เบาหวาน ความดัน นับเป็นภาวะที่มีความเกี่ยวข้องกันอย่างมีนัยสำคัญ ผู้ป่วยเบาหวานนับว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้มากกว่าคนทั่วไป เเละในทางกลับกันผู้ที่มีความดันโลหิตสูงก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคเบาหวานได้ง่ายเช่นเดียวกัน ในเรื่องของ เบาหวานและความดัน มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันอย่างไร ผู้ที่เป็นเบาหวานและคนใกล้ชิดควรทำความเข้าใจ เพื่อที่จะเลือกเเละปรับการดูเเละสุขภาพให้เหมาะสมและหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่อาจนำไปสู่โรคร้ายแรงอื่น ๆ ในอนาคตได้
[embed-health-tool-bmi]
ความสัมพันธ์ระหว่าง เบาหวานกับความดันโลหิตสูง
โรคเบาหวาน เเละ ความดันโลหิตสูง มีความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกัน โดยภาวะความดันโลหิตสูงเป็นภาวะที่พบร่วมได้ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 เนื่องจากการที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น ทั้งจากภาวะดื้อต่ออินซูลิน (Insulin Resistance) หรือ ทั้งจากร่างกายไม่สามารถผลิตฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin) ได้เพียงพอ ส่งผลโดยรวมต่อหลอดเลือดทั่วทั้งร่างกายให้เสี่ยงต่อการที่มีผนังหลอดเลือดที่หนาขึ้นเเละยืดหยุ่นลดลง ทำให้รูของหลอดเลือดตีบเเคบลง จึงส่งผลให้เกิดภาวะดันโลหิตสูงนั่นเอง
นอกจากนี้เเล้ว โรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง มักเกิดขึ้นร่วมกัน เพราะมีปัจจัยเสี่ยงเหมือนที่เหมือน ๆ กัน เช่น การสูบบุหรี่ ภาวะน้ำหนักเกิน ขาดการออกกำลังกาย พฤติกรรมการบริโภคที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เป็นต้น ดังนั้น ผู้ป่วยเบาหวานจึงมีความเสี่ยงในการมีภาวะความดันโลหิตสูงร่วมด้วย มากกว่าบุคลทั่วไป
ปัจจัยเสี่ยงของ โรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง
ปัจจัยเสี่ยงของ โรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูง มีดังต่อไปนี้
- ชอบรับประทานอาหารที่มี น้ำตาล ไขมัน เเละโซเดียมสูง
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น
- น้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน หรือโรคอ้วน
- สูบบุหรี่
- มีไขมันในเลือดสูง (คอเลสเตอรอลสูง)
- ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
- มีโรคร่วมอื่น ๆ เช่น เช่น โรคไต ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โรคหลอดเลือดหัวใจ/หลอดเลือดสมอง
อ่านต่อ
วิธีป้องกัน โรคความดันโลหิตสูง ในผู้ป่วยเบาหวาน
การปรับพฤติกรรมสุขภาพในชีวิตประจำวันเป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีส่วนช่วยลดความดันโลหิตในผู้ป่วยเบาหวานได้ โดยคุณหมอมักจะแนะนำให้ผู้ป่วยเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ครั้งละอย่างน้อย 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความดันโลหิตแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ รวมทั้งช่วยให้หัวใจแข็งแรงอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่เเนะนำในด้านอื่น ๆ คือ
- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
- เลิกสูบบุหรี่ เเละ หลีกเลี่ยงการสูดดมควันบุหรี่
- ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
- ลดเค็ม ควมคุมโซเดียม ซึ่งอาจเทียบเป็น ปริมาณเกลือที่บริโภค ไม่ควรเกิน 1 ช้อนชาต่อวัน หรือ น้ำปลาไม่เกิน 1- 1.5 ช้อนโต๊ะต่อวัน
- ไปพบคุณหมอตามนัดเป็นประจำ เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสม เเละ ตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ
จะเห็นได้ว่า โรคความดันโลหิตสูงเป็นที่พบร่วมกับโรคเบาหวานได้บ่อย ๆ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ส่งผลให้ผู้ป่วยมีภาวะเเทรกซ้อนอื่น ๆ ที่รุนเเรงได้หากไม่ควบคุมระดับความดันให้ดี จึงควรใส่ใจดูแลสุขภาพอยู่เสมอเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ และปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมอ เพื่อให้ยังคงมีสุขภาพเเละคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาว