การบริโภคคาเฟอีนมากเกินไปอาจส่งผลให้เกิดภาวะพิษจากคาเฟอีน (Caffeine toxicity) ที่ทำให้เส้นเลือดในสมองขยายตัว จนอาจเกิดอาการปวดศีรษะหรือคลื่นไส้ได้ ควรลดปริมาณการบริโภคให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อให้ร่างกายคุ้นชิน และปรับสมดุลของการทำงานของหลอดเลือดและหัวใจให้ทำงานตามปกติ
ทำให้ปัสสาวะบ่อย
คาเฟอีนจะไปกระตุ้นการทำงานของไต ทำให้รู้สึกปวดปัสสาวะบ่อย และบางครั้งอาจปวดปัสสาวะแบบฉับพลันต้องรีบไปปัสสาวะทันที การถ่ายปัสสาวะบ่อยจะทำให้ร่างกายเสี่ยงเกิดภาวะขาดน้ำได้ง่าย หากไม่ดื่มน้ำทดแทนปริมาณน้ำที่เสียไป
ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น
การดื่มกาแฟอาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นได้ และหากความดันโลหิตสูงเรื้อรัง อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน หรือที่เรียกว่าภาวะหัวใจวาย และโรคหลอดเลือดสมอง เนื่องจากคาเฟอีนทำให้หลอดเลือดหดตัว ส่งผลให้ส่งเลือดไปเลี้ยงหัวใจและสมองได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะหากบริโภคคาเฟอีนเป็นประจำ
ทำให้รู้สึกวิตกกังวล
การบริโภคกาแฟเกินครั้งละ 400 มิลลิกรัม อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอาการวิตกกังวลเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะหากมีภาวะวิตกกังวล (Anxiety disorders) อยู่แล้ว เนื่องจากร่างกายได้รับการกระตุ้นจากฤทธิ์ของคาเฟอีนในปริมาณมาก คาเฟอีนจะไปปิดกั้นการทำงานของสารเคมีในสมองที่ชื่อว่าอะดีโนซีน (Adenosine) ที่ทำให้ร่างกายรู้สึกเหนื่อย ทั้งยังกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนอะดรีนาลีนที่มีผลต่อการทำงานของระบบหัวใจและหลอดเลือด เมื่อสมดุลของสารเคมีหรือฮอร์โมนเหล่านี้เปลี่ยนแปลง จึงอาจทำให้เกิดอาการวิตกกังวลและกระวนกระวายหลังบริโภคกาแฟได้
ข้อควรระวังเมื่อดื่มกาแฟ และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
ข้อควรระวังในการดื่มกาแฟและเครื่องดื่มอื่น ๆ ที่มีคาเฟอีนเป็นส่วนประกอบ อาจมีดังนี้
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย