banner

Subot Icon

แบบประเมินความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด

Subot Icon

แบบประเมินความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง

Subot Icon

แบบประเมินความเสี่ยงภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสุขภาพหัวใจ

โรคหลอดเลือดหัวใจ คืออะไร?

Icon Chevron

โรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular disease: CVD) หมายถึงสภาวะที่ส่งผลต่อหัวใจและหลอดเลือด โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ในเอเชีย แต่สามารถป้องกันได้ด้วยการมีไลฟ์สไตล์ที่ดีต่อสุขภาพ

โรคหัวใจและหลอดเลือดเกิดจากอะไร?

Icon Chevron

โรคหัวใจและหลอดเลือดอาจมีสาเหตุที่แตกต่างกัน แต่มักมีความเกี่ยวข้องกับ ภาวะหลอดเลือดแข็ง (Atherosclerosis) ซึ่งเกิดจากหลอดเลือดอุดตันเนื่องจากคราบพลัคและไขมันสะสมในผนังหลอดเลือด ทำให้การไหลเวียนของเลือดไม่ดี

วิธีลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดทำได้อย่างไร?

Icon Chevron

โรคหัวใจและหลอดเลือดสามารถป้องกันได้โดยการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เพื่อช่วยลดระดับความดันโลหิตและคอเลสเตอรอล ที่อาจนำไปสู่การเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

ความเชื่อมโยงระหว่างคอเลสเตอรอลกับสุขภาพหัวใจคืออะไร

Icon Chevron

ไขมันมี 2 ประเภท คือ ไขมันดี (HDL) และไขมันไม่ดี (LDL) ไขมันดีอาจช่วยดูดซึมคอเลสเตอรอลกลับเข้าสู่ตับ เพื่อให้ตับกำจัดออกจากร่างกาย ในขณะที่ไขมันไม่ดีอาจนำคอเลสเตอรอลไปสะสมในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย หากมีคอเลสเตอรอลสะสมในหลอดเลือด อาจส่งผลให้หลอดเลือดอุดตัน และทำให้การไหลเวียนของเลือดแย่ลง

ฉันจะเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพหัวใจได้อย่างไร?

Icon Chevron

การรับประทานอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวต่ำและโซเดียมต่ำในปริมาณที่เหมาะสม อาจช่วยให้สุขภาพหัวใจแข็งแรง โดยอาจเลือกรับประทานอาหารดังนี้ - รับประทานผักและผลไม้เพิ่มมากขึ้น - รับประทานธัญพืชไม่ขัดสีเพิ่มมากขึ้น - รับประทานไขมันที่ดีต่อสุขภาพ เช่น น้ำมันมะกอก อะโวคาโด ปลาแซลมอน และหลีกเลี่ยงไขมันไม่ดี เช่น อาหารทอด เนย น้ำมันหมู - เลือกรับประทานผลิตภัณฑ์ไขมันต่ำมากขึ้น

ไลฟ์สไตล์แบบไหนที่จะช่วยให้สุขภาพหัวใจแข็งแรงขึ้น

Icon Chevron

ควรเลือกไลฟ์สไตล์ที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลและลดความดันโลหิต เช่น - รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและหลากหลาย - ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพ - ออกกำลังกายมากขึ้น - ลดหรือเลิกบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

สัญญาณเตือนของอาการหัวใจวายคืออะไร

Icon Chevron

สัญญาณเตือนของอาการหัวใจวาย ได้แก่ - เจ็บหน้าอก - หายใจถี่ - รู้สึกอ่อนเพลีย หมดสติ หรือมีเหงื่อเย็น - รู้สึกปวดหรือไม่สบายบริเวณกราม คอ และหลัง - รู้สึกปวดหรือไม่สบายบริเวณแขนหรือไหล่ข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง

เรียนรู้เพิ่มเติม:

หัวใจวาย (Heart attack)

โรคหัวใจส่งผลกระทบต่อผู้หญิงต่างจากผู้ชายอย่างไร

Icon Chevron

แม้ว่าผู้ชายและผู้หญิงอาจมีปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจที่เหมือนกันหลายประการ แต่ผู้หญิงมักจะมีหัวใจที่ขนาดเล็กกว่า และมีหลอดเลือดแคบกว่า ดังนั้น โรคหัวใจจึงพัฒนาแตกต่างกัน งานวิจัยแสดงให้เห็นว่า ผู้หญิงอาจมีอาการของโรคหัวใจที่แตกต่างจากผู้ชาย รวมถึงอาการที่พบได้ไม่บ่อย เช่น อาหารไม่ย่อย หายใจสั้น ปวดหลัง ผู้หญิงยังมีปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจที่แตกต่างจากผู้ชายหลายประการ ดังนี้ - มีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสูงก่อนเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน - ความดันโลหิตสูงขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน - มีโรคแพ้ภูมิตัวเอง เช่น ข้ออักเสบรูมาตอยด์ - มีความเครียดและซึมเศร้า ปัจจัยเสี่ยงที่แตกต่างกันเหล่านี้อาจส่งผลให้ผู้หญิงไม่ได้รับการรักษาในเวลาที่เหมาะสม

โรคหัวใจเกี่ยวข้องกับโรคหลอดเลือดสมองอย่างไร

Icon Chevron

โรคหลอดเลือดสมองอาจเกิดจากลิ่มเลือดอุดตัน (โรคหลอดเลือดสมองตีบ) หรืออาจเกิดจากหลอดเลือดแตก (โรคหลอดเลือดสมองแตก) โดยโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองมีความเกี่ยวข้องกันเนื่องจากภาวะความดันโลหิตสูงอาจทำลายเยื่อบุหลอดเลือด ซึ่งอาจส่งผลให้มีการสะสมของคราบพลัคในหลอดเลือดได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้เลือดไหวเวียนไปเลี้ยงสมองน้อยลง

ถ้าไม่รักษาโรคหัวใจจะเกิดอะไรขึ้น

Icon Chevron

หากไม่ทำการรักษาโรคหัวใจ และปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลานาน อาจมีความเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิต หรือหากรอดชีวิตจากหัวใจวาย ก็อาจมีอายุขัยที่สั้นลง และคุณภาพชีวิตก็อาจแย่ลงไปด้วย เนื่องจากอาจมีอาการหายใจลำบากหรือหัวใจล้มเหลวแม้จะทำกิจกรรมเพียงแค่เล็กน้อยก็ตาม

สาระน่ารู้เกี่ยวกับหัวใจ

Icon Chevron

เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับหัวใจ มีดังต่อไปนี้ - หัวใจมักจะมีขนาดเท่ามือทั้งสองประสานกัน - หัวใจจะเต้นประมาณ 115,000 ครั้งในแต่ละวัน - หัวใจสามารถเต้นต่อไปได้แม้จะถูกตัดขาดจากร่างกายก็ตาม - ความสุขอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจได้ - คนเราสามารถป่วยจากอาการหัวใจแตกสลายได้จริง ๆ - วาฬสีน้ำเงินเป็นสัตว์ที่มีหัวใจขนาดใหญ่ที่สุด

ฉันยังมีคำถามเกี่ยวกับสุขภาพหัวใจ ฉันควรทำอย่างไร?

Icon Chevron

คุณสามารถไปที่หมวด Heart Health ของ Hello คุณหมอ เพื่อดูคลังข้อมูลที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการรักษาสุขภาพหัวใจ

อาหารเพื่อสุขภาพหัวใจ

โภชนาการพิเศษ

อาหารโรคหัวใจ อะไรที่ควรรับประทาน และอะไรที่ควรหลีกเลี่ยง

การรับประทานอาหาร มีความสำคัญอย่างมากกับสุขภาพหัวใจ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อระดับความดันโลหิตและคอเลสเตอรอลในเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจนำไปสู่การเกิดโรคหัวใจ หรือหากเป็นโรคหัวใจอยู่ ก็อาจส่งผลให้อาการที่เป็นอยู่รุนแรงขึ้น ดังนั้น จึงควรศึกษาเกี่ยวกับอาหารโรคหัวใจ เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาหารที่ควรรับประทานและอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อช่วยรักษาสุขภาพหัวใจ และป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย [embed-health-tool-bmr] อาหารโรคหัวใจที่ควรรับประทาน อาหารโรคหัวใจที่ควรรับประทาน มีดังนี้ ผักและผลไม้ ผักและผลไม้เป็นแหล่งรวมวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร อีกทั้งยังมีแคลอรี่ต่ำ จึงอาจสามารถช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ จากการศึกษาในวารสาร Annals of Internal Medicine ปี พ.ศ. 2544 ที่ศึกษาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของผักและผลไม้ในการลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยติดตามผลสุขภาพในผู้หญิง 84,251 คน อายุระหว่าง 34-59 ปี เป็นเวลา 14 ปี และผู้ชาย 42,148 คน อายุระหว่าง 40-57 ปี เป็นเวลา 8 ปี พบว่า ผู้ที่รับประทานผักและผลไม้ 1 เสิร์ฟ/วัน อาจช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจลง 4 % โดยเฉพาะการรับประทานผักใบเขียวและผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม […]

อันตรายจากโรคหัวใจ

สุขภาพหัวใจ

เช็กกันหน่อยไหม ใครมีความเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง?

มักมีความเข้าใจผิดกันบ่อยว่า หากคุณมีค่าความดันโลหิตสูง แปลว่าคุณจะเป็น โรคความดันโลหิตสูง ซึ่งนั่นไม่เป็นความจริงเสมอไป ความจริงก็คือ มีความแตกต่างระหว่าง “ความดันโลหิตสูง” กับการเป็น “โรคความดันโลหิตสูง” ซึ่งจะแตกต่างกันอย่างไร แล้วใครบ้างที่มี ความเสี่ยง โรคความดันโลหิตสูง บทความนี้จะไขข้อสงสัยให้รู้กัน ความแตกต่างระหว่าง “ความดันโลหิตสูง” และ “โรคความดันโลหิตสูง” ระดับความดันโลหิตนั้นไม่มีตัวเลขตายตัว และมีความผันผวนตลอดทั้งวัน ขึ้นอยู่กับอารมณ์ กิจกรรม และแม้แต่อาหารที่เรารับประทานเข้าไป ความดันอาจขึ้นสูงเมื่อผ่านการออกกำลังกาย หรือจากการดื่มกาแฟเพียงแก้วเดียว หรือเมื่อผ่านเหตุการณ์ตึงเครียดก็เป็นได้ ในสถานการณ์เหล่านี้ ค่าของระดับความดันโลหิตของคุณจะแสดงตัวเลขที่สูงขึ้น  ตามมา ซึ่งหมายความว่า คุณความดันโลหิตสูงในขณะนั้น อย่างไรก็ตาม โรคความดันโลหิตสูง (hypertension) เป็นคนละเรื่องกัน โรคนี้เป็นอาการความดันโลหิตสูงเรื้อรัง โดยความดันโลหิตของคุณจะอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน ไม่ว่าจะกินอะไรหรือทำอะไรก็ตาม คุณอาจรู้สึกว่าตัวเองแข็งแรงดี แต่ในความเป็นจริง ระดับความดันโลหิตที่เพิ่มขึ้นนั้น กำลังทำร้ายร่างกายของคุณ หากทิ้งไว้ไม่รักษา ความดันโลหิตสูงอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพขั้นรุนแรง เช่น โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหัวใจ รู้ได้อย่างไรว่ามี ความเสี่ยง โรคความดันโลหิตสูง ค่าระดับความดันโลหิตที่แสดงนั้นจะแสดงออกมาเป็น 2 ค่า ค่าด้านบน หรือที่เรียกว่า “ซิสโตลิก” (systolic) หมายถึง ค่าความดันเลือดจากแรงดันโลหิตในเส้นเลือดเมื่อหัวใจเต้น ส่วนค่าด้านล่าง […]

สุขภาพหัวใจ

หัวใจเต้นกี่ครั้งต่อนาที และแบบไหนที่เรียกว่าผิดปกติ

หลายคนอาจสงสัยว่า หัวใจเต้นกี่ครั้งต่อนาที เพื่อช่วยเช็กตนเองได้ว่าหัวใจเต้นปกติหรือผิดปกติหรือไม่ และทำให้ทราบถึงปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น ภาวะหัวใจล้มเหลวหรือหัวใจวาย ภาวะหัวใจเต้นช้า และภาวะหัวใจเต้นเร็ว เพื่อเสริมสุขภาพหัวใจให้แข็งแรงและหัวใจเต้นปกติ ควรศึกษาวิธีการดูแลสุขภาพหรือขอคำปรึกษาจากคุณหมอโดยตรงได้ [embed-health-tool-heart-rate] หัวใจเต้นกี่ครั้งต่อนาที ปกติแล้วหัวใจจะเต้นประมาณ 60-100 ครั้งต่อนาที โดยสามารถวัดได้จากการวัดชีพจรที่สามารถวัดได้โดยการใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางแตะบริเวณข้อมือทางนิ้วโป้งและจับเวลา 1 นาที พร้อมกับนับจำนวนการเต้นของชีพจร เพื่อดูแลสุขภาพหัวใจและควบคุมการเต้นหัวใจให้เป็นไปตามปกติ ควรหมั่นวัดการเต้นของหัวใจในขณะพักและดูแลสุขภาพหัวใจที่อาจทำได้ดังนี้ รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ เช่น ผักใบเขียว ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี เนื้อสัตว์ไร้ไขมัน เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหารต่าง ๆ เช่น วิตามินเอ วิตามินอี วิตามินซี โพแทสเซียม แมกนีเซียม ที่ช่วยควบคุมการทำงานของหัวใจให้เป็นไปตามปกติและต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันเซลล์เสื่อมสภาพจากการทำลายของอนุมูลอิสระ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีแป้ง น้ำตาล เกลือและไขมันไม่ดีสูง เช่น อาหารแปรรูป ซีอิ๊ว น้ำปลา ขนมหวาน น้ำอัดลม น้ำผลไม้ที่น้ำตาลสูง น้ำมันหมู ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก เพราะอาจทำให้ไขมันสะสมในหลอดเลือด ขัดขวางการไหลเวียนเลือดไปหล่อเลี้ยงหัวใจ ที่ทำให้หัวใจมีการทำงานแย่ลง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 150 นาที […]

คอเลสเตอรอล

คอเลสเตอรอลสูง ปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจ ป้องกันได้อย่างไร

คอเลสเตอรอลสูง เป็นผลมาจากการรับประทานอาหารที่มีไขมันมาก อย่างเนื้อสัตว์ติดมันหรืออาหารทะเล รวมทั้งอาหารหวาน มัน เค็ม ซึ่งหากร่างกายมีคอเลอเตอรอลสูง จะยิ่งเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ ดังนั้น ควรจำกัดอาหารและเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย [embed-health-tool-bmi] คอเลสเตอรอลสูง คืออะไร คอเลสเตอรอล เป็นไขมันในเลือดชนิดหนึ่ง ที่อยู่ในกระแสเลือด มีทั้งส่วนที่ดี และส่วนที่ไม่ดี ส่วนคอเลสเตอรอลสูง (High Cholesterol) เป็นภาวะที่ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดนั้นสูงกว่าปกติ โดยปัญหาคอเลสเตอรอลสูงสามารถทำให้หลอดเลือดตีบตันหรืออุดตัน อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพที่รุนแรงตามมาได้ โดยเฉพาะโอกาสเสี่ยงสูงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดแดงแข็ง และโรคหัวใจ ปัญหาคอเลสเตอรอลสูง เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นจากภาวะน้ำหนักเกิน โรคอ้วน หรือพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การขาดการออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่มีปริมาณไขมันและคอเลสเตอรอลสูง รวมถึงการสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  ดังนั้น เพื่อป้องกันคอเลสเตอรอลสูง ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตด้านการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย โดยวางแผนการดูแลรักษาสุขภาพอย่างเคร่งครัด คอเลสเตอรอลสูง ปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจ หากร่างกายมีปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือดสูงในระยะยาว จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ เพราะไขมันจะเข้าไปเกาะตามผนังหลอดเลือด และทำให้หลอดเลือดเกิดการอุดตัน หรือตีบตัน นำไปสู่การขาดเลือด จนร่างกายไม่สามารถลำเลียงเลือดเข้าไปเลี้ยงหัวใจ  สมอง และระบบการทำงานต่าง ๆ ได้ตามปกติ ส่งผลให้หัวใจเกิดการขาดเลือด เสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและโรคอื่น ๆ ตามมา วิธีป้องกัน คอเลสเตอรอลสูง การรักษาระดับคอเลสเตอรอลให้อยู่ในระดับที่ปกติขึ้นอยู่กับพฤติกรรมในการรับประทานอาหารและการออกกำลังกาย ซึ่งสามารถปฏิบัติตนตมคำแนะนำต่อไปนี้ […]

โรคหัวใจ

โรคอ้วน กับ โรคหัวใจ ความเชื่อมโยงที่ไม่ควรละเลย

โรคอ้วน (Obesity) มีความเชื่อมโยงสำคัญกับปัญหาสุขภาพหลายอย่าง โดยมีความเป็นไปได้สูงที่จะนำไปสู่การเป็นโรคเบาหวานประเภท 2 ความดันโลหิตสูง ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดผิดปกติและโรคหัวใจ โดยเฉพาะ โรคอ้วน กับ โรคหัวใจ นั้น หากคุณน้ำหนักเพิ่มขึ้นไม่หยุด ซึ่งอาจเป็นผลมาจากไลฟ์สไตล์ อย่างการบริโภคอาหารที่มีไขมัน และไม่ออกกำลังกาย สามารถที่จะสร้างความเสียให้แก่หัวใจได้เป็นอย่างมาก Hello คุณหมอมีข้อมูลดีๆ มาให้อ่านกันว่ามันเกี่ยวข้องกันอย่างไร คำจำกัดความของโรคอ้วน โรคอ้วน วินิจฉัยได้โดยอ้างอิงจากค่าดัชนีมวลกาย (Body Mass Index) ค่าดัชนีมวลกายคำนวณได้โดยการเอาน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) หารด้วยส่วนสูง (เป็นเมตร) ค่าดัชนีมวลกายที่อยู่ระหว่าง 30 และ 40 หมายความว่าคุณเป็นคนอ้วน และหากค่าดัชนีมวลกายของคุณเกิน 40 คุณจะถูกวินิจฉัยว่า คุณเป็นโรคอ้วน นักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ค่าดัชนีมวลกายที่สูงมากๆ เพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ อย่างเช่น หัวใจวายและหัวใจล้มเหลว โรคอ้วน กับ โรคหัวใจ เป็นที่สงสัยกันว่า เนื้อเยื่อไขมันบริเวณรอบเอว สามารถส่งผลกระทบโดยตรงต่อโครงสร้างและการทำงานของหัวใจ ถึงแม้จะไม่มีความเสี่ยงอื่นของโรคหัวใจก็ตาม ในการสนับสนุนทฤษฎีนี้ นักวิจัยได้ทำการประเมินหาสัญญาณของสภาวะแข็งตัวที่หัวใจห้องล่างซ้าย ในผู้สูงอายุที่มีน้ำหนักแตกต่างกัน อาการนี้เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างห้องสูบฉีดหัวใจ (หัวใจห้องล่างซ้าย) ซึ่งขัดขวางการสูบฉีดเลือดอย่างมีประสิทธิภาพระหว่างชีพจรการเต้นของหัวใจ สภาวะแข็งตัวที่หัวใจห้องล่างซ้าย จะไม่แสดงอาการอะไร แต่มันเป็นสัญญาณของโรคหัวใจล้มเหลวได้ในอนาคต โรคหัวใจล้มเหลวเกิดขึ้นเมื่อกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรงหรือแข็งเกินไป […]

คอเลสเตอรอล

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ การตรวจคอเลสเตอรอล

ระดับคอเลสเตอรอลสูง นำไปสู่โรคร้ายแรงหลายอย่าง และอาจไม่แสดงอาการอะไร ดังนั้น การตรวจคอเลสเตอรอล อย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ หากอยากให้สุขภาพดี ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ และตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อป้องกันและดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโรคที่มากับ คอเลสเตอรอลที่อาจเกิดขึ้นได้ [embed-health-tool-heart-rate] การตรวจคอเลสเตอรอล คืออะไร การตรวจคอเลสเตอรอลถูกนำมาใช้ เพื่อวัดคอเลสเตอรอลโดยรวม ไลโปโปรตีนความหนาแน่นสูง (HDL) ซึ่งเป็นโปรตีนดี ไลโปโปรตีนความหนาแน่นต่ำ (LDL) ซึ่งเป็นโปรตีนไม่ดี และระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ร่างกายต้องการคอเลสเตอรอล เพื่อนำมาใช้งานอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม หากร่างกายได้รับคอเลสเตอรอลมากเกินไป อาจต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดแดงแข็ง ซึ่งรูปแบบหนึ่งของโรคหัวใจ ที่ทำให้เส้นเลือดถูกบีบให้เล็กลงและขัดขวางการไหลเวียนโลหิต หัวใจวาย โดยทั่วไปแล้วผู้ชายตั้งแต่วัย 35 ปีขึ้นไป และผู้หญิงตั้งแต่วัย 45 ปีขึ้นไป ควรเข้ารับการตรวจระดับคอเลสเตอรอลเป็นประจำ แต่ในบางกรณี ผู้ที่อายุน้อยกว่านั้นก็อาจต้องเข้ารับการตรวจคอเลสเตอรอลเช่นกัน การตรวจคอเลสเตอรอลในเลือดจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบ ภาวะหัวใจวาย เป็นต้น เหตุผลอีกหนึ่งข้อที่ควรเข้ารับการตรวจระดับคอเลสเตอรอล ก็เพราะระดับคอเลสเตอรอลที่สูงจะไม่แสดงอาการใดๆ ออกมา คนส่วนใหญ่ที่มีระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูงจึงไม่ค่อยรู้ตัว จนทำให้คอเลสเตอรอลสูงเป็นเวลานานหรือเรื้อรัง ซึ่งอาจนำไปสู่อาการทางการแพทย์ขั้นรุนแรงอื่นๆการเข้ารับการตรวจระดับคอเลสเตอรอลเป็นประจำ จึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ เตรียมตัวสำหรับการตรวจคอเลสเตอรอล ในบางกรณี อาจถูกขอให้อดอาหารก่อนเข้ารับการตรวจระดับคอเลสเตอรอล […]

การจัดการความเครียด

การจัดการความเครียด

เครียดจัด คลายได้ จัดการกับความเครียด อย่างไรให้ได้ผล

ความเครียด เป็นเรื่องที่ทุก ๆ คนล้วนต้องเคยเจอกันมา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านการทำงาน ปัญหาทางครอบครัว หรือปัญหาทางด้านการเงิน ความเครียดอาจจะเป็นเรื่องที่สร้างความวิตกกังวล ไม่สบายใจให้กับใครหลาย ๆ คนแต่บางครั้งความเครียดบางอย่าง ก็มีข้อดีคือ ช่วยให้คุณมองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นและสามารถแก้ได้ตรงจุด หรือช่วยให้มีแรงฮึดสู้กับปัญหาที่เกิดขึ้น วันนี้ Hello คุณหมอ มีบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับการ จัดการกับความเครียด ที่เกิดขึ้น มาฝากกันค่ะ ทำความรู้จักกับ ความเครียด ให้มากขึ้น ความเครียดนั้น สามารถเกิดขึ้นได้จากหลาย ๆ สาเหตุ ซึ่งมีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นความเครียดจากเรื่องงาน ปัญหาสุขภาพ การเงิน หรือแม้แต่กระทั่งปัญหาด้านการเรียน ถึงแม้สาเหตุของความเครียดที่เกิดขึ้นนั้น จะเกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกันออกไป แต่ว่าการตอบสนองต่อความเครียดนั้นมักจะมีอาการคล้ายๆ กัน ซึ่งปัญหาต่าง ๆ ที่ทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจนั้นจะทำให้ฮอร์โมนในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงและส่งผลให้เกิด ความเครียด ซึ่งความเครียดที่เกิดขึ้นนั้นยังส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือด และระบบประสาท ประเภทของความเครียด สถาบันสุขภาพจิตแห่งชาติ (The National Institute of Mental Health หรือ NIMH) ได้แบ่งประเภทความเครียดออกเป็น 2 ชนิด คือ […]

ปัญหาสุขภาพจิตแบบอื่น

เครียดจากงาน ระวัง! จะลุกลามเป็นโรคอื่นที่รุนแรง

ทุกคนย่อมมีวันแย่ ๆ กันทั้งนั้น เป็นเรื่องปกติหากจะรู้สึกเครียดบ้างในที่ทำงาน โดยเฉพาะตอนนี้มีงานที่ต้องทำให้ทันเวลาที่กำหนด อย่างไรก็ตาม หากคุณมีวันแย่บ่อย ๆ หรือแค่คิดว่าต้องกลับไปทำงานก็แย่อยู่แล้ว คุณอาจกำลังทุกข์ทรมานกับความ เครียดจากงาน ก็เป็นได้ คำว่า “ความเครียด” ถูกใช้ครั้งแรกโดย ฮานส์ เซลย์ (Hans Selye) ผู้เชี่ยวชาญด้านต่อมไร้ท่อชาวฮังการี หลังจากที่ฝึกงานด้านการแพทย์เสร็จในปี 1920 เขาเสนอว่า คำว่า “ความเครียด” เป็นอาการเครียดทางร่างกายประเภทหนึ่ง ที่เป็นสาเหตุมาจากความผิดปกติของร่างกาย อันเป็นผลมาจากการปล่อยฮอร์โมนเครียดภายในร่างกาย (เซลย์, 1977) ความเครียดจากทำงาน หรือเครียดงาน (Work Stress) เป็นสภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อต้องทำงานหนักเกินความสามารถและเกินที่จะทน ซึ่งไม่เพียงแต่จะส่งผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตของคนที่งานที่อยู่ภายใต้ภาวะเครียดเท่านั้น ความเครียดจากงานยังทำให้ผลิตภาพขององค์กรลดลงอีกด้วย ตัวกระตุ้นความเครียดจากงาน ตัวกระตุ้นความเครียดจากงานที่พบได้บ่อยๆ ได้แก่ วัฒนธรรมองค์กร การบริหารงานไม่ดี งานหนัก สภาพที่ทำงาน ความสัมพันธ์ในที่ทำงาน การไม่ได้รับความช่วยเหลือ การเปลี่ยนแปลงนโยบายผู้บริหาร การทำงานไม่ตรงกับหน้าที่ ภาวะบาดเจ็บ ทำงานติดต่อกันหลายชั่วโมง ระยะเวลาในการส่งงานที่กระชั้น มีการกำกับงานจากหัวหน้างานมากเกิน เครื่องมือและทรัพยากรอำนวยความสะดวกในการทำงานไม่เพียงพอ โอกาสในการเลื่อนขั้นมีน้อยมาก การข่มขู่ คุกคาม หากแบ่งตัวกระตุ้นความเครียดจากงานตามปัจจัยด้านบุคคล และปัจจัยด้านองค์กร จะแบ่งได้ดังนี้ ปัจจัยด้านบุคคล ได้แก่ ทักษะในการทำงานของแต่ละคน สุขภาพด้านจิตวิทยา สุขภาพร่างกาย กลไกการรับมือกับความเครียด ปัจจัยด้านองค์กร เช่น คำสั่งจากฝ่ายบริหาร วัฒนธรรมองค์กร ชั่วโมงทำงาน ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของพนักงานเองและองค์กรด้วยเช่นกัน สัญญาณความ เครียดจากงาน ที่เห็นได้ในที่ทำงาน มีความขัดแย้งภายในกลุ่ม พนักงานลาออกบ่อยมาก พนักงานร้องเรียนบ่อยมาก พนักงานลาป่วยบ่อยขึ้น ผลการปฏิบัติงานของพนักงานลดลง ลูกค้าร้องเรียนเกี่ยวกับผลผลิต การหาพนักงานใหม่ ๆ มาทดแทนก็ยากขึ้น วิธีสังเกตภาวะเครียดจากงานในตัวเอง รู้สึกหดหู่ หรือมีแต่ความคิดแง่ลบ แต่ละคนแสดงความรู้สึกหดหู่ หรือความคิดแง่ลบเพราะเครียดจากงานไม่เหมือนกัน บางคนอาจรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับตัวเองเมื่อไม่สามารถทำงานได้สำเร็จตามเป้าหมาย […]

การจัดการความเครียด

วิธีคลายเครียด เพื่อสุขภาพจิตที่ดี

วิธีคลายเครียด เป็นวิธีที่อาจช่วยจัดการกับความเครียดให้ทุเลาได้ ก่อนที่จะพัฒนากลายเป็นความเครียดเรื้อรัง ซึ่งอาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การอยู่ร่วมกับสังคม และปัญหาสุขภาพ เช่น โรคเครียด ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า การดูแลตัวเองเพื่อจัดการกับอารมณ์และผ่อนคลายเรื่องตึงเครียด จึงอาจช่วยส่งเสริมสุขภาพชีวิตและทำให้ชีวิตมีความสุขขึ้นได้ ความเครียด คืออะไร ความเครียด คือ ปฏิกิริยาตอบสนองทางร่างกายและจิตใจที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ซึ่งเป็นการตอบสนองในเชิงบวก ที่ช่วยให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัวเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ถ้าหากความเครียดเกิดขึ้นยาวนานอาจส่งผลเสียร้ายแรงต่อร่างกายและจิตใจได้ ทั้งนี้ความเครียดอาจเกิดขึ้นระยะสั้นหรือระยะยาวขึ้นอยู่กับการจัดการความเครียดของแต่ละบุคคล หากเกิดความเครียดสะสม อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น ความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้า โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคจิตเวท วิธีคลายเครียด มีอะไรบ้าง วิธีคลายเครียดเพื่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี มีดังนี้ รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ ผู้ที่มีความเครียดอาจแก้ปัญหาหรือหนีความเครียดด้วยการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพมากเกินไป การกระทำเหล่านี้อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพระยะยาวได้ ดังนั้นการรับประทานอาหารให้ตรงตามโภชนาการและดีต่อสุขภาพจึงเป็นวิธีที่จะช่วยจัดการกับความเครียดได้ ดังนั้น การรับประทานอาหารให้ตรงตามโภชนาการและดีต่อสุขภาพจึงเป็นวิธีที่จะช่วยจัดการกับความเครียดได้ เช่น ธัญพืชไม่ขัดสี ไก่ ไข่ มีวิตามินบี 12 ช่วยเผาผลาญคอร์ติซอลซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียด ดาร์กช็อกโกแลต อะโวคาโด กล้วย มีแมกนีเซียมช่วยลดการอักเสบ เผาผลาญคอร์ติซอล ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ แซลมอน ปลาซาร์ดีน ทูน่า อาหารที่อุดมไปด้วยไขมันโอเมก้า 3 ลดการอักเสบและส่งเสริมการทำงานของสมอง ลดความเสี่ยงความผิดปกติทางอารมณ์ เมล็ดฟักทอง อุดมไปด้วยโพแทสเซียมและสังกะสี ช่วยควบคุมความดันโลหิต ลดความเครียดและความวิตกกังวล ชาเขียว มีกรดอะมิโนที่เรียกว่า “ธีอะนีน […]

เคล็ดลับโภชนาการที่ดี

สมุนไพรคลายเครียด ลดความกังวล ป้องกันซึมเศร้า ด้วยวิธีทางธรรมชาติ

ความเครียดนั้นเป็นสิ่งที่ไม่เข้าใครออกใคร ไม่ว่าใครต่างก็สามารถมีความเครียดได้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นความเครียดในเรื่องเรียน เรื่องงาน หรือเรื่องความสัมพันธ์ แต่รู้หรือไม่คะ ว่ามีตัวช่วยดี ๆ ในการช่วยลดความเครียดจากธรรมชาติ อย่าง สมุนไพรคลายเครียด ที่จะมาช่วยบรรเทาความกังวล และยังอาจช่วยป้องกันโรคซึมเศร้าได้อีกด้วย สมุนไพรเหล่านี้มีอะไรบ้าง ไปดูกัน สมุนไพรคลายเครียด ตัวช่วยดี ๆ จากธรรมชาติ ขิง (Ginger) ขิงเป็นพืชสมุนไพรที่เรานิยมนำมาประกอบอาหาร เนื่องจากมีรสเผ็ดร้อน และมีกลิ่นที่หอม แต่ขิงก็มีการนำมาใช้ในยาแผนโบราณ เพื่อใช้สำหรับการบรรเทาความเครียด และช่วยลดความวิตกกังวลได้ด้วยเช่นกัน ในขิงนั้นจะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า จินเจอรอล (Gingerol) ที่ช่วยในการต่อต้านสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ที่ร่างกายของเหล่าหลั่งออกมาเมื่อรู้สึกเครียด อีกทั้งยังมีฤทธิ์ช่วยย่อยอาหาร แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ นอกจากนี้ กลิ่นหอมของขิงยังทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย และช่วยบรรเทาความเครียดได้อีกด้วย โสมอินเดีย (Ashwagandha) โสมอินเดียนั้นมีสรรพคุณช่วยลดความเครียดได้ เนื่องจากมีสารปรับสมดุล (Adaptogen) ที่ส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานของร่างกายและฮอร์โมนภายในร่างกาย ช่วยปรับสมดุลการตอบสนองต่อความเครียดของร่างกายให้กลับมาเป็นปกติ งานวิจัยที่ทำการทดลองประสิทธิภาพของการใช้โสมอินเดีย เพื่อลดความเครียดและความวิตกกังวล พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่ได้รับสารสกัดจากโสมอินเดีย ในปริมาณ 600 มก. ต่อวัน เป็นเวลา 8 สัปดาห์ มีระดับฮอร์โมนความเครียดคอร์ติซอล (Cortisol) น้อยกว่ากลุ่มตัวอย่างที่ใช้ยาหลอก หรือกลุ่มที่ใช้สารสกัดจากโสมอินเดียวันละ 250 มก. […]

เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพอื่น ๆ
ดูทั้งหมด

หัวใจแข็งแรงด้วยการออกกำลังกาย

สำรวจ
เครื่องมือตรวจเช็กสุขภาพ
ชุมชน