ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์อาจมี อาการแพ้ท้อง ซึ่งเป็นเรื่องปกติทั่วไปในไตรมาสแรก แต่ถ้าหากคุณแม่ตั้งครรภ์มีอาการคลื่นไส้อาเจียนที่รุนแรงผิดปกติ อาจเป็น อาการแพ้ท้องอย่างรุนแรง ดังนั้น คุณแม่ตั้งครรภ์หรือมีแพลนที่จะตั้งครรภ์ควรระมัดระวังและอาจจะต้องทำความเข้าใจกับอาการเหล่านี้ เพื่อที่จะได้สังเกตตัวเองและไปหาคุณหมอได้อย่างทันท่วงที
[embed-health-tool-due-date]
อาการแพ้ท้องอย่างรุนแรง คืออะไร
อาการแพ้ท้องอย่างรุนแรง (Hyperemesis Gravidarum) เป็นอาการคลื่นไส้และอาเจียนรุนแรงต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ โดยจะเป็นหนักและนานกว่า อาการแพ้ท้อง ปกติ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อร่างกายของคุณแม่ที่ตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ได้ อาการแพ้ท้องอย่างรุนแรงอาจมีอาการแตกต่างจาก อาการแพ้ท้อง ปกติ โดยสามารถพบได้ในไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ สำหรับอาการที่เกิดขึ้นมีดังต่อไปนี้
- อาเจียน คลื่นไส้มากกว่า 3-4 ครั้ง/วัน
- อาเจียนขั้นรุนแรง จนไม่สามารถทำอะไรได้เลย
- รู้สึกวิงเวียนและมึนศีรษะ
- อ่อนเพลียง่าย เป็นลมบ่อย
- มีอาการเบื่ออาหาร หรือไม่สามารถรับประทานอาหารใด ๆ ได้เลย
- ปัสสาวะน้อย ท้องผูก
- มีน้ำลายมากเกินปกติ
- ภาวะดีซ่าน
- ภาวะหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
- ภาวะขาดน้ำ เนื่องจากเสียน้ำออกจากร่างกายมาก
- ความดันโลหิตต่ำ
- ผิวหนังขาดความชุ่มชื่น และยืดหยุ่น
- น้ำหนักลดต่ำกว่าช่วงก่อนตั้งครรภ์อย่างน้อย 5 เปอร์เซ็นต์
ปัจจัยที่ทำให้เกิด อาการแพ้ท้องอย่างรุนแรง
ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่า เพราะเหตุใดคุณแม่ตั้งครรภ์ถึงมี อาการแพ้ท้องอย่างรุนแรง แต่อาจจะเป็นเพราะปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ ได้แก่
- ระดับฮอร์โมนไทรอกซิน (Thyroxin) ในเลือดเพิ่มสูงขึ้น
- ร่างกายขาดวิตามินบี 6 และสังกะสี
- เคยมีอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรงในการตั้งครรภ์ครั้งก่อน
- น้ำหนักเกิน หรือคุณแม่ตั้งครรภ์เป็นโรคอ้วน
- ตั้งครรภ์มาหลายครั้ง (ตั้งครรภ์มากกว่า 1 ครั้ง)
- เป็นการตั้งครรภ์ครั้งแรก
- อายุของคุณแม่ตั้งครรภ์อายุยังน้อย หรืออายุยังไม่ถึง 35 ปี
- อาจมีไขมันในเลือดสูง
วิธีรักษาอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรง
ก่อนอื่นคุณหมอจะทำการวินิจฉัยด้วยการสอบถามประวัติสุขภาพ ประวัติการใช้ยา อาการที่เกิดขึ้น รวมถึงการตรวจร่างกายไม่ว่าจะเป็นการตรวจเลือด ปัสสาวะ และอื่น ๆ เพื่อช่วยในการวินิจฉัยอาการ และทำการรักษาตามอาการของผู้ป่วย โดยวิธีรักษาอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรง ได้แก่
- การให้น้ำเกลือ เพื่อเพิ่มของเหลวในร่างกายหากมีภาวะขาดน้ำ เพิ่มสารอิเล็กโทรไลต์ (Electrolyte) วิตามิน และสารอาหารต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกาย
- การให้อาหารทางสายยาง เพื่อให้ได้รับสารอาหารอย่างสมดุล โดยให้สารอาหารผ่านท่อทางจมูก
- การใช้ยา แพทย์อาจสั่งยาอย่างน้อยหนึ่งตัวเพื่อช่วยลดอาการอาเจียนและคลื่นไส้ เช่น ยาบำบัดอาการคลื่นไส้อาเจียน ยาต้านฮิสทามีน ยาลดอาการกรดไหลย้อน แต่ถ้าหากไม่สามารถรับประทานยาได้ แพทย์จะใช้วิธีให้ยาทางหลอดเลือดดำ
อาการแพ้ท้องอย่างรุนแรงป้องกันอย่างไร
แม้ว่าจะยังไม่มีวิธีป้องกันอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรงที่ได้ผลชัดเจน แต่วิธีเหล่านี้อาจช่วยบรรเทาอาาการแพ้ท้องอย่างรุนแรงได้ เช่น
- การแบ่งมื้ออาหารออกเป็นหลายมื้อแทน แล้วรับประทานทีละน้อย
- รับประทานอาหารที่มีรสจืด แทนที่จะเป็นอาหารรสเผ็ด หรือรสจัด
- รับประทานอาหารที่ธาตุเหล็กเพิ่ม หากอาการคลื่นไส้เริ่มดีขึ้น
- รับประทานจำพวกวิตามินบี 6 รวมไปถึงสมุนไพร เช่น ขิง สะระแหน่
- การนอนหลับพักผ่อน เพื่อให้ร่างกายได้พัก แต่ก็ควรระวังการนอนมากเกินไป เพราะอาจส่งผลกระทบกับกล้ามเนื้อและน้ำหนักได้
- การกดจุด หรือการฝังเข็ม ควรอยู่ภายใต้การดูแลของคุณหมอ
อย่างไรก็ตามหากคุณแม่ตั้งครรภ์มีอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรง ควรรีบไปหาคุณหมอ เพื่อทำการรักษา เพราะการแพ้ท้องของแต่ละคนนั้นมีอาการที่แตกต่างกันไป