backup og meta

คานาคินูแมบ (Canakinumab)

ข้อบ่งใช้

ยาคานาคินูแมบใช้สำหรับ

ยาคานาคินูแมบ (Canakinumab) ใช้เพื่อรักษากลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำบางชนิด (periodic fever syndromes) มีทั้งกลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำที่เกี่ยวข้องกับไครโอไพริน (CAPS) กลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำที่เกี่ยวข้องกับตัวรับทีเอ็นเอฟ (TRAPS) กลุ่มอาการไฮเปอร์อิมมิวนูโกลบูลิน ดี (HIDS) หรือโรคพร่องเอนไซม์เมโวโลเนต ไคเนส (MKD) และโรคไข้เมดิเตอร์เรเนียน (FMF)

ยาคานาคินูแมบทำงานโดยการปิดกั้นโปรตีนตามธรรมชาติบางอย่างในร่างกาย เช่น อินเตอร์ลิวคิน-1 เบต้า (interleukin-1 beta) ที่อาจทำให้ทำให้อาการของโรคเหล่านี้แย่ลงได้ ยาคานาคินูแมบอาจช่วยบรรเทาอาการอย่าง ผดผื่น อาการปวดข้อต่อหรือกล้ามเนื้อ ไข้ ตาแดง และอาการเหนื่อยล้า

ยาคานาคินูแมบยังใช้เพื่อรักษาโรคข้อรูมาตอยด์ในเด็กที่ไม่ทราบสาเหตุ (SJIA)

วิธีการใช้ยาคานาคินูแมบ

ฉีดยาเข้าใต้ผิวหนังตามที่แพทย์กำหนด หากคุณใช้ยานี้เพื่อรักษากลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำ ที่เกี่ยวข้องกับไครโอไพริน มักจะให้ยาทุกๆ 8 สัปดาห์

หากคุณใช้ยาเพื่อรักษากลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำ ที่เกี่ยวข้องกับยายับยั้งทีเอ็นเอฟ กลุ่มอาการไฮเปอร์อิมมิวนูโกลบูลิน ดี หรือโรคพร่องเอนไซม์เมโวโลเนต ไคเนส โรคไข้เมดิเตอร์เรเนียน และโรคข้อรูมาตอยด์ในเด็กที่ไม่ทราบสาเหตุ มักจะให้ยาทุกๆ 4 สัปดาห์ ขนาดยาขึ้นอยู่กับอายุ น้ำหนักตัว สภาวะทางการแพทย์ และการตอบสนองต่อการรักษา

หากคุณใช้ยานี้ที่บ้าน ควรเรียนรู้วิธีการเตรียมการ และวิธีการใช้ยาทั้งหมดจากผู้เชี่ยวชาญการดูแลสุขภาพ อย่าเขย่าขวดยา ก่อนใช้ยาควรตรวจสอบยา หากมีฝุ่นละอองหรือยาเปลี่ยนสีไม่ควรใช้ยานั้น ยาน้ำควรมีลักษณะใส และไม่มีสีหรือเป็นสีเลืองอมน้ำตาลอ่อน ควรเรียนรู้วิธีการเก็บรักษา และกำจัดอุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างปลอดภัย

ก่อนฉีดยาทุกครั้ง ควรทำความสะอาดบริเวณที่จะฉีดยาด้วยการเช็ดแอลกอฮอล์ ควรเปลี่ยนบริเวณฉีดยาทุกครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่บริเวณใต้ผิวหนัง อย่าฉีดยาลงบริเวณที่มีอาการกดเจ็บ มีรอยแดง หรือแข็ง ห้ามใช้เข็มฉีดยาหรือกระบอกฉีดยาซ้ำ

ใช้ยานี้เป็นประจำ เพื่อให้ได้ประโยชน์จากยาสูงสุด เพื่อให้จำง่ายขึ้น ควรทำเครื่องหมายไว้ที่ปฏิทิน เพื่อเตือนความจำเวลาที่ควรใช้ยาครั้งต่อไป

แจ้งให้แพทย์ทราบ หากอาการของคุณไม่ดีขึ้นหรือแย่ลง

การเก็บรักษายาคานาคินูแมบ

เก็บขวดยาไว้ที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส (36-46 องศาฟาเรนไฮต์) อย่าแช่แข็งยา หลังจากคืนรูปยาผง สามารถเก็บขวดยาไว้ในอุณหภูมิห้องได้นานถึง 1 ชั่วโมง หรือเก็บไว้ในตู้เย็นที่ 2-8 องศาเซลเซียส (36-46 องศาฟาเรนไฮต์) ได้นานถึง 4 ชั่วโมง เก็บให้พ้นจากแสงก่อนและหลังคืนรูปยา กำจัดยาส่วนที่ไม่ได้ใช้

ยาคานาคินูแมบบางยี่ห้ออาจมีวิธีเก็บรักษาแตกต่างกัน จึงควรตรวจสอบฉลากยา หรือสอบถามเภสัชกรเสมอ เพื่อความปลอดภัยโปรดเก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง

ไม่ควรทิ้งยาคานาคินูแมบลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ เว้นเสียแต่จะได้รับคำแนะนำให้ทำเช่นนั้น หากยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยา ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้อง โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเภสัชกร

ข้อควรระวังและคำเตือน

ข้อควรรู้ก่อนใช้ยาคานาคินูแมบ

ก่อนใช้ยาคานาคินูแมบ แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากคุณแพ้ต่อยานี้ หรือหากคุณเป็นโรคภูมิแพ้อื่นๆ ยานี้อาจมีส่วนประกอบไม่ออกฤทธิ์ที่ทำให้เกิดอาการแพ้หรือปัญหาอื่น โปรดปรึกษาเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ก่อนใช้ยานี้ แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบเกี่ยวกับประวัติทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน เช่น การติดเชื้อเอชไอวี การติดเชื้อที่กำลังเป็นอยู่ เพิ่งเป็นไม่นานมานี้ หรือกำเริบ รวมถึงโรคตับอักเสบ โรควัณโรค โรคมะเร็ง

ก่อนเริ่มใช้ยานี้ ควรทำการทดสอบวัณโรคทางผิวหนัง (tuberculosis skin test) เพื่อตรวจหาวัณโรคที่อาจไม่ทำให้เกิดอาการอย่างวัณโรคระยะแฝง (latent TB) หากคุณได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นวัณโรค คุณควรรักษาวัณโรคก่อนเริ่มต้นใช้ยาคานาคินูแมบเพื่อป้องกันการติดเชื้อวัณโรคที่รุนแรง

ยาคานาคินูแมบสามารถทำให้คุณมีโอกาสติดเชื้อมากขึ้นหรือทำให้อาการติดเชื้อที่เป็นอยู่รุนแรงขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการติดต่อผู้มีอาการติดเชื้อที่สามารถแพร่สู่ผู้อื่นได้ เช่น โรคอีสุกอีใส ไข้หวัดใหญ่ หากสงสัยว่าตัวเองเสี่ยงได้รับเชื้อ หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ควรปรึกษาแพทย์

อย่าสร้างภูมิคุ้มกันหรือรับวัคซีนโดยไม่ปรึกษาแพทย์ หลีกเลี่ยงการติดต่อกับผู้ที่เพิ่งรับวัคซีนเชื้อเป็น เช่นวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่รับโดยการสูดดม

ในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์ควรใช้ยานี้เมื่อจำเป็นเท่านั้น โปรดปรึกษาแพทย์ เกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ของการใช้ยา

ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ยานี้สามารถเข้าสู่น้ำนมแม่ได้หรือไม่ โปรดปรึกษาแพทย์ก่อนให้นมบุตร

ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือ เกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรีที่ใช้ยานี้ ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้

ยาคานาคินูแมบจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์ หมวด N โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)

การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อผู้ตั้งครรภ์โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้

  • A = ไม่มีความเสี่ยง
  • B = ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
  • C = อาจจะมีความเสี่ยง
  • D = มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
  • X = ห้ามใช้
  • N = ไม่ทราบแน่ชัด

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงของการใช้ยาคานาคินูแมบ

อาจเกิดรอยแดง อาการคัน อาการปวด ความรู้สึกอุ่น หรืออาการบวมตรงบริเวณที่ฉีดยา และยังอาจมีอาการวิงเวียน คลื่นไส้ ท้องร่วง หรือปวดหัวเกิดขึ้น หากอาการเหล่านี้ไม่หายไปหรือรุนแรงขึ้นโปรดแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรทันที

โปรดจำไว้ว่าการที่แพทย์ให้คุณใช้ยาตัวนี้เนื่องจากประเมินแล้วว่ายามีประโยชน์มากกว่าโทษ และคนที่ใช้ยานี้ส่วนใหญ่ไม่พบผลข้างเคียงที่ร้ายแรงใดๆ

ยานี้สามารถส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันและลดความสามารถในการต่อสู้กับการติดเชื้อของร่างกายได้ คุณอาจมีโอกาสในการติดเชื้อที่รุนแรงมากขึ้น เช่น โรคปอดบวม (pneumonia) การติดเชื้อที่กระดูกหรือข้อต่อ การติดเชื้อที่ผิวหนัง ไซนัสอักเสบ นอกจากนี้ ยังอาจทำให้การติดเชื้อที่คุณกำลังเป็นอยู่รักษาได้ยากขึ้น แจ้งให้แพทย์ทราบในทันที หากคุณมีสัญญาณของการติดเชื้อ เช่น เป็นไข้ หนาวสั่น ไอ  มีอาการของโรคหวัดหรือไข้หวัดใหญ่

การแพ้ยาที่รุนแรงต่อยานี้ ค่อนข้างเกิดขึ้นได้ยาก แต่จำเป็นต้องได้รับการรักษาที่ทันท่วงที อาการของการแพ้รุนแรงมีดังนี้ วิงเวียนขั้นรุนแรง หายใจติดขัด ผดผื่น คันหรือบวม โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ลิ้น และลำคอ

ผลข้างเคียงที่กล่าวมาข้างต้น อาจไม่ได้เกิดกับทุกคน หรือบางคนอาจมีอาการอื่นนอกเหนือจากนี้ หากคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร

ปฏิกิริยาของยา

ปฏิกิริยากับยาอื่น

ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับยานี้ได้แก่ ยาอินเตอร์ลิวคิน-1 บล็อกเกอร์ อื่นๆ (IL-1 blockers) เช่น อะนาคินรา (anakinra) ไรโลนาเซป (rilonacept) ยาทีเอ็นเอฟบล็อกเกอร์ (TNF-blockers) เช่น อะดาลิมูแมบ (adalimumab) อีทาเนอร์เซป (etanercept) อินฟลิซิแมบ (infliximab)

ยาคานาคินูแมบอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น คุณควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรด้วยว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์

ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์

ยาคานาคินูแมบอาจมีปฏิกิริยากับอาหารหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

ยานี้อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือกัญชานั้นอาจทำให้อาการวิงเวียนรุนแรงขึ้นได้ อย่าขับรถ ใช้เครื่องจักร หรือทำกิจกรรมที่ต้องการความตื่นตัวจนกว่าคุณจะสามารถทำได้อย่างปลอดภัย จำกัดปริมาณเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และปรึกษาแพทย์หากคุณใช้กัญชา

ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น

ยาคานาคินูแมบอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ

ขนาดยา

ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม

ขนาดยาคานาคินูแมบสำหรับผู้ใหญ่

ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษากลุ่มอาการแฟมิเลียล โคลด์ ออโตอินเฟรมเมทอรี (Familial Cold Autoinflammatory Syndrome)

  • น้ำหนัก 40 กก. หรือน้อยกว่า : ควรมีการศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิต
  • น้ำหนักมากกว่า 40 กก. : 150 มก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 8 สัปดาห์
  • การใช้งาน : เพื่อรักษากลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำที่เกี่ยวข้องกับไครโอไพริน รวมถึงกลุ่มอาการแฟมิเลียล โคลด์ ออโตอินเฟรมเมทอรี และกลุ่มอาการมัคเคิล เวลส์

ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษากลุ่มอาการมัคเคิล เวลส์ (Muckle Wells Syndrome)

  • น้ำหนัก 40 กก. หรือน้อยกว่า : ควรมีการศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิต
  • น้ำหนักมากกว่า 40 กก. : 150 มก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 8 สัปดาห์
  • การใช้งาน : เพื่อรักษากลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำที่เกี่ยวข้องกับไครโอไพริน รวมถึงกลุ่มอาการแฟมิเลียล โคลด์ ออโตอินเฟรมเมทอรี และกลุ่มอาการมัคเคิล เวลส์

ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษากลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำที่เกี่ยวข้องกับไครโอไพริน (Cryopyrin-Associated Periodic Syndrome)

  • น้ำหนัก 40 กก. หรือน้อยกว่า : ควรมีการศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิต
  • น้ำหนักมากกว่า 40 กก. : 150 มก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 8 สัปดาห์
  • การใช้งาน : เพื่อรักษากลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำที่เกี่ยวข้องกับไครโอไพริน รวมถึงกลุ่มอาการแฟมิเลียล โคลด์ ออโตอินเฟรมเมทอรี และกลุ่มอาการมัคเคิล เวลส์

ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาโรคไข้เมดิเตอร์เรเนียน (Familial Mediterranean Fever)

  • น้ำหนัก 40 กก. หรือน้อยกว่า : ควรมีการศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิต
  • น้ำหนักมากกว่า 40 กก. : 150 มก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 4 สัปดาห์
  • หากการตอบสนองไม่เพียงพอ : สามารถเพิ่มขึ้นถึง 300 มก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 4 สัปดาห์
  • การใช้งาน : เพื่อรักษากลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำอักเสบ (Autoinflammatory periodic fever syndromes) รวมถึงกลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำที่เกี่ยวข้องกับยายับยั้งทีเอ็นเอฟ กลุ่มอาการไฮเปอร์อิมมิวนูโกลบูลิน ดี หรือโรคพร่องเอนไซม์เมโวโลเนต ไคเนส และโรคไข้เมดิเตอร์เรเนียน

ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษากลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำไฮเปอร์อิมมิวนูโกลบูลิน ดี (Hyperimmunoglobulin D Periodic Fever Syndrome)

  • น้ำหนัก 40 กก. หรือน้อยกว่า : ควรมีการศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิต
  • น้ำหนักมากกว่า 40 กก. : 150 มก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 4 สัปดาห์
  • หากการตอบสนองไม่เพียงพอ : สามารถเพิ่มขึ้นถึง 300 มก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 4 สัปดาห์
  • การใช้งาน : เพื่อรักษากลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำอักเสบ (Autoinflammatory periodic fever syndromes) รวมถึงกลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำที่เกี่ยวข้องกับยายับยั้งทีเอ็นเอฟ กลุ่มอาการไฮเปอร์อิมมิวนูโกลบูลิน ดี หรือโรคพร่องเอนไซม์เมโวโลเนต ไคเนส และโรคไข้เมดิเตอร์เรเนียน

ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษากลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำที่เกี่ยวข้องกับตัวรับทีเอ็นเอฟ (Tumor Necrosis Factor Receptor Associated Periodic Fever Syndrome)

  • น้ำหนัก 40 กก. หรือน้อยกว่า : ควรมีการศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิต
  • น้ำหนักมากกว่า 40 กก. : 150 มก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 4 สัปดาห์
  • หากการตอบสนองไม่เพียงพอ : สามารถเพิ่มขึ้นถึง 300 มก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 4 สัปดาห์
  • การใช้งาน: เพื่อรักษากลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำอักเสบ (Autoinflammatory periodic fever syndromes) รวมถึงกลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำที่เกี่ยวข้องกับยายับยั้งทีเอ็นเอฟ กลุ่มอาการไฮเปอร์อิมมิวนูโกลบูลิน ดี หรือโรคพร่องเอนไซม์เมโวโลเนต ไคเนส และโรคไข้เมดิเตอร์เรเนียน

คำแนะนำอื่นๆ

คำแนะนำการใช้งาน

  • ควรหลีกเลี่ยงการฉีดยาเข้าในบริเวณเนื้อเยื่อแผลเป็น
  • ยาหนึ่งขวดใช้สำหรับการใช้งานหนึ่งครั้งในผู้ป่วย 1 ราย กำจัดยาส่วนที่ไม่ได้ใช้

การเก็บรักษา

  • ควรมีการศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิต

เทคนิคการคืนรูปยาหรือการเตรียมการ

  • ควรมีการศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิต

ความเข้ากันของการฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำ (IV compatibility)

  • ควรมีการศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิต

ขนาดยาคานาคินูแมบสำหรับเด็ก

ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษากลุ่มอาการแฟมิเลียล โคลด์ ออโตอินเฟรมเมทอรี (Familial Cold Autoinflammatory Syndrome)

อายุ 4 ปีขึ้นไป

  • 15 ถึง 40 กก. : 2 มก./กก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 8 สัปดาห์
  • หากการตอบสนองไม่เพียงพอ : สามารถเพิ่มขึ้นถึง 3 มก./กก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 8 สัปดาห์
  • น้ำหนักมากกว่า 40 กก. : 150 มก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 8 สัปดาห์
  • การใช้งาน : เพื่อรักษากลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำที่เกี่ยวข้องกับไครโอไพริน รวมถึงกลุ่มอาการแฟมิเลียล โคลด์ ออโตอินเฟรมเมทอรี และกลุ่มอาการมัคเคิล เวลส์

ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษากลุ่มอาการมัคเคิล เวลส์ (Muckle Wells Syndrome)

อายุ 4 ปีขึ้นไป

  • 15 ถึง 40 กก. : 2 มก./กก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 8 สัปดาห์
  • หากการตอบสนองไม่เพียงพอ : สามารถเพิ่มขึ้นถึง 3 มก./กก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 8 สัปดาห์
  • น้ำหนักมากกว่า 40 กก. : 150 มก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 8 สัปดาห์
  • การใช้งาน : เพื่อรักษากลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำที่เกี่ยวข้องกับไครโอไพริน รวมถึงกลุ่มอาการแฟมิเลียล โคลด์ ออโตอินเฟรมเมทอรี และกลุ่มอาการมัคเคิล เวลส์

ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษากลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำที่เกี่ยวข้องกับไครโอไพริน (Cryopyrin-Associated Periodic Syndrome)

อายุ 4 ปีขึ้นไป

  • 15 ถึง 40 กก. : 2 มก./กก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 8 สัปดาห์
  • หากการตอบสนองไม่เพียงพอ : สามารถเพิ่มขึ้นถึง 3 มก./กก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 8 สัปดาห์
  • น้ำหนักมากกว่า 40 กก. : 150 มก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 8 สัปดาห์
  • การใช้งาน : เพื่อรักษากลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำที่เกี่ยวข้องกับไครโอไพริน รวมถึงกลุ่มอาการแฟมิเลียล โคลด์ ออโตอินเฟรมเมทอรี และกลุ่มอาการมัคเคิล เวลส์

ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคไข้เมดิเตอร์เรเนียน (Familial Mediterranean Fever)

อายุ 2 ปีขึ้นไป

  • น้ำหนัก 40 กก. หรือน้อยกว่า : 2 มก./กก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 4 สัปดาห์
  • หากการตอบสนองไม่เพียงพอ : สามารถเพิ่มขึ้นถึง 4 มก./กก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 4 สัปดาห์
  • น้ำหนักมากกว่า 40 กก. : 150 มก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 4 สัปดาห์
  • หากการตอบสนองไม่เพียงพอ : สามารถเพิ่มขึ้นถึง 300 มก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 4 สัปดาห์
  • การใช้งาน : เพื่อรักษากลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำอักเสบ (Autoinflammatory periodic fever syndromes) รวมถึงกลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำที่เกี่ยวข้องกับยายับยั้งทีเอ็นเอฟ กลุ่มอาการไฮเปอร์อิมมิวนูโกลบูลิน ดี หรือโรคพร่องเอนไซม์เมโวโลเนต ไคเนส และโรคไข้เมดิเตอร์เรเนียน

ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษากลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำไฮเปอร์อิมมิวนูโกลบูลิน ดี (Hyperimmunoglobulin D Periodic Fever Syndrome)

อายุ 2 ปีขึ้นไป

  • น้ำหนัก 40 กก. หรือน้อยกว่า : 2 มก./กก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 4 สัปดาห์
  • หากการตอบสนองไม่เพียงพอ : สามารถเพิ่มขึ้นถึง 4 มก./กก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 4 สัปดาห์
  • น้ำหนักมากกว่า 40 กก. : 150 มก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 4 สัปดาห์
  • หากการตอบสนองไม่เพียงพอ : สามารถเพิ่มขึ้นถึง 300 มก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 4 สัปดาห์
  • การใช้งาน : เพื่อรักษากลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำอักเสบ (Autoinflammatory periodic fever syndromes) รวมถึงกลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำที่เกี่ยวข้องกับยายับยั้งทีเอ็นเอฟ กลุ่มอาการไฮเปอร์อิมมิวนูโกลบูลิน ดี หรือโรคพร่องเอนไซม์เมโวโลเนต ไคเนส และโรคไข้เมดิเตอร์เรเนียน

ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษากลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำที่เกี่ยวข้องกับตัวรับทีเอ็นเอฟ (Tumor Necrosis Factor Receptor Associated Periodic Fever Syndrome)

อายุ 2 ปีขึ้นไป

  • น้ำหนัก 40 กก. หรือน้อยกว่า : 2 มก./กก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 4 สัปดาห์
  • หากการตอบสนองไม่เพียงพอ : สามารถเพิ่มขึ้นถึง 4 มก./กก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 4 สัปดาห์
  • น้ำหนักมากกว่า 40 กก. : 150 มก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 4 สัปดาห์
  • หากการตอบสนองไม่เพียงพอ : สามารถเพิ่มขึ้นถึง 300 มก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 4 สัปดาห์
  • การใช้งาน : เพื่อรักษากลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำอักเสบ (Autoinflammatory periodic fever syndromes) รวมถึงกลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำที่เกี่ยวข้องกับยายับยั้งทีเอ็นเอฟ กลุ่มอาการไฮเปอร์อิมมิวนูโกลบูลิน ดี หรือโรคพร่องเอนไซม์เมโวโลเนต ไคเนส และโรคไข้เมดิเตอร์เรเนียน

ขนาดยาสำหรับเด็กเพื่อรักษาโรคข้ออักเสบไม่ทราบสาเหตุในเด็ก (Juvenile Idiopathic Arthritis)

  • อายุ 2 ปีขึ้นไปและหนักอย่างน้อย 7.5 กก. : 4 มก./กก. ฉีดใต้ผิวหนังทุกๆ 4 สัปดาห์
  • ขนาดยาสูงสุด : 300 มก.

คำแนะนำ

  • ขนาดยาที่ได้รับการยอมรับนั้นสำหรับผู้ที่มีน้ำหนัก 7.5 กก. ขึ้นไปเท่านั้น
  • การใช้งาน: เพื่อรักษาโรคข้อรูมาตอยด์ในเด็กที่ไม่ทราบสาเหตุ (SJIA) ที่กำลังมีอาการ

ข้อควรระวัง

  • กลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำที่เกี่ยวข้องกับไครโอไพริน : ยังไม่มีการพิสูจน์ความปลอดภัยและประสิทธิภาพในผู้ป่วยที่อายุน้อยกว่า 4 ปี
  • กลุ่มอาการไข้กลับเป็นซ้ำที่เกี่ยวข้องกับยายับยั้งทีเอ็นเอฟ กลุ่มอาการไฮเปอร์อิมมิวนูโกลบูลิน ดีหรือโรคพร่องเอนไซม์เมโวโลเนต ไคเนส และโรคไข้เมดิเตอร์เรเนียน : ยังไม่มีการพิสูจน์ความปลอดภัยและประสิทธิภาพในผู้ป่วยที่อายุน้อยกว่า 2 ปี
  • โรคข้อรูมาตอยด์ในเด็กที่ไม่ทราบสาเหตุ : ยังไม่มีการพิสูจน์ความปลอดภัยและประสิทธิภาพในผู้ป่วยที่อายุน้อยกว่า 2 ปี หรือมีน้ำหนักน้อบกว่า 7.5 กก.

รูปแบบของยา

ความแรงและรูปแบบของยามีดังนี้

  • ยาผงสำหรับฉีดเข้าใต้ผิวหนัง
  • ยาสารละลายสำหรับฉีดเข้าใต้ผิวหนัง

กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด

หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที

กรณีลืมใช้ยา

หากคุณลืมใช้ยาควรรีบใช้ทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยา

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

[embed-health-tool-bmi]

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Canakinumab Dosage. https://www.drugs.com/dosage/canakinumab.html. Accessed May 30, 2018.

Canakinumab (PF) Solution, Reconstituted (Recon Soln). https://www.webmd.com/drugs/2/drug-152788/canakinumab-pf-subcutaneous/details. Accessed May 30, 2018.

Canakinumab. https://www.drugbank.ca/drugs/DB06168. Accessed May 30, 2018.

เวอร์ชันปัจจุบัน

11/05/2020

เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ

อัปเดตโดย: Nattavara Pasathan


บทความที่เกี่ยวข้อง

ไม่ใช่แค่ป่วยบ่อย แต่ ความเครียดจากการทำงาน ส่งผลต่อสุขภาพมากกว่าที่คุณคิด

เด็กเป็นไข้ อาการ และวิธีการรับมือ


ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

เภสัชกรวิสสุตา ชั้นประเสริฐ

ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา