ ในขณะที่กระดูกเก่าๆ ก็จะถูกทำลายลงเรื่อยๆ เช่นกัน กระบวนการเหล่านี้ ช่วยทำให้กระดูกซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และทำให้ร่างกายของเราโตขึ้น โดยปกติแล้วกระบวนการทำลายกระดูกจะเร็วกว่าการสร้างกระดูก แต่ผู้ที่ป่วยเป็นโรคกระดูกพรุนกระบวนการทำลายกระดูกจะเร็วกว่าปกติจนสร้างขึ้นมาใหม่ไม่ทัน ทำให้กระดูกเปราะบางและง่ายต่อการหัก จริงๆ แล้วโรคกระดูกพรุนสามารถเกิดได้กับทุกวัย แต่โดยทั่วไปแล้ว โรคกระดูกพรุนจะส่งผลกระทบต่อผู้สูงวัยมากกว่า และที่สำคัญโรคนี้จะไม่มีสัญญาณเตือน เราจะไม่รู้ว่าเป็นโรคนี้ จนกว่ากระดูกเราจะหัก โดยทั่วไปแล้วโรคกระดูกพรุน กระดูกจะหักที่ข้อมือ สะโพก และกระดูกสันหลัง ซึ่งปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคนี้ก็มีสาเหตุมาจากหลายๆ อย่างแต่ก็ยังไม่สามารถหาเหตุผลที่แน่ชัดได้ว่าจริงๆ แล้วเกิดจากอะไร บางครั้งก็อาจเกิดจากปัญหาสุขภาพอื่นๆ
คนข้ามเพศกับโรคกระดูกพรุน เกี่ยวข้องกันอย่างไร
ความเสี่ยงในการเป็นโรคกระดูกพรุน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุ มวลความหนาแน่นของกระดูก ปริมาณแคลเซียมที่ร่างกายได้รับ ชาติพันธุ์ การออกกำลังกาย การบริโภคคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็มีส่วนทำให้เกิดโรคกระดูกพรุนได้ทั้งนั้น และอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคกระดูกพรุนก็คือ ฮอร์โมน ซึ่งฮอร์โมนเพศมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของกระดูก ไม่ว่าจะเป็น ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) เทสโทสเตอโรน (Testosterone) ซึ่งฮอร์โมนทั้งสองมีส่วนต่อการเจริญเติบโตของกระดูกในช่วงวัยเด็กและวัยรุ่น เมื่อเราโตขึ้นเรื่อยๆ ฮอร์โมนทั้งสองก็จะลดลงเรื่อยๆ ทำให้กระดูกเสื่อมลง ซึ่งกลุ่มคนข้ามเพศเมื่อจะทำการผ่าตัด จะได้รับยา ซึ่งยาบางตัวจะส่งผลให้ฮอร์โมนเหล่านี้ลดลง จนส่งผลให้กระดูกไม่แข็งแรง