backup og meta

นิโมดิปีน (Nimodipine)

นิโมดิปีน (Nimodipine)

ข้อบ่งใช้ นิโมดิปีน

นิโมดิปีน ใช้สำหรับ

นิโมดิปีน (Nimodipine) ใช้สำหรับรักษาเพื่อลดปัญหาเนื่องจากอาการเลือดออกในสมองบางชนิด เช่น เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นกลาง ยานิโมดิปีนเป็นยาในกลุ่มแคลเซียมชาแนลบล็อกเกอร์ (Calcium Channel Blocker) นิโมดิปีนถูกให้ทำงานโดยการผ่อนคลายหลอดเลือดในสมองใกล้กับบริเวณที่มีเลือดออกเพื่อให้เลือดสามารถไหลได้ง่ายขึ้น ช่วยลดความเสียหายของสมองอื่นๆ ที่จะได้รับผลกระทบ

โดยธรรมชาติของร่างกายมักจะตอบสนองต่ออาการเลือดออกตามธรรมชาติ ด้วยการหดของหลอดเลือดให้ตีบแคบลงเพื่อชะลอการไหลเวียนของเลือด แต่สำหรับอาการเลือดออกในสมองนั้น การหยุดเลือดที่ไหล จะสร้างความเสียหายต่อสมองได้มากกว่าจึงมีการนำนิโมดิปีนเข้ามาช่วยบรรเทาอาการนี้

วิธีการใช้ นิโมดิปีน

  • ใช้ยานิโมดิปีนทันทีที่เริ่มมีอาการเลือดออกในสมอง ตามปกติคือภายใน 4 วัน รับประทานทุกๆ 4 ชั่วโมง หรือตามที่แพทย์กำหนด
  • หากคุณใช้ยาเม็ดควรรับประทานพร้อมกับน้ำเปล่าอย่างเพียงพอ (8 ออนซ์หรือ 240 มล.)
  • อย่าล้มตัวลงนอนภายใน 10 นาที หลังจากรับประทานยา
  • กลืนยาลงไปทั้งเม็ด ไม่ควรบด แบ่ง หรือเคี้ยวยา
  • หากคุณใช้ยาแคปซูล ควรรับประทานนิโมดิปีนอย่างน้อยก่อนหรือหลังมื้ออาหาร 1-2 ชั่วโมง หรือตามที่แพทย์กำหนด กลืนยาแคปซูลลงไปทั้งเม็ด ถ้าไม่สามารถกลืนได้ อาจเจาะรูที่แคปซูล แล้วใช้เข็มฉีดยาดูดยาน้ำภายในแคปซูลออกมาแล้วรับประทานหรือให้ยาผ่านทางสายให้อาหาร (nasogastric tube) โดยใช้กระบอกฉีดยา อย่าผสมสารในแคปซูลนี้กับยาอื่นๆ เพราะอาจทำให้ยามีประสิทธิภาพเปลี่ยนแปลง
  • หากใช้ยาชนิดน้ำ (สารละลายสำหรับรับประทาน) ควรตวงยาอย่างระมัดระวัง ด้วยเครื่องมือหรือช้อนสำหรับตวงยา ไม่ควรใช้ช้อนธรรมดาเพราะอาจได้ขนาดยาไม่ถูกต้อง รับประทานนิโมดิปีนอย่างน้อยก่อนหรือหลังมื้ออาหาร 1-2 ชั่วโมงอาจใช้ยาผ่านสายให้อาหาร หากคุณให้ยาผ่านทางสายให้อาหาร โปรดสอบถามแพทย์สำหรับข้อมูลวิธีการใช้ยา
  • อย่ารับประทานยาลดกรดเป็นเวลา 2 ชั่วโมง ก่อนหรือหลังรับประทานยานิโมดิปีน เพราะอาจทำให้ยาไม่ทำงาน
  • ปริมาณยาขึ้นอยู่กับสภาวะทางการแพทย์ และการตอบสนองต่อการรักษา

ใช้นิโมดิปีนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผลดีที่สุด เพื่อช่วยเตือนความจำ ควรรับประทานในระยะเวลาเดียวกันของทุกวัน อย่าหยุดรับประทานนิโมดิปีนเเม้ว่าคุณจะมีอาการที่ดีขึ้นเเล้วก็ตาม

อย่าหยุดใช้ยานี้อย่างกะทันหันโดยไม่ปรึกษาแพทย์ ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด อาการของคุณอาจจะแย่ลง หากหยุดใช้ยาเร็วเกินไป

แจ้งให้แพทย์ทราบหากอาการรุนแรงขึ้น หรือมีอาการแย่ลง

การเก็บรักษา นิโมดิปีน

  • ควรเก็บในอุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงแสงหรือความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวยาเกิดความเสียหาย
  • เก็บยาให้ห่างจากมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
  • ไม่ควรทิ้งนิโมดิปีนลงในชักโครก หรือเทยาลงในท่อระบายน้ำ ควรกำจัดยาด้วยวิธีที่ถูกต้องเมื่อยาหมดอายุ หรือไม่มีความจำเป็นต้องใช้งาน

นิโมดิปีนบางยี่ห้ออาจจะต้องเก็บรักษาแตกต่างกัน ตรวจสอบฉลากข้างบรรจุภัณฑ์หรือสอบถามแพทย์และเภสัชกรเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัย

ข้อควรระวังและคำเตือน

ข้อควรรู้ก่อนใช้ นิโมดิปีน

  • ก่อนใช้ยานิโมดิปีน แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ หากคุณแพ้ยาที่มีส่วนประกอบของนิโมดิปีน และแพ้ต่อยาในกลุ่มแคลเซียมชาแนลบล็อกเกอร์ ที่มีโครงสร้างไดไฮโดรไพริดีน (dihydropyridine) เช่น แอมโลดิปีน (amlodipine) หรือไนเฟดิปีน (nifedipine) หรือหากคุณเป็นโรคภูมิแพ้อื่นๆ ยาตัวนี้อาจมีส่วนผสมที่ไม่ได้ออกฤทธิ์ แต่อาจทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้หรือปัญหาอื่นๆ ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
  • แจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบ เกี่ยวกับประวัติโรคประจำตัวทางการแพทย์ของคุณ โดยเฉพาะอาการเจ็บหน้าอก หรือเริ่มมีอาการหัวใจขาดเลือดฉับพลัน ความดันโลหิตต่ำ รวมถึงอาการบาดเจ็บที่หัว และโรคตับ

ยานี้อาจทำให้คุณวิงเวียนศีรษะหรือง่วงซึม งดใช้ยานพาหนะ หรือใช้เครื่องจักร รวมถึงการทำกิจกรรมใดๆ ที่จำเป็นต้องอาศัยความตื่นตัว และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มเเอลกอฮอล์ จนกว่าจะได้รับการอนุญาตจากแพทย์ 

ก่อนเข้ารับการผ่าตัด เเจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยาทั้งหมดที่คุณใช้ (รวมถึงยาที่จำหน่ายโดยแพทย์หรือเภสัชกร และสมุนไพรอื่นๆ )

ผู้สูงอายุอาจจะมีปฏิกิริยาไวต่อผลข้างเคียงของยานี้ได้มากกว่า โดยเฉพาะอาการวิงเวียน หรืออาการบวมที่ข้อเท้าหรือเท้า อาการวิงเวียนนั้นสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการหกล้มได้

ระหว่างตั้งครรภ์ ควรใช้ยานี้เท่าที่จำเป็น ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับความเสี่ยงและประโยชน์ของยาชนิดนี้

ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่า นิโมดิปีนอาจซึมเข้าไปในน้ำนมมารดาได้หรือไม่ ปรึกษาแพทย์ก่อนให้นมบุตร

ความปลอดภัยต่อการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ยังไม่มีงานวิจัยที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความเสี่ยงในสตรี ที่ใช้ยานี้ในช่วงการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร โปรดปรึกษาแพทย์เพื่อหาประโยชน์และความเสี่ยงก่อนการใช้ยานี้

นิโมดิปีนจัดอยู่ในประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ ประเภท C โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA)

การจัดประเภทของยาที่มีความเสี่ยงต่อสตรีมีครรภ์ โดยองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกามีดังนี้

  • A= ไม่มีความเสี่ยง
  • B= ไม่พบความเสี่ยงในการวิจัยบางชิ้น
  • C= อาจจะมีความเสี่ยง
  • D= มีหลักฐานแสดงถึงความเสี่ยง
  • X= ห้ามใช้
  • N= ไม่ทราบแน่ชัด

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงของการใช้ นิโมดิปีน

อาการที่สามารถพบได้ทั่วไป มีดังนี้

  • อาจเกิดอาการวิงเวียน หน้ามืด หน้าแดง
  • อาการบวมที่ข้อเท้าหรือเท้า

แจ้งให้แพทย์ทราบในทันที หากเกิดผลข้างเคียงที่ไม่ค่อยจะเกิดขึ้นแต่รุนแรงดัง ต่อไปนี้

  • หมดสติ วิงเวียนขั้นรุนแรง
  • หัวใจเต้นช้าหรือเร็ว
  • ปวดท้องอย่างรุนแรง ท้องอืด
  • ไม่สามารถอุจจาระได้นานกว่า 3 วัน
  • คลื่นไส้อาเจียนอย่างรุนแรง
  • การมองเห็นเปลี่ยนแปลง
  • ผดผื่น คันหรือบวม (โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ลิ้น และลำคอ)
  • หายใจติดขัด

เพื่อลดอาการวิงเวียนศีรษะ ค่อยๆ ลุกขึ้นเมื่อเปลี่ยนจากท่านั่งหรือนอน เป็นท่ายืน

หากอาการเหล่านี้เกิดขึ้นเป็นระยะเวลานานหรือเเย่ลง เเจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบทันที

คุณอาจเห็นเปลือกยาเม็ดเมื่อถ่ายอุจจาระ ผลดังกล่าวไม่เป็นอันตรายเพราะร่างกายของคุณได้ดูดซึมยาเเล้ว

โปรดจำไว้ว่า การที่แพทย์ให้คุณใช้ยาตัวนี้ เนื่องจากคำนวณแล้วว่า ยามีสรรพคุณในการรักษามากกว่าเป็นโทษ และคนที่ใช้ยานี้ส่วนใหญ่ไม่พบผลข้างเคียงที่ร้ายแรงใดๆ

ไม่ใช่ทุกคนจะเจอกับผลข้างเคียงเหล่านี้ และอาจมีอาการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่กล่าวมาข้างต้น ถ้าคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับผลข้างเคียงเพิ่มเติม โปรดปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร

ปฏิกิริยาของยา

ปฏิกิริยากับยาอื่น

ยาที่อาจมีปฏิกิริยากับนิโมดิปีน ได้แก่

ยาอื่นอาจส่งผลกระทบต่อการกำจัดยานิโมดิปีนออกจากร่างกายและส่งผลต่อการทำงานของยานี้ คือ

  • ไซเมทิดีน (cimetidine)
  • ยาต้านเชื้อรากลุ่มเอโซล (azole antifungals) เช่น ไอทราโคนาโซล (itraconazole) ยาปฏิชีวนะแมคโครไลด์ (macrolide antibiotics) เช่น อิริโทรมัยซิน (erythromycin)
  • ยาไรฟามัยซิน (rifamycins) เช่น ไรฟาบูติน (rifabutin)
  • สมุนไพรเซนต์จอห์นเวิร์ท
  • ยารักษาอาการชัก เช่น คาร์บาเมเซพีน (carbamazepine) หรือเฟนีโทอิน (phenytoin) และอื่นๆ

ผลิตภัณฑ์บางชนิดอาจจะมีส่วนผสม ที่สามารถเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ หรือระดับความดันโลหิตได้ แจ้งให้เภสัชกรทราบ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่คุณใช้ และสอบถามวิธีใช้อย่างปลอดภัย โดยเฉพาะยาแก้ไอแก้หวัด ยาลดความอ้วน หรือยาแก้อักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เช่น ไอบูโพรเฟน (ibuprofen) หรือนาพรอกเซน (naproxen)

นิโมดิปีนอาจเกิดปฏิกิริยากับยาอื่นที่คุณกำลังใช้อยู่ ซึ่งอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดผลข้างเคียง เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้น คุณควรบอกแพทย์หรือเภสัชกรของคุณว่า คุณกำลังใช้ยาอะไรอยู่บ้าง (ทั้งยาตามใบสั่งแพทย์ ยาที่ซื้อได้เอง และสมุนไพรต่างๆ) เพื่อความปลอดภัย โปรดอย่าเริ่ม หยุด หรือเปลี่ยนขนาดยาใดๆ โดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากแพทย์

ปฏิกิริยากับอาหารหรือแอลกอฮอล์

นิโมดิปีนอาจทำปฎิกิริยากับอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยจะปรับเปลี่ยนประสิทธิภาพการทำงานของยา หรือเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียงรุนแรงอื่นๆ โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ

ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานหรือดื่มน้ำเกรปฟรุต ขณะที่กำลังใช้ยานี้ เพราะเกรปฟรุตสามารถเพิ่มโอกาสในการเกิดผลข้างเคียงของยานี้ได้ โปรดสอบถามแพทย์หรือเภสัชกรสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

ปฏิกิริยากับอาการโรคอื่น

นิโมดิปีนอาจส่งผลให้อาการโรคของคุณแย่ลง หรือส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา โปรดแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบถึงสภาวะโรคของคุณก่อนใช้ยาเสมอ

ขนาดยา

ข้อมูลในที่นี้ไม่มีเจตนาให้ใช้ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งเพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม

ขนาด นิโมดิปีน สำหรับผู้ใหญ่

ขนาดยาสำหรับผู้ใหญ่เพื่อรักษาอาการเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นกลาง (Subarachnoid Hemorrhage)

  • 60 มก. รับประทาน หรือให้ยาทางสายให้อาหาร ทุกๆ 4 ชั่วโมง
  • ระยะเวลาของการรักษา : 21 วัน

คำแนะนำ

  • ควรเริ่มต้นการรักษาภายใน 96 ชั่วโมง เมื่อเริ่มมีอาการเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นกลาง
  • ควรหลีกเลี่ยงการฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำและวิธีการฉีดยาอื่นๆ

การใช้งาน

  • เพื่อเพิ่มผลการทำงานของสมอง (neurological outcome) โดยการลดอาการและความรุนแรงของการขาดเลือด ในผู้ป่วยที่มีอาการเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นกลาง จากหลอดเลือดโป่งพองภายในสมองแตก (ruptured intracranial berry aneurysms) โดยไม่คำนึงถึงระยะหลังชักของสภาวะทางระบบประสาท เช่น แบบประเมินความรุนแรงของฮันท์และเฮส (Hunt and Hess Grades) ระดับ I ถึง V

การปรับขนาดยาสำหรับตับ

  • ผู้ป่วยที่เป็นโรคตับแข็ง (cirrhosis) : 30 มก. รับประทานทุกๆ 4 ชั่วโมง

คำแนะนำ

  • ควรเฝ้าระวังความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจอย่างใกล้ชิดระหว่างการรักษา
  • หากจำเป็นควรพิจารณาการหยุดใช้ยา

การปรับขนาดยา

  • ใช้ร่วมกับยาเหนี่ยวนำหรือยายับยั้งเอนไซม์ไซโตรโครมพี 450 3 เอ 4 แบบแรง (strong CYP450 3A4 inducers/inhibitors) : หลีกเลี่ยงการใช้
  • ใช้ร่วมกับยาเหนี่ยวนำเอนไซม์ไซโตรโครมพี 450 3 เอ 4 แบบปานปลางหรือเบา ให้เฝ้าสังเกตประสิทธิภาพ และอาจพิจารณาเพิ่มปริมาณยานี้
  • ใช้ร่วมกับยายับยั้งเอนไซม์ไซโตรโครมพี 450 3 เอ 4 แบบปานปลางหรือเบา : ควรพิจารณาการลดปริมาณหากเกิดภาวะความดันโลหิตต่ำ

คำแนะนำอื่นๆ

คำแนะนำการใช้

  • สำหรับการรับประทานยา ควรรับประทาน 1-2 ชั่วโมง ก่อนหรือหลังมื้ออาหาร
  • ควรหลีกเลี่ยงยาที่ผสมอัลคาไลน์ (Alkaline mixtures) ก่อนและหลังจากรับประทานยานิโมดิปีน
  • ยาแบบรับประทานนั้นควรจำกัดไว้ใช้กับการใช้ภายในเท่านั้น (เช่น รับประทาน หรือให้ทางสายให้อาหาร)
  • หลังจากให้ยาทางสายให้อาหาร ควรล้างกระบอกฉีดยาด้วยน้ำเกลือ 0.9% 20 ถึง 30 มล. เพื่อล้างเอายาที่เหลืออยู่ให้เข้าสู่กระเพาะอาหาร
  • ยานิโมดิปีนแบบฉีดเข้าหลอดเลือดดำนั้น สามารถให้ในช่วงระหว่างการระงับความรู้สึกหรือการผ่าตัด

การเก็บรักษา

  • ยาแคปซูล : เก็บให้พ้นจากแสงและช่องแช่แข็ง
  • ยาสารละลายสำหรับรับประทาน : เก็บให้พ้นจากแสง ห้ามแช่ตู้เย็น
  • ยาเม็ดสำหรับรับประทาน : เก็บให้พ้นจากความชื้นและแสง
  • ยาสำหรับฉีด : เก็บให้พ้นจากแสงและช่องแช่แข็ง

เทคนิคการคืนรูปหรือการเตรียมการ

  • สำหรับผู้ที่ไม่สามารถกลืนยาแคปซูล อาจให้ยาสำหรับรับประทานได้ด้วยการใช้กระบอกฉีดยาดูดเอาเจลภายในแคปซูลออกมา และให้ผ่านทางสายให้อาหาร

ความเข้ากันของการฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำ (IV compatibility)

  • ควรมีการศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิต

ทั่วไป

  • ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของเกรปฟรุต ระหว่างการรักษา
  • ไม่แนะนำการรักษาสำหรับอาการเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นกลางแบบมีแผล (traumatic subarachnoid hemorrhage) เนื่องจากยังไม่มีการพิสูจน์ประโยชน์

การเฝ้าระวัง

  • หัวใจและหลอดเลือด
  • ความดันโลหิต
  • อัตราการเต้นของหัวใจ

คำแนะนำสำหรับผู้ป่วย

  • ผู้ป่วยควรทราบว่ายานี้อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียนและควรหลีกเลี่ยงการใช้ยานพาหนะหรือใช้เครื่องจักรหากเกิดผลข้างเคียงเหล่านี้
  • ผู้ป่วยควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากตั้งครรภ์ ตั้งใจที่จะตั้งครรภ์ หรือกำลังให้นมบุตร
  • ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของเกรปฟรุตระหว่างการรักษา

ขนาด นิโมดิปีน สำหรับเด็ก

ไม่ได้มีการกำหนดขยาดยาสำหรับผู้ป่วยเด็ก ยานี้อาจไม่ปลอดภัยสำหรับสิ่งที่สำคัญคือต้องศึกษาการใช้ยาอย่างปลอดภัยก่อนรับประทาน โปรดปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

รูปแบบของยา

รูปแบบของยามี ดังนี้

  • ยาแคปซูลสำหรับรับประทาน
  • ยาน้ำสำหรับรับประทาน

กรณีฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด

หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือใช้ยาเกินขนาด ควรแจ้งเหตุฉุกเฉิน หรือนำส่งห้องฉุกเฉินใกล้บ้านโดยทันที

กรณีลืมใช้ยา

หากคุณลืมรับประทานนิโมดิปีน ควรรีบใช้ในทันทีที่นึกได้ หรือถ้าหากใกล้ถึงเวลาใช้ยาครั้งต่อไป ให้ข้ามรอบไปใช้ยาตามตารางปกติได้เลย ไม่ควรเพิ่มปริมาณยาก่อนได้รับอนุญาตจากแพทย์

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำทางการแพทย์ การวินิจฉัยโรคหรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

[embed-health-tool-bmi]

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Nimodipine Dosage. https://www.drugs.com/dosage/nimodipine.html. Accessed December 02, 2019.

Nimodipine. https://www.webmd.com/drugs/2/drug-10951/nimodipine-oral/details. Accessed December 02, 2019.

nimodipine – oral, Nymalize. https://www.medicinenet.com/nimodipine-oral/article.htm. Accessed December 02, 2019.

เวอร์ชันปัจจุบัน

11/05/2020

เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล

ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์

อัปเดตโดย: ปัญญพัฒน์ เอี่ยมสิน


บทความที่เกี่ยวข้อง

โคเอนไซม์คิวเทน (CoQ10) เชื่อมโยงกับ สุขภาพหัวใจ อย่างไร

ยาแก้เจ็บคอ ควรใช้เมื่อไหร่ดี มีข้อควรระวังอย่างไร


ตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์โดย

เภสัชกรอาชานนท์ สมศักดิ์

ยาและอาหารเสริม · Hello Health Group


เขียนโดย พลอย วงษ์วิไล · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา