backup og meta

การตรวจหาโรคเบาหวานนั้นแพทย์นิยมตรวจวินิจฉัยจากสิ่งใด

การตรวจหาโรคเบาหวานนั้นแพทย์นิยมตรวจวินิจฉัยจากสิ่งใด

สำหรับผู้ที่ให้ความสนใจเรื่องสุขภาพ อาจมีข้อสงสัยว่า การตรวจหาโรคเบาหวานนั้นสามารถตรวจวินิจฉัยจากสิ่งใด เพื่อให้ทราบว่าถึงระดับน้ำตาลในเลือดว่าเข้าข่ายเป็นโรคเบาหวานหรือต้องรับได้รับการรักษาหรือไม่ ซึ่งการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดมีหลายวิธี ซึ่งคุณหมออาจเเนะนำตามความเหมาะสมของผู้ป่วยเเต่ละราย

[embed-health-tool-vaccination-tool]

การตรวจหาโรคเบาหวานนั้นแพทย์นิยมตรวจวินิจฉัยจากสิ่งใด

อาการของโรคเบาหวาน เช่น กระหายน้ำมากกว่าปกติ ปัสสาวะบ่อย น้ำหนักลดโดยไม่มีสาเหตุ เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ตาพร่ามัว แผลหายช้า ติดเชื้อง่าย คุณหมอจะเเนะนำให้ทำการตรวจคัดกรองหาโรคเบาหวาน หากพบว่ามีระดับน้ำตาลในเลือดสูงถึงเกณฑ์ที่กำหนด ก็จะสามารถวินิจฉัยได้ว่าเป็นโรคเบาหวาน

อย่างไรก็ตามผู้ที่ควรเข้ารับการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดคัดกรองโรคเบาหวาน เเม้จะไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ มีดังนี้

  • มีดัชนีมวลกายสูงกว่า 25 
  • ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน เช่น คนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ระดับคอเลสเตอรอลไม่ปกติ การมีวิถีชีวิตที่ไม่เคลื่อนไหวร่างกาย มีประวัติโรคถุงน้ำรังไข่หลายใบหรือโรคหัวใจ ผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี
  • ผู้ที่มีอายุมากกว่า 35 ปี ควรได้รับการตรวจระดับน้ำตาลในเลือด หากผลตรวจเป็นปกติควรตรวจทุก ๆ 3 ปีหลังจากนั้น
  • ผู้หญิงที่เคยมีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ 
  • ผู้ที่มีภาวะก่อนเบาหวาน ควรได้รับการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดทุก ๆ 6 เดือน – 1 ปี

การวินิจฉัยโรคเบาหวานทำได้อย่างไร

การวินิจฉัยโรคเบาหวานอาจทำได้หลายวิธี ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับประเภทของโรคเบาหวานและความเหมาะสมซึ่งมีวิธีการตรวจ ดังนี้

การวินิจฉัยโรคเบาหวานชนิดที่ 1 และ 2 และภาวะก่อนเป็นเบาหวาน

การตรวจฮีโมโกลบิน เอ วัน ซี (Hemoglobin A1C)

เป็นการตรวจที่แสดงถึงระดับน้ำตาลในเลือดโดยเฉลี่ยในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ด้วยการตรวจน้ำตาลที่จับกับฮีโมโกลบินของเซลล์เม็ดเลือดแดง หากมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ฮีโมโกลบินก็จะมีน้ำตาลมาจับอยู่มาก ส่งผลให้ HbA1c มีค่าสูง ซึ่งการตรวจ HbA1c จะไม่จำเป็นต้องอดอาหาร

โดยสามารถแปลผลดังนี้

  • ค่า HbA1C ไม่เกิน 5.7% ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • ค่า HbA1C อยู่ระหว่าง 5.7%-6.4% ถือว่ามีภาวะก่อนเป็นเบาหวาน หรือ มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ
  • ค่า HbA1C สูงตั้งเเต่ 6.5% ขึ้นไปถือว่าเข้าข่ายเป็นโรคเบาหวาน

การตรวจน้ำตาลในเลือดแบบสุ่ม

เป็นการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดโดยไม่ต้องคำนึงถึงเวลาที่รับประทานอาหารครั้งสุดท้าย หากพบว่ามีระดับน้ำตาลในเลือดสูงตั้งเเต่ 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หรือ 11.1 มิลลิโมล/ลิตร เป็นต้นไปจะเข้าข่ายเป็นโรคเบาหวาน เเต่หากค่าต่ำกว่า 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร มิได้เเปลว่ามีระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ ยังคงต้องอาศัยการตรวจด้วยวิธีอื่น ๆ เพิ่มเติม 

การตรวจน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร

เป็นการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดโดยผู้เข้ารับการตรวจจะต้องงดอาหารเเละเครื่องดื่มที่มีเเคลอรี่มาเป็นเวลาอย่างน้อย 8 ชั่วโมง ซึ่งสามารถเเปลผลได้ดังนี้

  • ระดับน้ำตาลในเลือดไม่เกิน 100 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หรือ 5.6 มิลลิโมล/ลิตร ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ระหว่าง 100-125 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หรือ 5.6-6.9 มิลลิโมล/ลิตร ถือว่ามีภาวะก่อนเป็นเบาหวาน
  • ระดับน้ำตาลในเลือดขณะสูงตั้งเเต่ 126 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หรือ 7 มิลลิโมล/ลิตร เป็นต้นไป ถือว่าเข้าข่ายเป็นโรคเบาหวาน

การทดสอบความทนทานต่อน้ำตาลของร่างกาย (Oral Glucose Tolerance Test หรือ OGTT)

การทดสอบความทนทานต่อน้ำตาล สามารถทำได้ดังนี้

บุคคลทั่วไป

ผู้ที่จะเข้ารับการตรวจ OGTT จะต้องงดอาหารและเครื่องดื่มที่มีเเคลอรี่ ก่อนเข้ารับการทดสอบอย่างน้อย 8 ชั่วโมง (แต่ไม่เกิน 14 ชั่วโมง)

เมื่อถึงวันนัด จะทำการตรวจเลือดครั้งที่1 เพื่อตรวจระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหาร จากนั้นให้ผู้เข้ารับการตรวจดื่มสารละลายกลูโคส 75 กรัม แล้วรอเป็นระยะเวลา 2 ชั่วโมง จึงตรวจระดับน้ำตาลเลือดครั้งที่ 2 เพื่อวัดความทนทานต่อน้ำตาลของร่างกาย โดยระหว่างช่วง 2 ชั่วโมงนี้ผู้เข้ารับการตรวจจะต้องงดอาหารเเละเครื่องดื่มด้วย

โดยผลการตรวจอาจแบ่งดังนี้

  • ระดับน้ำตาลในเลือดหลังขณะอาหาร จะเเปลผลดังที่กล่าวไปในข้างต้น 
  • การเเปลผลระดับน้ำตาลหลังกลืนน้ำตาล 2 ชั่วโมง
    • ระดับน้ำตาลในเลือดสูงไม่เกิน140 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หรือ 7.8 มิลลิโมล/ลิตร ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ
    • ระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ระหว่าง 140-199 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หรือ 7.8-11.0 มิลลิโมล/ลิตร ถือว่ามีภาวะก่อนเป็นเบาหวาน
    • ระดับน้ำตาลในเลือดสูงตั้งเเต่ 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หรือ 11.1 มิลลิโมล/ลิตร ง ถือว่าเข้าข่ายเป็นโรคเบาหวาน

การวินิจฉัยโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์

สำหรับหญิงตั้งครรภ์ ส่วนมากเเล้วจะเข้ารับการตรวจ OGTT เมื่ออายุครรภ์ 24-28 สัปดาห์ เพื่อตรวจคัดกรองภาวะโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ โดยมีขั้นตอนแตกต่างจากบุคคลทั่วไปเล็กน้อยดังนี้

การตรวจขั้นที่1 (ดื่มสารละลายกลูโคส 50 กรัม)

ในขั้นแรกผู้เข้ารับการตรวจไม่ต้องงดอาหารมา โดยเมื่อถึงเวลานัด จะให้ดื่มสารละลายกลูโคสปริมาณ 50 กรัม แล้วรอเป็นระยะเวลา 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นจะทำการเจาะเลือดตรวจค่าระดับน้ำตาล โดยหากมีระดับน้ำตาลในเลือดหลังดื่มสารละลายกลูโคสไม่เกิน 140 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่มีความเสี่ยงในการเกิดเบาหวานขณะตั้งครรภ์ เเต่หากมีระดับน้ำตาลหลังดื่มสารละลายกลูโคส มากกว่า 140 มิลลิกรัม/เดซิลิตร อาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ คุณหมอจึงจะนัดตรวจในขั้นที่ 2 อีกครั้ง

การตรวจขั้นที่2 (ดื่มสารละลายกลูโคส 100 กรัม)

การตรวจในขั้นที่2 ผู้เข้ารับการตรวจจะต้องงดอาหารเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 8 ชั่วโมง และจะทำการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดทั้งหมด 4 ครั้ง

  • เจาะเลือดครั้งที่ 1 เพื่อตรวจระดับน้ำตาลหลังงดอาหาร
  • ดื่มสารละลายกลูโคสปริมาณ 100 กรัม หลังจากนั้นรอเจาะเลือดตรวจระดับน้ำตาลหลังดื่มสารละลายกลูโคสไปแล้วที่ 1 2 และ 3 ชั่วโมงตามลำดับ
  • โดยระหว่างการเจาะเลือดเเต่ละครั้ง ผู้เข้ารับการตรวจจะยังต้องงดอาหารเเละเครื่องดื่มด้วย

หากผลตรวจในครั้งนี้สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดตั้งแต่ 2 ค่าขึ้นไป จะถือว่ามีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์

  • ระดับน้ำตาลในเลือดหลังงดอาหารควรน้อยกว่า 95 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
  • ระดับน้ำตาลในเลือดหลังดื่มสารละลายกลูโคส 1 ชั่วโมง ควรน้อยกว่า 180 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
  • ระดับน้ำตาลในเลือดหลังดื่มสารละลายกลูโคส 2 ชั่วโมง ควรน้อยกว่า 155 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
  • ระดับน้ำตาลในเลือดหลังดื่มสารละลายกลูโคส 3 ชั่วโมง ควรน้อยกว่า 140 มิลลิกรัม/เดซิลิตร

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Diabetes-Diagnosis-treatment. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/diabetes/diagnosis-treatment/drc-20371451. Accessed February 23, 2023

Gestational diabetes-Diagnosis-treatment. https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/gestational-diabetes/diagnosis-treatment/drc-20355345. Accessed February 23, 2023

Diabetes Tests & Diagnosis. https://www.niddk.nih.gov/health-information/diabetes/overview/tests-diagnosis. Accessed February 23, 2023

Diagnosis of Diabetes. https://www.webmd.com/diabetes/guide/diagnosis-diabetes. Accessed February 23, 2023

Understanding A1C Diagnosis. https://diabetes.org/diabetes/a1c/diagnosis. Accessed February 23, 2023

เวอร์ชันปัจจุบัน

04/04/2023

เขียนโดย ทัตพร อิสสรโชติ

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย แพทย์หญิงบุรัสกร ทวีบูรณ์

อัปเดตโดย: พลอย วงษ์วิไล


บทความที่เกี่ยวข้อง

เครื่องตรวจเบาหวาน ใช้เพื่ออะไร และใช้งานอย่างไร

6 ตัวอย่างเมนู อาหาร เบาหวาน ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด


ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

แพทย์หญิงบุรัสกร ทวีบูรณ์

โรคเบาหวาน · SRK BMI Center


เขียนโดย ทัตพร อิสสรโชติ · แก้ไขล่าสุด 04/04/2023

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา