backup og meta

ความเชื่อผิดๆ และข้อเท็จจริงสามประการเกี่ยวกับ สายตา

ความเชื่อผิดๆ และข้อเท็จจริงสามประการเกี่ยวกับ สายตา

สายตา เป็นการรับรู้ที่สำคัญมากที่สุดของมนุษย์ ถึงแม้คนทั่วไปจะใส่ใจในการดูแลสายตาเป็นอย่างดี แต่ก็ยังมีความเข้าใจผิด เกี่ยวกับการดูแลสายตาในหลายประการ บทความนี้นำเสนอความเชื่อผิดๆ และข้อเท็จจริงสามประการ เกี่ยวกับสายตาของเรา

ความเชื่อผิดๆ เรื่องสายตา

ความเชื่อผิดๆ 1: สายตาเสียได้เมื่อนั่งใกล้โทรทัศน์มากเกินไป

เมื่อยังเป็นเด็ก คุณอาจถูกเตือนว่าการนั่งใกล้โทรทัศน์มากเกินไปทำลายสายตา แต่ความเชื่อนี้เป็นความเชื่อที่ผิด แท้จริงแล้ว การนั่งดูโทรทัศน์ใกล้ๆ ไม่ได้ทำร้ายดวงตา แต่ดวงตาอาจเกิดความล้า เมื่อดูโทรทัศน์เป็นเวลานานเกินไป หรืออาจทำให้คุณรู้สึกปวดหัวได้ การใช้คอมพิวเตอร์ และการดูภาพยนต์สามมิติ ก็ส่งผลต่อดวงตาได้ในลักษณะเดียวกัน หากคุณไม่สามารถหลีกเลี่ยง การใช้เวลาหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ได้ ควรพักสายตาเป็นบางช่วงขณะทำงาน

ความเชื่อผิดๆ 2: การอ่านหนังสือในที่มืดทำให้สายตาเสีย

พ่อแม่หลายคนห้ามไม่ให้ลูกอ่านหนังสือในที่มีแสงสลัว เนื่องจากกลัวว่าจะส่ผลเสียต่อสายตา แต่แท้จริงแล้ว การอ่านหนังสือในที่มีแสงสลัวนั้นไม่ได้ส่งผลเสียต่อดวงตา เพียงแค่ทำให้อ่านได้ยากมากขึ้น คนในอดีตใช้แสงเทียนและแสงตะเกียง ในการอ่านหนังสือและทำงานมานับร้อยปี ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ให้ความสว่างน้อยกว่าไฟฟ้าในปัจจุบัน แต่สายตาของพวกเขาก็ไม่เสีย อย่างไรก็ตาม แสงสว่างที่ดีช่วยป้องกันความอ่อนล้าของดวงตา และทำให้อ่านหนังสือได้ง่ายขึ้น

ความเชื่อผิดๆ 3: การใส่แว่นตาทำให้ต้องใส่ไปตลอด

แว่นตาช่วยปรับสายตาที่มองเห็นไม่ชัดเจนได้ การสวมแว่นตาช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจนขึ้น แต่ไม่ได้ทำให้ดวงตาของคุณต้องพึ่งพาแว่นตาไปตลอด เพราะแว่นตาไม่ได้ปรับเปลี่ยนส่วนใดของดวงตา แท้จริงแล้วเป็นที่ผู้สวมใส่เอง ที่เคยชินกับการมองเห็นที่ชัดเจนเมื่อสวมแว่น เช่นเดียวกันการสวมแว่นตาที่ไม่เหมาะสมต่อสภาพสายตา ก็ไม่ได้ทำลายสายตา คุณแค่จะไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน หากสวมแว่นตาที่ไม่เหมาะสม

ข้อเท็จจริงเรื่องสายตา

ข้อเท็จจริง 1: สารให้ความหวานเพิ่มอาการไวต่อแสงของดวงตา

การบริโภคสารให้ความหวาน เช่น ไซคลาเมท สามารถทำให้ดวงตาไวต่อแสงมากขึ้นได้ ปัจจัยอื่นๆ เช่น การใช้ยาปฏิชีวนะ ยาคุมกำเนิดแบบรับประทาน ยารักษาโรคความดันโลหิตสูง ยาขับปัสสาวะ และยารักษาเบาหวาน ก็สามารถทำให้ดวงตาไวต่อแสงได้มากขึ้นเช่นกัน

ข้อเท็จจริง 2: เด็กที่ตาเหล่สามารถรักษาได้

อาการตาเหล่ (Strabismus) ที่เกิดขึ้นในเด็ก ไม่สามารถหายเองได้ แต่สามารถรักษาให้หายได้ด้วยวิธีทางการแพทย์ การรักษาอาการจะทำได้ง่ายกว่า เมื่อเด็กยังอายุไม่มาก ดังนั้น พ่อแม่จึงควรพาลูกไปตรวจดวงตาเมื่อยังเป็นทารก และอีกครั้งเมื่ออายุสองขวบ

ข้อเท็จจริง 3: แครอทช่วยบำรุงสายตา

แครอทอุดมไปด้วยวิตามินเอ ซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อสายตา การรับประทานแครอท ช่วยเสริมให้ร่างกายได้รับวิตามินเอในระดับหนึ่ง แต่วิตามินเอพบได้ในอาหารประเภทอื่นๆ ด้วย เช่น นม ชีส ไข่แดง และตับ การรับประทานอาหารให้ครบถ้วนก่อประโยชน์ต่อร่างกายได้เช่นเดียวกัน

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ การวินิจฉัย หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

หมายเหตุ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

Myths About Your Eyes and Vision. http://www.webmd.com/eye-health/fact-fiction-myths-about-eyes#1. Accessed May 12, 2017.

Five Vision Myths. https://www.aao.org/eye-health/tips-prevention/five-vision-myths. Accessed May 12, 2017.

เวอร์ชันปัจจุบัน

11/05/2020

เขียนโดย ฤทธิศักดิ์ วงศ์วุฒิพงษ์

ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย ทีม Hello คุณหมอ

อัปเดตโดย: pimruethai


บทความที่เกี่ยวข้อง

ท่าบริหารดวงตา ฟื้นฟูความสดใสให้ดวงตาที่อ่อนล้าแบบง่ายๆ

สารพันปัญหาที่ทำให้คุณ น้ำตาไหลตลอดเวลา โดยไม่ได้ร้องไห้!


ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลโดย

ทีม Hello คุณหมอ


เขียนโดย ฤทธิศักดิ์ วงศ์วุฒิพงษ์ · แก้ไขล่าสุด 11/05/2020

ad iconโฆษณา

คุณได้รับประโยชน์จากบทความนี้หรือไม่?

ad iconโฆษณา
ad iconโฆษณา