ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ · ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group
ยาไซโคลเบนซาพรีน (Cyclobenzaprine) ใช้ในระยะสั้น เพื่อรักษาอาการกล้ามเนื้อหดเกร็ง (muscle spasms) ยานี้มักจะใช้ร่วมกับการบำบัดทางกายภาพ ยานี้ทำงานโดยการช่วยคลายกล้ามเนื้อ
รับประทานยานี้พร้อมกับอาหาร หรือรับประทานแยกต่างหาก ตามที่แพทย์กำหนด โดยปกติคือวันละ 3 ครั้ง
ขนาดยาขึ้นอยู่กับสภาวะทางการแพทย์ และการตอบสนองต่อการรักษา ควรใช้ยานี้แค่ในระยะสั้นเท่านั้น (3 สัปดาห์หรือน้อยกว่านั้น) นอกเสียจากแพทย์จะสั่ง อย่าเพิ่มขนาดยา หรือใช้ยาบ่อยกว่าที่กำหนด อาการของคุณจะไม่หายไวขึ้น และความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงจะเพิ่มขึ้น
โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบ หากอาการของคุณยังมีอยู่หลังจากผ่านไป 2-3 สัปดาห์ หรือหากอาการแย่ลง
ยาไซโคลเบนซาพรีนควรเก็บที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย ไม่ควรเก็บยานี้ในห้องน้ำหรือช่องแช่แข็ง ยาไซโคลเบนซาพรีนบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยาหรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัย โปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ไม่ควรทิ้งยาไซโคลเบนซาพรีนลงในชักโครก หรือเทลงในท่อระบายน้ำ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน โปรดสอบถามเภสัชกรเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการกำจัดยาที่ถูกต้อง
ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์ทราบหาก
อย่าใช้ยาไซโคลเบนซาพรีน หากคุณได้ใช้ยาในกลุ่มเอ็มเอโอไอ (MAO inhibitor) ภายใน 14 วันที่ผ่านมา เพราะอาจเกิดปฏิกิริยาของยาได้ ยาในกลุ่มเอ็มเอโอไอนั้นมีทั้งยาไอโซคาร์โบซาซิด (isocarboxazid) ลิเนโซลิด (linezolid) ฟีเนลซีน (phenelzine) ราซาจิลีน (rasagiline) เซเลจิลีน (selegiline) และทรานีลไซโพรมีน (tranylcypromine)
คุณไม่ควรใช้ยาไซโคลเบนซาพรีน หากคุณแพ้ต่อยานี้ หรือหากคุณมีสภาวะดังนี้
ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยง ในสตรีที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้
ยาไซโคลเบนซาพรีนจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ หมวด B โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)
การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้
ผลข้างเคียงที่รุนแรงน้อยกว่ามีดังนี้
หยุดใช้ยาไซโคลเบนซาพรีน และติดต่อแพทย์ในทันที หากมีผลข้างเคียงดังนี้
รับการรักษาพยาบาลฉุกเฉินทันที หากคุณมีสัญญาณของอาการแพ้ ได้แก่ ลมพิษ หายใจติดขัด บวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ
ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ หรืออาจจะมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร
ยาไซโคลเบนซาพรีนอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรจะบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์
ยาไซโคลเบนซาพรีนอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
ยาไซโคลเบนซาพรีนอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณ ก่อนใช้ยาเสมอ
โรคที่อาจจะมีปฏิกิริยากับยานี้ได้แก่
ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม
ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาอาการกล้ามเนื้อหดเกร็ง
ขนาดยาสำหรับผู้สูงอายุเพื่อรักษาอาการกล้ามเนื้อหดเกร็ง
เนื่องจากยาคลายกล้ามเนื้อและยาแก้ปวดท้อง (antispasmodic drugs) ส่วนใหญ่นั้น สามารถทำให้เกิดผลแอนติโคลิเนอร์จิกที่ไม่พึงประสงค์ (anticholinergic adverse events) ภาวะเซื่องซึม (sedation) และอ่อนแรง และเนื่องจากประสิทธิภาพของยาในขนาดที่ผู้สูงอายุสามารถทนได้นั้น ยังเป็นที่สงสัยอยู่ ยาไซโคลเบนซาพรีนตามเกณฑ์ของเบียร์ (Beers criteria) นั้น เป็นยาที่อาจไม่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ
ผู้ผลิตแนะนำว่า ขนาดยาเริ่มต้นสำหรับผู้สูงอายุคือ 5 มก. ปรับขนาดยาเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ โดยขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผู้ป่วยแต่ละราย
ไม่แนะนำยาในรูปแบบยาเม็ดออกฤทธิ์นาน สำหรับผู้ป่วยสูงอายุ
ผู้ป่วยเด็กอายุ 15 ปีขึ้นไป
ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้
หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที
หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
หมายเหตุ
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย