เครื่องตรวจเบาหวาน เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานสามารถวัดระดับน้ำตาลในเลือดรายวันได้ด้วยตัวเอง เครื่องมือนี้เป็นประโยชน์ต่อการติดตามอาการของผู้ป่วย ช่วยในการบันทึกการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำตาลในแต่ละวัน และอาจช่วยให้คุณหมอกำหนดแนวทางการรักษาได้อย่างเหมาะสม ผู้ใช้งานเครื่องตรวจเบาหวานควรศึกษาข้อมูลและปฏิบัติตามคำแนะนำในเอกสารกำกับของเครื่องอย่างเคร่งครัด หากพบว่ามีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำหรือสูงกว่าเกณฑ์เป้าหมาย ควรไปพบคุณหมอ
[embed-health-tool-bmi]
เครื่องตรวจเบาหวาน คืออะไร
เครื่องตรวจเบาหวาน เป็นอุปกรณ์วัดระดับน้ำตาลในเลือดที่ใช้ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน ช่วยในการประเมินค่าระดับน้ำตาลในเลือดในแต่ละวันของผู้ป่วยว่าอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมหรือไม่ ผู้ป่วยสามารถใช้เครื่องนี้ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตัวเองได้ที่บ้าน วิธีการใช้งานทั่วไป คือ หยดเลือดจากปลายนิ้วลงบนแถบทดสอบ เพื่อให้เครื่องตรวจวิเคราะห์ค่าน้ำตาลในเลือด จากนั้นเครื่องจะแสดงผลตรวจบนหน้าจอดิจิตอล ค่าที่ได้สามารถบอกถึงระดับน้ำตาลในแต่ละช่วงเวลาของวัน ซึ่งเป็นผลจากพฤติกรรมการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย และการใช้ยารักษาโรคของผู้ป่วย
ระดับน้ำตาลในเลือดที่เหมาะสม
ระดับน้ำตาลในเลือดที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน อาจมีดังนี้
สำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 และชนิดที่ 2
- 70-130 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ก่อนรับประทานอาหาร
- น้อยกว่า 180 มิลลิกรัม/เดซิลิตร 2 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหาร
สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์
- 95 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หรือน้อยกว่า ก่อนรับประทานอาหาร
- 140 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หรือน้อยกว่า หลังรับประทานอาหาร 1 ชั่วโมง
- 120 มิลลิกรัม/เดซิลิตร หรือน้อยกว่า หลังรับประทานอาหาร 2 ชั่วโมง
บุคคลที่ควรใช้ เครื่องตรวจเบาหวาน
ผู้ที่ควรใช้เครื่องตรวจเบาหวาน มีดังนี้
- ผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 อาจตรวจประมาณ 4-10 ครั้ง/วัน
- ผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 อาจตรวจประมาณ 1-2 ครั้ง
- ผู้ที่รักษาเบาหวานด้วยการฉีดอินซูลิน อาจต้องใช้เครื่องตรวจเบาหวานประมาณ 1-2 ครั้ง/วัน ขึ้นอยู่กับปริมาณของอินซูลินที่ใช้
- ผู้ที่ใช้ยารักษาเบาหวาน จำนวนของการตรวจขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคุณหมอ
- ผู้ที่เป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวอื่น ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคไตเรื้อรัง
ทั้งนี้ จำนวนครั้งในการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดด้วยเครื่องตรวจเบาหวานอาจขึ้นอยู่กับชนิดของเบาหวาน และวิธีการรักษาของผู้ป่วยแต่ละรายด้วย หากมีปัจจัยด้านสุขภาพที่อาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดดังตัวอย่างต่อไปนี้ คุณหมออาจแนะนำให้ใช้เครื่องตรวจเบาหวานบ่อยขึ้น
- เปลี่ยนยารักษาเบาหวาน
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
- ปรับกิจกรรมประจำวันหรือวิธีการออกกำลังกาย
- มีภาวะเครียดรุนแรงขึ้น
- มีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น ไม่สบาย ซึ่งอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้น
ประโยชน์ของการใช้เครื่องตรวจเบาหวาน
ประโยชน์ของการใช้เครื่องตรวจเบาหวาน อาจมีดังนี้
- ทำให้ทราบข้อมูลของระดับน้ำตาลในเลือดว่าสูงหรือต่ำกว่าเกณฑ์หรือไม่
- ช่วยให้ประเมินผลการรักษาที่ผ่านมา และสามารถวางแผนการรักษาในอนาคตได้ตรงจุดมากขึ้น
- ช่วยให้เรียนรู้พฤติกรรมการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย และการใช้ยารักษาโรคในแต่ละวัน และสามารถประเมินได้ว่าส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดอย่างไร
- ใช้ในการตรวจวินิจฉัยหรือประเมินแนวโน้มในการเกิดภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ และภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเกินเกณฑ์เป้าหมาย
- อาจช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้ชีวิตประจำวันให้กับผู้ป่วยได้ ผู้ป่วยอาจต้องตรวจระดับน้ำตาลในเลือดด้วยเครื่องตรวจเบาหวานก่อนและหลังทำกิจกรรมที่ระดับน้ำตาลในเลือดอาจส่งผลให้เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุหรือปัญหาสุขภาพอื่น เช่น การขับรถ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ใช้ยารักษาเบาหวานซึ่งอาจมีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ จนทำให้อ่อนเพลียและเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
วิธีใช้เครื่องตรวจเบาหวาน
ขั้นตอนการทดสอบน้ำตาลในเลือดด้วยเครื่องตรวจเบาหวาน มีดังนี้
- ล้างมือให้สะอาดและเช็ดมือให้แห้งก่อนใช้เครื่องตรวจเบาหวาน
- ใช้แผ่นแอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดบริเวณปลายนิ้วที่จะเจาะเลือด จากนั้นใช้เข็มทิ่มที่ปลายนิ้วเพื่อให้มีเลือดออกเล็กน้อย
- แตะเลือดที่ปลายแถบทดสอบ
- ใส่แถบทดสอบลงในเครื่องตรวจเบาหวาน
- เครื่องตรวจเบาหวานจะแสดงค่าระดับน้ำตาลในเลือดที่วัดได้บนหน้าจอของเครื่อง
- บันทึกค่าน้ำตาลในเลือดที่ได้
- ห่อเข็มที่ใช้เจาะปลายนิ้วรวมถึงวัสดุปนเปื้อนอื่น ๆ ให้มิดชิด จากนั้นนำไปทิ้งในถังขยะทันที