อย่างไรก็ดี ของเหลวไม่ได้หมายถึงแค่น้ำเปล่าเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงน้ำผลไม้ น้ำแข็ง ไอศกรีม กาแฟ ชา แกงจืด ข้าวต้ม และน้ำซุปอีกด้วย ดังนั้น เมื่อต้องดูแลปริมาณของเหลวตามคำแนะนำของแพทย์ ผู้ป่วยจึงควรใส่ใจในการชั่ง ตวง วัดของเหลวที่บริโภคในทุกวัน วิธีที่ง่ายๆ ก็คือทำความเข้าใจความจุของถ้วย แก้ว และชามที่คุณใช้ที่บ้านเป็นประจำ ซึ่งโดยเฉลี่ยถ้วยกาแฟมีปริมาตร 125-150 มิลลิลิตร ถ้วยตวง 250 มิลลิลิตร ขวดน้ำ 600-1000 มิลลิลิตร เมื่อทราบถึงความจุแล้ว ผู้ป่วยก็สามารถดูแลตนเองได้อย่างมีคุณภาพ สามารถปฎิบัติตามคำแนะนำได้สำเร็จ
ลดเกลือในอาหาร
โซเดียม (หรือเกลือโซเดียม) เป็นสารอาหารที่เกี่ยวข้องกับสมดุลน้ำในร่างกาย มีส่วนทำให้ร่างกายกักเก็บของเหลวส่วนเกินได้มากขึ้น ซึ่งส่งผลให้หัวใจทำงานหนัก เพราะต้องใช้แรงบีบตัวในการสูบฉีดโลหิตในปริมาณมากขึ้น อาจทำให้ภาวะหัวใจล้มเหลวมีความรุนแรงมากขึ้น และมีอาการแย่ลงได้
ในภาวะโดยส่วนมากแล้ว แพทย์มักแนะนำให้ผู้ป่วยหัวใจล้มเหลวจำกัดการบริโภคโซเดียม ไม่เกิน 2000 มิลลิกรัม หรือน้อยที่สุดเท่าที่ผู้ป่วยจะทำได้ ดังนั้น ผู้ป่วยควรหลีกลี่ยงหรือจำกัดการรับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง ซึ่งโดยส่วนใหญ่สังเกตว่า มักจะมีรสเค็มเด่น เช่น น้ำปลา ซีอิ๊ว ผงชูรส ผงปรุงรส เต้าหู้ยี้ กะปิ ปลาร้า อาหารหมักดอง เป็นต้น อาหารที่ถูกจำกัดปริมาณโซเดียม จะมีรสชาติอ่อนๆ อาจไม่ถูกใจผู้ป่วย และทำให้ความอยากอาหารลดลงในช่วงแรกๆ แต่เมื่อได้ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค สร้างความคุ้นชินไประยะหนึ่งแล้ว ผู้ป่วยก็จะยอมรับรสชาติอาหารไปได้เอง
ความคิดเห็นทั้งหมด
แบ่งปันความคิดเห็นของคุณ
ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณกับ Hello คุณหมอ
สมัครสมาชิก หรือ เข้าสู่ระบบ เพื่อร่วมการพูดคุย